6 small transports
34 merchant vessels sunk
ค.ศ. 1942ค.ศ. 1943ค.ศ. 1944ค.ศ. 1945การสงครามทางเรือ:การถอนทัพโซเวียตที่ทาลลินน์ (
อังกฤษ: Soviet evacuation of Tallinn) เรียกอีกอย่างว่า
ภัยพิบัติทาลลินน์ (Tallinn disaster) หรือ
เดิงแกร์กแห่งรัสเซีย (Russian Dunkirk) เป็นปฏิบัติการของสหภาพโซเวียตเพื่อการอพยพด้วยเรือ 190 ลำของ
กองเรือรบบอลติก หน่วยรบของกองทัพแดง และพลเรือนชาวโซเวียตที่สนับสนุนจากฐานทัพหลักที่ล้อมรอบไปด้วยกองเรือรบที่
ทาลลินน์ใน
เอสโตเนียภายใต้การยึดครองของสหภาพโซเวียตในช่วงเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1941 กองทัพโซเวียตได้เข้ายึดครองเอสโตเนียในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1940 ภายหลังจากเยอรมนีได้เข้ารุกรานสหภาพโซเวียต เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน ค.ศ. 1941 กองทัพเยอรมันได้เคลื่อนทัพอย่างรวดเร็วผ่าน
รัฐบอลติกภายใต้การยึดครองของโซเวียต และโดยสิ้นสุดลงของเดือนสิงหาคม ทาลลินน์ เมืองหลวงของ
เอสโตเนียได้ถูกกองทัพเยอรมันโอบล้อม ในขณะที่ส่วนใหญ่ของกองเรือรบบอลติกธงแดงได้บรรจุอยู่ในท่าเรือทาลลินน์ในความคาดหมายของการฝ่าวงล้อมของสหภาพโซเวียต
ครีกซมารีเนอและ
กองทัพเรือฟินแลนด์ได้เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม ค.ศ. 1941 เพื่อวางทุ่นระเบิดใต้น้ำปิดทางแหลม Juminda บนชายฝั่ง Lahemaa ในขณะที่เรือกวาดทุ่นระเบิดของสหภาพโซเวียตได้พยายามที่จะเปิดเส้นทางสำหรับขบวนเรือผ่านแนวทุ่นระเบิดใต้น้ำ ทหารปืนใหญ่ชายฝั่งของเยอรมนีได้ติดตั้งปืนใหญ่ขนาด 150 มม. (5.9 นิ้ว) ใกล้กับแหลม Juminda และกองทัพเรือฟินแลนด์ได้รวมรวมกอง
เรือตอร์ปิโดมอเตอร์ (Motor Torpedo Boat) ที่ 2 กับเรือลาดตะเวน VMV9, VMV10, VMV11 และ VMV17 ในช่วงเวลาเดียวกัน ทางฝ่ายเยอรมันได้รวบรวมกองเรือ 3. Schnellbootflottille กับ
เรือ-อี (E-boats) S-26, S-27, S-39, S-40 และ S-101 ซึ่งได้รวมกำลังกันที่
ซัวเม็นลินนะ (Suomenlinna) ด้านนอกของ
เฮลซิงกิ เครื่องบินทิ้งระเบิดของเยอรมนี
ยุงเคอร์ เจยู-88 จากคัมพ์กรุพเพอ 806 ฐานทัพบนสนามบินในเอสโตเนียได้รับการแจ้งเตือน เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ในท้ายที่สุดเยอรมนีก็ได้เริ่มบุกจู่โจมทาลลินน์ในช่วงกลางคืนของวันที่ 27/28 สิงหาคม ค.ศ. 1941 เหล่าทหารไรเฟิลที่ 10 ได้ถอยห่างออกจากศัตรูและขึ้นเรือบรรทุกโดยสารในทาลลินน์การลงเรือได้รับการปกป้องโดยกลุ่มควันปกคลุม อย่างไรก็ตาม การกวาดทุ่นระเบิดใต้น้ำในวันก่อนการอพยพเริ่มไม่ได้ผล เนื่องจากสภาพอากาศที่เลวร้าย และไม่มีเครื่องบินรบโซเวียตที่พร้อมสำหรับคุ้มกันการลงเรือ ทั้งนี้ พร้อมกับกระสุนปืนใหญ่ที่ตกลงมาอย่างหนักของเยอรมนีและการทิ้งระเบิดทางอากาศได้สังหารผู้อพยพอย่างน้อย 1,000 คนในท่าเรือ