นับจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2018 มีผู้ใช้งานซอฟต์แวร์ RETScreen แล้วมากกว่า 575,000 รายในทุกภูมิภาคทั่วโลก [20]

การศึกษาผลกระทบโดยองค์กรอิสระ[21] ได้ทำการประมาณว่าในปี 2013 การใช้งานซอฟต์แวร์ RETScreen ทั่วโลกมีส่วนในการช่วยลดต้นทุนไปมากกว่า 8 พันล้านเหรียญสหรัฐ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกกว่า 20 ล้านตันต่อปี และยังช่วยให้เกิดการผลิตพลังงานสะอาดอย่างน้อยกว่า 24 GW

RETScreen นั้นใช้กันอย่างแพร่หลายเพื่ออำนวยความสะดวกและดำเนินโครงการพลังงานสะอาด โดยมีการนำ RETScreen ไปใช้ใน:

• การปรับปรุง ตึกเอ็มไพร์สเตต ด้วยมาตรการการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ [22]
• โรงงานผลิตของ 3M ประเทศแคนาดา[23]
• อุตสาหกรรมด้านลมของไอร์แลนด์ที่ใช้กันอย่างกว้างขวาง เพื่อวิเคราะห์โครงการใหม่ที่มีศักยภาพ [24]
• การตรวจสอบประสิทธิภาพการทำงานของโรงเรียนนับร้อยแห่งในออนตาริโอ[25]
• โปรแกรมผสานความร้อนและพลังงาน (การเพิ่มประสิทธิภาพพลังงานชีวภาพ) ของ Manitoba Hydro เพื่อคัดกรองการใช้งานโครงการ[26][27]
• การจัดการพลังงานในวิทยาเขตของมหาวิทยาลัยและวิทยาลัยต่าง ๆ[28]
• การประเมินผลและประสิทธิภาพของพลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ในหลาย ๆ ปีของเมืองโตรอนโต ประเทศแคนาดา [29][30]
• การวิเคราะห์ความร้อนจากแสงอาทิตย์ในฐานทัพของกองทัพอากาศสหรัฐฯ[31]
• อาคารต่าง ๆ ของเทศบาล ซึ่งรวมถึงการระบุโอกาสในการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานในเขตเทศบาลต่าง ๆ ของออนตาริโอ [32][33]

โดยบทความเกี่ยวกับการใช้งาน RETScreen ในบริบทต่าง ๆ นั้นมีให้ศึกษามากมายในหน้า LinkedIn ของ RETScreen [34]

RETScreen ยังถูกนำไปใช้เป็นเครื่องมือในการสอนและการวิจัยในมหาวิทยาลัยและวิทยาลัยกว่า 1,100 แห่งทั่วโลก อีกทั้งยังมักได้รับการอ้างถึงในเอกสารข้อมูลด้านการศึกษาอยู่บ่อย ๆ [35] ตัวอย่างการใช้งานของ RETScreen ในสถาบันการศึกษาสามารถดูได้จากส่วน "สิ่งตีพิมพ์และรายงานต่าง ๆ" และ "หลักสูตรมหาวิทยาลัยและวิทยาลัย" ในจดหมายข่าว RETScreen ซึ่งสามารถดูได้จากคู่มือผู้ใช้งานในซอฟต์แวร์ที่ได้ดาวน์โหลดไป

โปรแกรมสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาดได้ให้ความไว้วางใจหรือแนะนำให้ใช้งาน RETScreen ในองค์กรภาครัฐทุกระดับทั่วโลก ซึ่งประกอบไปด้วย UNFCCC และสหภาพยุโรป แคนาดา นิวซีแลนด์ และสหราชอาณาจักร และรัฐ จังหวัด เมือง เทศบาล รวมถึงงานด้านสาธารณูปโภคมากมายทั่วทั้งสหรัฐอเมริกาและแคนาดา [36] รวมถึงยังมีการฝึกอบรมการใช้งาน RETScreen ในระดับชาติและภูมิภาคตามคำร้องขออย่างเป็นทางการจากรัฐบาลชิลี [37] ซาอุดิอาระเบีย [38] และ 15 ประเทศในแอฟริกาตะวันตกและแอฟริกากลาง [39] รวมถึงองค์กรพลังงานงานของละตินอเมริกา (OLADE)