อณูพันธุศาสตร์ ของ CYP2B6

เอนไซม์ CYP2B6 ถือเป็นหนึ่งในระบบเอนไซม์ไซโทโครม P450 ซึ่งมีส่วนสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อกระบวนการการเปลี่ยนแปลงยา สารซีโนไบโอติค และสารเคมีอื่นๆ ในร่างกายมนุษย์ ยีน CYP2B6 ซึ่งเป็นยีนที่ควบคุมเอนไซม์นี้มีความใกล้ชิดกันกับยีนเทียม CYP2B6 เป็นอย่างมาก ทำให้การแยกไอโซฟอร์มของเอนไซม์ต่างๆที่ถูกผลิตออกจากมายีนทั้งสองนี้เป็นไปได้อย่างลำบาก โดยยีนทั้งสองนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มยีน cytochrome P450 บนแขนด้านยาวของโครโมโซมคู่ที่ 19 ตำแหน่งโลคัส 19q13.2[3][4] และมียีนบรรพบุรุษร่วมกันกับ CYP2B11, Cyp2b10 และ CYP2B1 ที่พบในสุนัข หนูเมาส์ และหนูแรท ตามลำดับ แต่เอนไซม์ CYP2B6 ของมนุษย์ถือเป็นไอโซไซม์เดียวในสกุลย่อย CYP2B ที่สามารถแสดงออกได้ ซึ่งแตกต่างจากเอนไซม์ในสกุลย่อยนี้ที่พบในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมสายพันธุ์อื่นๆ[5]

ความแปรผันหลากหลายทางพันธุกรรม (genetic polymorphism) ยีน CYP2B6 และการเหนี่ยวนำ (inducer) หรือยับยั้ง (inhibitor) การทำงานของยีน CYP2B6 จากยาหรือสารเคมีต่างๆ ถือเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้การทำงานของเอนไซม์ CYP2B6 ในแต่ละบุคคลนั้นมีความผันแปรค่อนข้างสูง ถึงกระนั้นแล้ว ซิงเกิลนิวคลีโอไทด์โพลีมอร์ฟิซึมของ CYP2B6 ก็มีประโยชน์ในการศึกษาเพื่อทำนายการตอบสนองต่อยาและคุณสมบัติทางเภสัชจลนศาสตร์ของยาบางชนิด เช่น ยาต้านรีโทรไวรัสอย่างอีฟาวิเรนซ์ และเนวิราพีน เป็นต้น[6][7][8] อย่างไรก็ตาม ข้อมูลการศึกษาเท่าที่มีในปัจจุบันสามารถบ่งชี้ได้เพียงว่ากลไกทางเภสัชพันธุศาสตร์ของยีนนี้มีความซับซ้อนเป็นอย่างมาก ซึ่งปรากฏอยู่ในหลายระดับของการแสดงออกของยีน เริ่มต้นตั้งแต่การถอดรหัสของเอ็มอาร์เอ็นเอไปจนกระทั่งเป็นรูปแบบการต่อ (splice variant; การต่อของ pre-mRNA splicing และการแสดงออกของ mRNA) เพื่อปรับเปลี่ยนโปรตีน และแสดงผลการทำงานในรูปแบบต่างๆ ทั้งที่ขึ้นกับซับสเตรต (substrate-dependent effect) และไม่ขึ้นกับซับสเตรต (substrate-independent effects)[6][9][10][11]

แหล่งที่มา

WikiPedia: CYP2B6 http://www.cell.com/trends/pharmacological-science... http://www.eurekaselect.com/57866/article http://www.eurekaselect.com/59240/article http://www.eurekaselect.com/70560/article http://www.medscape.com/viewarticle/748581_4 http://medicine.iupui.edu/flockhart/table.htm http://www.fda.gov/Drugs/DevelopmentApprovalProces... //www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC1885008 //www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC2346649 //www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC2574793