เมนูนำทาง
แคทเธอรีน วูดวิลล์ ดัชเชสแห่งบักกิงแฮม การคืนสถานะในรัชสมัยของพระเจ้าเฮนรีที่ 7ชะตากรรมของแคทเธอรีนพลิกผันอีกครั้งในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1485 เมื่อเฮนรี ทิวดอร์นำกองทัพบุกอังกฤษและดับลมหายใจของพระเจ้าริชาร์ดที่ 3 ที่ทุ่งบอสเวิร์ธในวันที่ 22 สิงหาคม พระเจ้าริชาร์ดที่ 3 ถูกสังหารระหว่างทำสมรภูมิและเฮนรี ทิวดอร์ได้ครองบัลลังก์เป็นพระเจ้าเฮนรีที่ 7 ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์ทิวดอร์ตามสิทธิ์แห่งการพิชิต ก่อนพิธีราชาภิเษกของพระเจ้าเฮนรี เอ็ดเวิร์ด บุตรชายคนโตวัย 7 ปีของแคทเธอรีนได้รับแต่งตั้งเป็นอัศวินบาร์ธ สิทธิ์ในการดูแลบุตรชายคนโตสองคนของเธอตกเป็นของมาร์กาเร็ต โบฟอร์ต มารดาของกษัตริย์ เด็กชายทั้งสองเติบโตในครัวเรือนของมาร์กาเร็ต
พระราชบัญญัติฉบับใหม่ได้ยกเลิกการเพิกถอนสิทธิ์ ไม่ใช่เพียงแค่สินสอดแต่แคทเธอรีนยังได้รับมรดก 1,000 มาร์คที่สามีทิ้งไว้ให้ในพินัยกรรมกลับคืนมา ดินแดนซึ่งเป็นสินสอดเธอประกอบด้วยที่ดินและคฤหาสน์ราวครึ่งหนึ่งของดยุคแห่งบักกิงแฮมทั้งในอังกฤษและเวลส์ ทั้งยังรวมถึงทรัพย์สินที่ดินอันกว้างใหญ่ในเคนต์, เซอร์รีย์, ลอนดอน, นอร์ฟอล์ก, กลอสเตอร์เชอร์, คอร์นวอลล์, เฮริฟอร์ด และรัฐชายแดนเวลส์ รายได้ต่อปีที่สูงถึง 2,500 ปอนด์ทำให้เธอกลายเป็นหญิงที่ร่ำรวยมาก
แคทเธอรีนสมรสกับแจสเปอร์ ทิวดอร์ พระปิตุลาวัย 55 ปีของกษัตริย์คนใหม่ที่เพิ่งถูกตั้งให้เป็นดยุคแห่งเบดฟอร์ด เขาเลี้ยงดูกษัตริย์คนใหม่มาด้วยตัวคนเดียวในช่วงที่ถูกขับไล่ไปอยู่ในเบรอตาญหลังฝ่ายแลงคัสเตอร์พ่ายแพ้ที่ทูว์กสบรีในปี ค.ศ. 1471 กษัตริย์จึงตกรางวัลให้ด้วยการสมรสกับแคทเธอรีนที่จะช่วยส่งเสริมสถานะผู้แทนกษัตริย์ในเวลส์ของเขาให้มั่นคงขึ้น การสมรสได้รับการรับรองจากสภานิติบัญญัติในวันที่ 7 พฤษภาคม ค.ศ. 1485 ทรัพย์สินที่ดินของแคทเธอรีนถูกบริหารปกครองแยกจากทรัพย์สินที่ดินของสามี แคทเธอรีนกับแจสเปอร์เข้าร่วมงานในราชสำนักช่วงเทศกาลคริสต์มาสของปี ค.ศ. 1485 พระเจ้าเฮนรีพระราชทานจอกทองคำเป็นของขวัญให้แก่แคทเธอรีน ต่อมาในเดือนมีนาคมแจสเปอร์เดินทางกลับไปเวลส์แต่แคทเธอรีนยังคงอยู่ที่วิหารสแตฟฟอร์ดใกล้กับลอนดอน พระเจ้าเฮนรีที่ 7 สมรสกับเอลิซาเบธแห่งยอร์ก หลานน้าของแคทเธอรีนในวันที่ 18 มราคม ค.ศ. 1486 แคทเธอรีนเข้าร่วมพิธีราชาภิเษกของพระราชินีเอลิซาเบธในวันที่ 25 พฤศจิกายน ค.ศ. 1487 โดยนั่งอยู๋ในรถม้าหลังพระราชินีระหว่างการเดินทางจากหอคอยลอนดอนไปวิหารเวสต์มินสเตอร์ และนั่งอยู่ข้างพระราชินีในงานเลี้ยงหลังพิธี
