กินซะ (
ญี่ปุ่น: 銀座
โรมาจิ:
Ginza) หรือที่คนไทยนิยมเรียกว่า "กินซ่า" เป็นย่านใน
ชูโอ กรุงโตเกียว เหนือแขวง
ชิมบาชิ ใต้ย่าน
ยาเอซุกับ
เคียวบาชิ ทางตะวันตกของแขวง
สึกิจิ และทางตะวันออกของย่าน
ยูรากูโจกับ
อูชิไซไวโช มีชื่อเสียงเพราะมากด้วยร้านรวงหรูหรา ทั้งยังถือกันว่าเป็นย่านการค้าราคาแพงมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลกกินซะนั้นเดิมเป็นหนองบึง ต่อมาได้รับการถมในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 16 ครั้น ค.ศ. 1612 ตรงกับ
ยุคเอโดะ มีการตั้งโรงกษาปณ์ขึ้น ณ ที่นั้นเรียกชื่อว่ากินซะ ที่ดินจึงได้ชื่อตามโรงกษาปณ์ไปด้วย
[1]พอ ค.ศ. 1872 เกิดเพลิงไหม้อาคารบ้านเรือนบริเวณนั้นเกือบสิ้น
[1] เมื่อเพลิงสงบ รัฐบาลเมจิจึงกำหนดให้ใช้ย่านกินซะเป็น "ตัวอย่างการพัฒนาให้ทันสมัย" โดยเตรียมสร้างอาคารด้วยอิฐกันไฟ พร้อมด้วยถนนหนทางกว้างขวางเชื่อมกับสถานีรถไฟชิมบาชิ เขตสัมปทานต่างชาติในแขวงสึกิจิ ตลอดจนสำนักราชการบ้านเมืองหลายแห่ง
ทอมัส วอเตอส์ (Thomas Waters) สถาปนิกชาวไอริช รับหน้าที่วางแผนปรับปรุงที่ดินดังกล่าว
[1] ส่วนทบวงโยธาธิการ กระทรวงการคลัง รับหน้าที่ก่อสร้าง ครั้นปีถัดมา จึงได้เห็นเส้นทางสำหรับเดินทอดน่องท่องเที่ยวอย่างตะวันตกเริ่มตั้งแต่ปลายสะพานชิมบะชิไปจนสุดสะพานเคียวชาบิด้านตะวันตกเฉียงใต้ของเขตชูโออย่างไรก็ดี อาคารฝรั่งหลายแห่งบัดนี้ได้สูญสิ้นลงหมดแล้ว เหลือไม่กี่แห่งซึ่งมีอายุมากและคงรักษาไว้อยู่ ในจำนวนนี้รวมถึง ร้าน
วาโก (和光) ซึ่งมีหอนาฬิกาที่ปัจจุบันกลายเป็นสัญลักษณ์ของย่านกินซะ ร้านค้าและหอนาฬิกาดังกล่าวเป็นผลงานของคินตาโร ฮัตโตริ (服部 金太郎) ผู้ก่อตั้งบริษัทนาฬิกา
เซโกะ (ไซโก้)ส่วนความเป็นไปในสมัยหลังของกินซะนั้นเกี่ยวเนื่องกับห้างร้านอย่างฝรั่งเสียมาก เนื่องจากกินซะได้กลายเป็นจุดหมายปลายทางอันได้รับความนิยมมากในวันหยุดสุดสัปดาห์ซึ่งมีการปิดการจราจรบนเส้นทางหลักตั้งแต่เหนือจรดใต้เพื่อประโยชน์ในการท่องเที่ยวมาตั้งแต่คริสต์ทศวรรษ 1960 ตามคำสั่งของ
เรียวกิจิ มิโนเบะ (美濃部 亮吉) ผู้ว่าราชการกรุงโตเกียวในสมัยนั้น