กฎการตั้งชื่อ ของ การตั้งชื่อทวินาม

มีหลักเกณฑ์ในการเขียนดังนี้

  1. ชื่อทวินามจะเป็นภาษาละติน ประกอบด้วยคำศัพท์ 2 คำ คือ สกุล (genus) และ คำแสดงคุณลักษณะ (specific epithet)
  2. ชื่อทวินามมักจะถูกพิมพ์ด้วยตัวเอียง เช่น Homo sapiens หากเป็นการเขียนด้วยลายมือควรขีดเส้นใต้ลงไปแทน
  3. คำศัพท์คำแรก (ชื่อสกุล) ต้องขึ้นต้นด้วยอักษรตัวใหญ่เสมอ นอกจากนั้นใช้อักษรตัวเล็กทั้งหมด[1][2]เช่น Canis lupus หรือ Anthus hodgsoni แต่สำหรับสิ่งมีชีวิตที่ตั้งชื่อทวินามไว้ก่อนหน้าศตวรรษที่ 20 และขึ้นต้นด้วยอักษรตัวใหญ่อยู่แล้ว ไม่ต้องเขียนเป็นตัวเล็กอีก เช่น Carolus Linnaeus
  4. ในสปีชีส์ย่อย ชื่อจะประกอบด้วยสามส่วนและสามารถเขียนได้สองแบบ โดยพืชและสัตว์จะเขียนต่างกัน[3] เช่น
  5. ในตำราเรียน มักมีชื่อสกุลย่อ หรือชื่อสกุลเต็มของนักวิทยาศาสตร์ผู้จัดทำชื่อนั้นต่อท้าย โดยชื่อสกุลย่อใช้กับพืช ส่วนชื่อสกุลเต็มใช้กับสัตว์ ในบางกรณีถ้าชื่อสปีชีส์เคยถูกกำหนดให้ชื่อสกุลที่ต่างออกไปจากชื่อในปัจจุบัน จะคร่อมชื่อสกุลนักวิทยาศาสตร์กับปีที่จัดทำไว้ เช่น Amaranthus retroflexus L., Passer domesticus (Linnaeus, 1758) ที่ใส่วงเล็บเพราะในอดีตชื่อหลังอยู่ในสกุล Fringilla
  6. หากใช้กับชื่อสามัญ เรามักใส่ชื่อทวินามไว้ในวงเล็บต่อท้ายชื่อสามัญ เช่น "นกกระจอกบ้าน (Passer domesticus) กำลังมีจำนวนลดลงอย่างน่าตกใจ"
  7. การเขียนชื่อทวินามเป็นครั้งแรกในรายงานหรือสิ่งพิมพ์ เราเขียนเป็นชื่อเต็มก่อน หลังจากนั้นเราสามารถย่อชื่อสกุลให้สั้นลงเป็นอักษรตัวแรกของชื่อสกุลและตามด้วยจุด เช่น Canis lupus ย่อเป็น C. lupus ด้วยเหตุที่เราสามารถย่อชื่อในลักษณะนี้ได้ ทำให้ชื่อย่อเป็นที่รู้จักและกล่าวถึงมากกว่าชื่อเต็ม เช่น T. Rex คือ Tyrannosaurus rex หรือ E. coli คือ Escherichia coli เป็นต้น
  8. บางกรณี เราเขียน "sp." (สำหรับสัตว์) หรือ "spec." (สำหรับพืช) ไว้ท้ายชื่อสกุล ในกรณีที่ไม่ต้องการเจาะจงชื่อสปีชีส์ และเขียน "spp." ในกรณีที่ต้องการกล่าวถึงหลายสปีชีส์ ตัวอย่างเช่น "Canis sp.", หมายถึงสปีชีส์หนึ่งในสกุล Canis
  9. สิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งอาจมีชื่อวิทยาศาสตร์มากกว่าหนึ่งชื่อ ให้ใช้ชื่อตั้งขึ้นก่อนเป็นชื่อหลัก ส่วนชื่ออื่นเป็นชื่อพ้อง[4]
  10. ชื่อวิทยาศาสตร์มักจะบอกลักษณะบางอย่างกับสิ่งมีชีวิตชนิดนั้น[4] ดังเช่น
บอกสถานที่พบหรือที่อยู่อาศัย
ชื่อสามัญชื่อวิทยาศาสตร์ความหมาย
ไส้เดือนดินLumbricus terrestristerrestris หมายถึง อาศัยอยู่บนบกหรือในดิน
พยาธิใบไม้ในตับแกะFasciola hepaticahepatica หมายถึง ตับ
ปลาซีลาแคนท์Latimeria chalumnaeLatimeria มาจากคำว่า Latimer ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์ที่สนใจและพบปลาชนิดนี้
chalumnae มาจากคำว่า Chalumna ซึ่งเป็นชื่อของแม่น้ำที่พบปลาชนิดนี้บริเวณปากแม่น้ำ
ไดโนเสาร์ภูเวียงโกซอรัสPhuwiangosaurus sirindhornaePhuwiangosaurus หมายถึงไดโนเสาร์ที่พบใน อำเภอภูเวียง จังหวัดขอนแก่น
ไม้รวกThyrsostachys siamensissiamensis มาจากคำว่า siam ซึ่งหมายถึง ประเทศไทย
มะม่วงMangifera indicaindica หมายถึง ประเทศอินเดีย
บอกลักษณะ เช่น สี รูปร่าง ขนาด
ชื่อสามัญชื่อวิทยาศาสตร์ความหมาย
จำปีMichelia albaalba หมายถึง สีขาว
กล้วยไม้ชนิดหนึ่งMusa rubrarubra หมายถึง สีแดง
มะยมPhyllantus acidusacidus หมายถึง มีรสเปรี้ยว
ปลาบึกPangasianodon gigasgigas หมายถึง ใหญ่ที่สุด
เชื้อโรคแอนแทรกซ์Bacillus anthracisbacillus หมายถึง รูปท่อน
anthrasis หมายถึง โรคแอนแทรกซ์
บอกชื่อผู้ตั้งชื่อหรือเพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้ใดผู้หนึ่ง
ชื่อสามัญชื่อวิทยาศาสตร์ความหมาย
ปลาบู่มหิดลMahidoli mystasinaMahidoli มาจากพระนามของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก
ปูเจ้าฟ้าPhricothalphusa sirindhornsirindhorn มาจากพระนามของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
กั้งเจ้าฟ้าAcanthosquilla sirindhorn (Naiyanetr, 1995)sirindhorn มาจากพระนามของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
Naiyanetr คือชื่อย่อของ ศ. ไพบูลย์ นัยเนตร ศาสตราจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นผู้ตั้งชื่อเมื่อปี ค.ศ. 1995
กุ้งดีดขันAlpheus sudarasadara มาจากชื่อสกุลของ ดร.สุรพล สุดารา ผู้ช่วยศาสตราจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ใกล้เคียง

การตั้งชื่อทวินาม การตั้งครรภ์ การตั้งชื่อพายุหมุนเขตร้อน การตั้งชื่อระบบไบเออร์ การตัดหลอดนำอสุจิ การตั้งชื่อดาวฤกษ์ การตัดมดลูก การตั้งครรภ์นอกมดลูก การตัดศีรษะ การตักบาตร