บัลแกเรีย เชโกสโลวาเกีย เยอรมนีตะวันออก(ถอนตัวปี พ.ศ. 2533)2
ฮังการี โปแลนด์(ถอนตัวปี พ.ศ. 2533)
โรมาเนียกติกาสัญญาวอร์ซอ (
อังกฤษ: Warsaw Pact) หรือชื่อทางการว่า
สนธิสัญญาแห่งไมตรี ความร่วมมือ และการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน (
อังกฤษ: Treaty of Friendship, Co-operation, and Mutual Assistance;
รัสเซีย: Договор о дружбе, сотрудничестве и взаимной помощи) บางครั้งเรียกขานอย่างไม่เป็นทางการว่า
วอร์แพ็ก (
อังกฤษ: WarPac)
[1] เป็น
กติกาสัญญาด้านความมั่นคงร่วมกันระหว่าง
สหภาพโซเวียตกับ
รัฐบริวารของตนอีกเจ็ดแห่งใน
ยุโรปตอนกลางและตะวันออกระหว่างช่วง
สงครามเย็น กติกาสัญญาวอร์ซอเป็นส่วนเพิ่มด้านการทหารของ
คณะกรรมาธิการเพื่อการช่วยเหลือทางเศรษฐกิจระหว่างกันหรือ โคเมคอน (Council for Mutual Economic Assistance; CoMEcon) ซึ่งเป็นองค์การทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาคสำหรับรัฐคอมมิวนิสต์ในยุโรปตอนกลางและตะวันออก ทั้งนี้กติกาสัญญาวอร์ซอก่อตั้งขึ้นเพื่อตอบโต้การที่
เยอรมนีตะวันตกเข้าร่วมกับ
องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (เนโท)
[2][3][4][5] ในปี พ.ศ. 2498 จากการลงนามใน
สนธิสัญญาปารีส พ.ศ. 2497
[6][7][8][9][10] แต่ก็ยังถือว่าก่อตั้งขึ้นเพราะสหภาพโซเวียตต้องการดำรงอำนาจควบคุมทางการทหารใน
ยุโรปตอนกลางและ
ยุโรปตะวันออกด้วยเช่นกัน
[11]แม้ว่ากติกาสัญญาวอร์ซอจะก่อตั้งขึ้นเพื่อคานอำนาจ
[12] หรือต่อกร
[13] กับองค์การเนโท แต่ไม่ปรากฏการเผชิญหน้าโดยตรงของทั้งสองฝ่าย หากแต่ความขัดแย้งนี้ตั้งอยู่บนพื้นฐานของการต่อสู่ทางแนวคิดและอุดมการณ์ ทั้งสนธิสัญญาเนโทและกติกาสัญญาวอร์ซอต่างทำให้เกิดการขยายกองกำลังทางทหารและบูรณาการความร่วมมือในหมู่ประเทศสมาชิกของตน
[13] โดยปฏิบัติการทางทหารครั้งใหญ่ที่สุดที่เกิดขึ้นก็คือ
การบุกครองเชโกสโลวาเกียของฝ่ายกติกาสัญญาวอร์ซอในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2511 (รัฐสมาชิกเข้าร่วมทุกแห่งยกเว้นแอลเบเนียและโรมาเนีย)
[12] ซึ่งทำให้แอลเบเนียถอนตัวออกจากกติกาสัญญาดังกล่าวภายในระยะเวลาหนึ่งเดือนหลังจากนั้น ต่อเอกภาพขององค์การสนธิสัญญาวอร์ซอเริ่มสั่นคลอนจากการแผ่ขยายของ
การปฏิวัติ พ.ศ. 2532 ทั่วทั้งภูมิภาค
ยุโรปตะวันออก ซึ่งเริ่มจากขบวนการเอกภาพ (Solidarity movement) ใน
โปแลนด์[14] และการเลือกตั้งที่ประสบความสำเร็จในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2532ทั้งเยอรมนีตะวันออกและโปแลนด์ถอนตัวออกจากกติกาสัญญาในปี พ.ศ. 2533 ต่อมาในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2534 ที่ประชุมของรัฐมนตรีกลาโหมและรัฐมนตรีต่างประเทศจากรัฐสมาชิกที่เหลืออยู่ห้าแห่งประกาศให้กติกาสัญญาดังกล่าวยุติบทบาทลง ตามมาด้วย
การล่มสลายของสหภาพโซเวียตในเดือนธันวาคมปีเดียวกัน ซึ่งแม้ว่าอดีตสาธารณรัฐโซเวียตส่วนมากจะรวมกลุ่มกันตั้งองค์การสนธิสัญญาความมั่นคงร่วมแห่งใหม่ขึ้นมาไม่นานหลังจากนั้น แต่รัฐสมาชิกนอกสหภาพโซเวียตของกติกาสัญญาวอร์ซอเดิมจำนวนเจ็ดแห่งกลับไปเข้าร่วมกับองค์การเนโทแทน (เยอรมนีตะวันออกที่ผ่าน
การรวมประเทศกับเยอรมนีตะวันตก;
สาธารณรัฐเช็กและ
สาธารณรัฐสโลวักในฐานะรัฐอธิปไตยที่แยกออกจากกัน)