บทความนี้ใช้ระบบคริสต์ศักราช เพราะอ้างอิงคริสต์ศักราชและคริสต์ศตวรรษ หรืออย่างใดอย่างหนึ่ง
การดักรับข้อมูลทางโทรศัพท์ของนิวส์ออฟเดอะเวิลด์ เป็น
เรื่องอื้อฉาว (scandal) ของ
นิวส์ออฟเดอะเวิลด์ (News of the World) หนังสือพิมพ์สัญชาติบริเตนที่จัดพิมพ์โดย หนังสือพิมพ์นิวส์กรุป (News Group Newspapers) ในเครือของ
นิวส์อินเทอร์เนชันนัล (News International) สังกัด
บริษัทนิวส์ (News Corporation) ของ
รูเพิร์ต เมอร์ดอช (Rupert Murdoch)เรื่องอื้อฉาวนี้ตั้งต้นใน ค.ศ. 2006 เมื่อ
ตำรวจนครบาลแจ้งข้อหาแก่
คลิฟ กูดแมน (Clive Goodman) บรรณาธิการบริหารหนังสือพิมพ์นิวส์ออฟเดอะเวิลด์ และแก่
เกล็น มัลแกร์ (Glenn Mulcaire) นักสืบเอกชน ว่าดักฟังข้อความทาง
ไปรษณีย์เสียง (voicemail) ของพระราชวงศ์อังกฤษ ชายทั้งสองถูกจำคุกใน ค.ศ. 2007 ทว่า นิวส์ออฟเดอะเวิลด์ยังคงถูกกล่าวหาว่าดักรับไปรษณีย์เสียงของบุคคลสาธารณะ นักการเมือง และบรรดาผู้มีชื่อเสียง อยู่อีกในหลาย ๆ ปีถัดมาตำรวจนครบาลเริ่มสืบสวนข้อกล่าวหาเช่นว่าในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2011 ระหว่างนั้น มีการฟ้องคดีแพ่งเป็นจำนวนมากต่อนิวส์ออฟเดอะเวิลด์ ทนายความของผู้เสียหายอ้างว่า นิวส์ออฟเดอะเวิลด์ดักฟังโทรศัพท์ของผู้คนมากกว่าเจ็ดพันคน และเมื่อประเมินแล้ว บรรดาคดีแพ่งจะยังให้บริษัทนิวส์ได้ลาภงอกถึงสี่สิบล้านยูโร
[1]ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2011 มีการกล่าวหาเพิ่มเติมว่า นิวส์ออฟเดอะเวิลด์ ดักรับไปรษณีย์เสียงของ
มิลลี ดาวเลอร์ (Milly Dowler) เด็กหญิงวัยสิบสามปีที่ถูกลักพาและฆ่าทิ้ง กับทั้งของบรรดาผู้เสียหายจาก
การระเบิดกรุงลอนดอน 7/7 ตลอดจนของญาติมิตรเหล่าทหารหาญที่เสียชีวิตในสมรภูมิต่าง ๆ ด้วย หนังสือพิมพ์นิวส์ออฟเดอะเวิลด์เผชิญกับความโกรธแค้นขนานใหญ่ของพลเมือง ผู้โฆษณาทั้งปวงถอนตัวจากหนังสือพิมพ์และบริษัทในเครือเดียวกัน และมีการข่มขู่ประทุษร้าย
บีสกายบี (BSkyB) เครื่องมือถ่ายทอดสัญญาณที่หนังสือพิมพ์นิวส์ออฟเดอะเวิลด์กำลังจะได้มาอีกด้วย
[2][3]ครั้นวันที่ 6 กรกฎาคม
เดวิด แคเมอรอน (David Cameron) นายกรัฐมนตรี แถลงต่อรัฐสภาว่า รัฐบาลจะจัดให้มีการสืบสวนเพื่อให้ได้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องอื้อฉาวนี้ วันถัดมา รูเพิร์ต เมอร์ดอชประกาศว่า หนังสือพิมพ์จะยุติในวันอาทิตย์ที่ 10 กรกฎาคม ค.ศ. 2011 หลังจากเผยแพร่มาหนึ่งร้อยหกสิบแปดปี
[4]