แคทเธอรีนใช้เวลาส่วนใหญ่ในปราสาทของดยุคแห่งเบดฟอร์ดที่ธอร์นบรีในกลอสเตอร์เชอร์ ทั้งคู่ไม่มีบุตรธิดาด้วยกัน พี่สาวของเธอซึ่งเป็นพระราชินีม่ายสิ้นพระชนม์ในวันที่ 8 มิถุนายน ค.ศ. 1492 เธออาจจะเข้าร่วมหรือไม่ได้เข้าร่วมพิธีศพที่จัดขึ้นในอีกสี่วันต่อมา แจสเปอร์ สามีของเธอเสียชีวิตในวันที่ 21 ธันวาคม ค.ศ. 1495 แคทเธอรีนไม่มีชื่ออยู่ในพินัยกรรมของเขา
วันที่ 25 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1496 แคทเธอรีนสมรสกับริชาร์ด วิงฟิลด์ผู้อ่อนวัยกว่าเธอถึง 12 ปี เขาเป็นบุตรชายคนเล็กของครอบครัวใหญ่ที่มีปัญหาด้านการเงิน จอห์นกับเอ็ดมันด์ พี่ชายสองคนของเขารับใช้อยู่ในครัวเรือนของแคทเธอรีน ริชาร์ดเองก็อาจจะเช่นกัน ทั้งคู่ไม่มีบุตรธิดาด้วยกันแต่ริชาร์ดได้ใช้ปราสาทคิมโบลตันและได้ร่วมใช้รายได้ในสแตฟฟอร์ดเป็นเงิน 1,000 ปอนด์ต่อปีในช่วงที่แคทเธอรีนยังมีชีวิตอยู่ การสมรสเกิดขึ้นโดยไม่ได้ขออนุญาตกษัตริย์ พระเจ้าเฮนรีที่ 7 จึงปรับทั้งคู่เป็นเงินก้อนโตจำนวน 2,000 ปอนด์ ทว่ากว่าการจ่ายค่าปรับจะเกิดขึ้นก็เมื่อบุตรชายคนโตของแคทเธอรีนได้ขึ้นเป็นดยุคที่ 3 แห่งบักกิงแฮมหลังแคทเธอรีนเสียชีวิตในวันที่ 18 พฤษภาคม ค.ศ. 1497 ชีวิตสมรสครั้งที่สามของเธอมีอายุเพียงปีกว่าๆ สามีคนที่สามไม่เคยลืมเธอแม้จะสมรสใหม่ในภายหลังก็ตาม ในพินัยกรรมที่เขียนขึ้นในปี ค.ศ. 1525 เขาขอให้ผู้คนสวดมนต์เพื่อขอความสงบให้แก่ดวงวิญญาณของแคทเธอรีน
เมนูนำทาง
แคทเธอรีน วูดวิลล์ ดัชเชสแห่งบักกิงแฮม การคืนสถานะในรัชสมัยของพระเจ้าเฮนรีที่ 7ใกล้เคียง
แคทเธอรีน เดอ เมดีชี แคทเธอรีน วอเตอร์สตัน แคทเธอรีน วูดวิลล์ ดัชเชสแห่งบักกิงแฮม แคทเธอรีน เคลลี่ แลง แคทเธอรีนแห่งบราแกนซา แคทเธอรีน ดัชเชสแห่งเคนต์ แคทเธอรีน พารร์ พระราชินีแห่งอังกฤษ แคทเธอรีน ซีต้าโจนส์ แคทเธอรีนแห่งแลงคัสเตอร์ สมเด็จพระราชินีแห่งกัสติยา แคทเทอรีน แคร์รี เบ็ทติสแหล่งที่มา
WikiPedia: แคทเธอรีน วูดวิลล์ ดัชเชสแห่งบักกิงแฮม https://historytheinterestingbits.com/2016/07/16/t... https://thefreelancehistorywriter.com/2017/03/31/k...