การบันทึกและการแปลผล ของ การถ่ายภาพจอประสาทตา

ภาพถ่ายจอตายังใช้บันทึกลักษณะต่าง ๆ ของโรคจอตาเหตุเบาหวาน เช่น จุดภาพชัดบวม (macular edema) หรือ microaneurysm (หลอดเลือดโป่งพองระดับไมโคร)เพราะรายละเอียดจอตาอาจเห็นในภาพถ่ายได้ชัดกว่าการส่องดูโดยตรง

ภาพจอตาช่วยบันทึกลักษณะต่าง ๆ ของจอตาคนไข้ทำให้แพทย์สามารถตรวจดูจอตา เปรียบเทียบดูความเปลี่ยนแปลง และปรึกษาแพทย์อื่น ๆ ได้ดังนั้น จึงอาจใช้เป็นปกติสำหรับอาการทางตาต่าง ๆ[5]

ภาพจอตาใช้ตรวจความผิดปกติเกี่ยวกับโรคที่มีผลต่อตาและเพื่อติดตามการดำเนินของโรคเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับโรค เช่น จุดภาพชัดของจอตาเสื่อม, เนื้องอกที่จอตา, ปัญหาเกี่ยวกับคอรอยด์ และโรคจอตาเหตุเบาหวานอนึ่ง มันช่วยระบุโรคต้อหิน, โรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง (MS) และความผิดปกติของระบบประสาทกลางอื่น ๆมันช่วยประเมินความผิดปกติของจอตา ติดตามการดำเนินของโรค และตรวจดูผลการรักษาสามารถใช้เป็นจุดเริ่มต้นเพื่อให้เข้าใจวิถีการดำเนินของโรคได้ดีขึ้น

ภาพจอตาอาจมีประโยชน์สำหรับโรคใหม่ ๆ ที่มีผลต่อจอตา และเพื่อวางแผนการรักษาต่าง ๆ แต่การบันทึกข้อมูลคนไข้ไม่ว่าจะเป็นภาพจอตาหรือการสร้างภาพอื่น ๆ ก็จำเป็นต้องมีระเบียบที่ดีเพื่อให้สามารถเปรียบเทียบวัดกับเวลาได้

บันทึกคนไข้ควรจะมีประวัติที่เกี่ยวข้องเร็ว ๆ นี้ มีการดำเนินของโรคและการรักษา และมีภาพจอตาเพื่อเป็นหลักฐานการวินิจฉัยที่เกี่ยวข้องกันภาพควรจะมีฉลากที่ถูกต้องว่าเป็นตาข้างไหน ถ่ายรูปเมื่อไร และข้อมูลเกี่ยวกับคนไข้บันทึกคนไข้ควรจะมีผลที่ได้เนื่องกับภาพจอตา และแสดงความแตกต่างกับภาพที่เคยได้มาก่อนควรจะมีการวินิจฉัยผลที่ได้ การเปลี่ยนแปลงที่มันอาจมีต่อการรักษาภาพจอตาที่ไม่ได้ตีความ/วินิจฉัยจัดว่าล้าสมัย (obsolete)บันทึกควรจะเป็นลายมือที่อ่านได้ มีข้อมูลคนไข้ที่เหมาะสม และมีรายละเอียดเกี่ยวกับการวินิจฉัยและรักษา

การแปลผลภาพจอตาเกี่ยวกับต้อหินควรจะมีบันทึกในเรื่อง vertical and horizontal cup to disc ratio, รูปแบบเส้นเลือด (vessel pattern), ความซีดจอตาที่กระจายหรือเป็นจุด (diffuse or focal) ความอสมมาตรและวิถีดำเนินของปัจจัยที่ว่าทั้งหมดชั้นใยประสาทของจอตา (retinal nerve fibre layer) ก็ควรตรวจดูและบันทึกรายละเอียดไว้ด้วย[30]

อย่างไรก็ดี การวัด torsion (การหมุน) อย่างวัตถุวิสัย/โดยใช้เครื่องวัดอาจมีประโยชน์ และภาพจอตาก็ไม่สามารถทดแทนการส่องตรวจในตา (binocular indirect ophthalmoscopy) ได้เป็นเพียงอุปกรณ์เสริมข้อมูลที่มีอยู่และช่วยในการบันทึกวิถีการดำเนินของโรคโดยหลักใช้ในการบันทึกวิถีการดำเนินของโรคจอตาหรือโรคประสาทตาและยังมีประโยชน์เพื่อบันทึกผลการรักษาและติดตามสภาวะทางตาของคนไข้

ใกล้เคียง

การถ่ายโอนสัญญาณ การถ่ายภาพจอประสาทตา การถ่ายเทยีน การถ่ายเทความร้อน การถ่ายภาพรังสีระนาบด้วยการปล่อยโพซิตรอน การถ่ายเลือด การถ่ายภาพเคอร์เลียน การถ่ายทอดสดผ่านสัญญาณต่อเนื่อง การถ่ายภาพรังสีส่วนตัดอาศัยคอมพิวเตอร์ การถ่ายภาพทางดาราศาสตร์

แหล่งที่มา

WikiPedia: การถ่ายภาพจอประสาทตา http://www.aetna.com/cpb/medical/data/500_599/0539... http://bjo.bmj.com/content/52/2/200 http://icd9cm.chrisendres.com/index.php?srchtype=p... http://www.eyeic.com http://www.jove.com/video/51904 http://patents.justia.com/patent/5120122 http://journals.lww.com/optvissci/fulltext/2002/08... http://optometrytimes.modernmedicine.com/optometry... http://search.proquest.com/docview/822528795?accou... http://www.sukumvithospital.com/content.php?id=71