La dolce vita (
ภาษาอิตาลี แปลว่า "ชีวิตอันแสนหวาน"
[1]) เป็นภาพยนตร์อิตาลีที่ออกฉายในปี พ.ศ. 2503 กำกับและเขียนบทโดย
เฟเดอริโก เฟลลินี ถ่ายทำด้วยฟิล์มขาวดำ และแต่งดนตรีประกอบภาพยนตร์โดย
นิโน โรตา มีเนื้อหาเกี่ยวกับนักหนังสือพิมพ์หนุ่มเจ้าสำราญที่ใช้เวลาหนึ่งสัปดาห์อยู่ใน
กรุงโรม วุ่นวายไปการทำงาน และใช้ชีวิตพัวพันไปกับสาวสวยหลายคน เพื่อค้นหา
ความรักและ
ความสุขในชีวิตภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับการอ้างถึงว่า เป็นจุดเปลี่ยนของผลงานของเฟลลินี จากผลงานยุคแรกในแนว neo-realism ไปสู่แนว art ในยุคหลัง ภาพยนตร์ได้รับ
รางวัลปาล์มทองคำ จาก
เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ประจำปี 1960
[2][3] เสนอชื่อเข้าชิง
รางวัลออสการ์ 4 รางวัล และได้รับรางวัลการออกแบบเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยม (ภาพยนตร์ขาวดำ) และได้รับการโหวตให้ติดอันดับ 6 จาก 100 อันดับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม โดยนิตยสาร Entertainment Weekly
[4]ฉากเด่นในภาพยนตร์ ที่ถูกนำมาอ้างอิงถึงบ่อยครั้ง คือฉากที่ มาร์เชลโล (มาร์เชลโล มาสโตรอิอานนี) และ ซิลเวีย (แอนนิตา เอกเบิร์ก) ลงไปเล่นน้ำใน
น้ำพุเทรวี [5] และฉากเปิดเรื่อง ที่มี
เฮลิคอปเตอร์บรรทุก
รูปปั้นพระเยซูเพื่อนำไปส่งที่
กรุงวาติกัน ฉากเหล่านี้ถูกนำมาอ้างอิงถึงในภาพยนตร์ของ
สตีฟ มาร์ติน (L.A. Story ปี 1991),
วูล์ฟกัง เบกเกอร์ (
Good Bye, Lenin! ปี 2003),
วูดดี อัลเลน (Celebrity ปี 1998) หรือแม้แต่
หนังโป๊เกย์ของ
ไมเคิล ลูคัส (Michael Lucas' La Dolce Vita ปี 2007)ตัวละคร
ช่างภาพที่ทำงานร่วมกับมาร์เชลโล ชื่อ ปาปาราซโซ (
อิตาลี: Paparazzo) ก็เป็นที่มาของชื่อ "
ปาปารัซซี" ที่ใช้เรียกช่างภาพอาชีพที่คอยติดตามเรื่องราวชีวิตส่วนตัวของดาราที่มีชื่อเสียง
[6]