กบฏซัตสึมะ หรือ
สงครามเซนัน (
ญี่ปุ่น: 西南戦争
โรมาจิ:
เซนันเซ็นโซ: สงครามภาคหรดี") เป็นการก่อกบฎของกลุ่ม
ซะมุไรที่ต่อต้านรัฐบาลเมจิใหม่ (รัฐบาลองค์จักรพรรดิ) เก้าปีภายหลังเริ่ม
ยุคเมจิ การกบฏเกิดขึ้นในปลายเดือนมกราคม 1877 และดำเนินไปถึงเดือนกันยายนในปีเดียวกัน เมื่อผู้นำของฝ่ายกบฏ
ไซโง ทะกะโมะริ ได้จบชีวิตลงการกบฏเกิดขึ้นในอดีต
แคว้นซัตสึมะบน
เกาะคีวชู แคว้นนี้เป็นแคว้นที่มีบทบาทสำคัญที่สนับสนุนฝ่ายองค์จักรพรรดิใน
สงครามโบะชิง ซึ่งภายหลังจากก่อตั้งรัฐบาลเมจิและสถาปนาจักรวรรดิญี่ปุ่น อดีตแคว้นซัตสึมะก็กลายเป็นที่พำนักของเหล่าอดีตซะมุไรจำนวนมาก อดีตซะมุไรเหล่านี้ได้สูญเสียสถานะทางสังคมตลอดจนบรรดาอภิสิทธิทั้งหลายจากการปฏิรูปการทหารของรัฐบาล ซะมุไรได้ถูกแทนที่ด้วย
ปืนไรเฟิลจากตะวันตก ทำให้ไม่มีใครว่าจ้างซะมุไรเหล่านี้ให้ไปคุ้มครองอีกต่อไป จนเกิดเป็นความคับแค้นใจต่อรัฐบาลเมจิขึ้น ไซโง ทะกะโมะริ เป็นหนึ่งในขุนพลคนสำคัญที่เคยอยู่ฝ่ายจักรพรรดิและร่วมโค่นล้ม
รัฐบาลโชกุนโทะกุงะวะ ทำให้ภายหลังการตั้งรัฐบาลเมจิ เขาได้เป็นหนึ่งในผู้นำอาวุโสของรัฐบาล ในปี 1873 เขาเป็นคนเสนอให้ญี่ปุ่นทำสงครามเพื่อยึดครองเกาหลี โดยมีเหตุผลว่า สงครามกับเกาหลีนั้นเป็นทั้งประโยชน์ต่อชาติญี่ปุ่น และก็เป็นประโยชน์ต่อบรรดาอดีตซะมุไรที่จะได้แสวงหาการตายแบบมีเกียรติและศักดิ์ศรี แต่ข้อเสนอของเขาก็ได้รับการปฏิเสธ ภายหลังแผนการของเขาถูกปฏิเสธ เขาก็ลาออกจากทุกตำแหน่งในรัฐบาลเพื่อเป็นการประท้วงและกลับไปยัง
คะโงะชิมะ บ้านเกิดของเขา เขาได้สนับสนุนบรรดาอดีตซะมุไรเหล่านี้ โดยได้เปิดสำนักเป็นของตัวเองในคะโงะชิมะ สอนเกี่ยวกับวิถีนักรบ และในที่สุดก็มีสาขาถึง 132 สาขาทั่วทั้งจังหวัด นอกจากนี้เขายังจัดตั้งโรงเรียนสรรพาวุธขึ้น โดยเน้นไปที่การสอนองค์กรการเมืองกำลังรบกึ่งทหารมากกว่าสิ่งอื่นใด จนในที่สุด ไซโงก็ได้รับแรงสนับสนุนมากมาย และตัดสินใจเผชิญหน้ารัฐบาลองค์จักรพรรดิ