เมนูนำทาง
การรับบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาในประเทศไทย ประวัติ1961 | มก.+ มม. เริ่มต้น |
1962 | รวม 6 สถาบัน คือ จฬ. มธ. มก. มม. มศก. และ มจธ. |
1963 | |
1964 | รวม 8 สถาบัน คือเพิ่ม มช. และ มข. |
1965 | |
1966 | |
1967 | รวม 10 สถาบัน คือเพิ่ม มอ. และ สจล. |
1968 | |
1969 | |
1970 | |
1971 | |
1972 | |
1973 | ทบวงมหาวิทยาลัย รับงาน |
1974 | |
1975 | |
1976 | |
1977 | |
1978 | |
1979 | |
1980 | |
1981 | |
1982 | |
1983 | |
1984 | |
1985 | |
1986 | |
1987 | |
1988 | |
1989 | |
1990 | |
1991 | |
1992 | |
1993 | |
1994 | |
1995 | |
1996 | |
1997 | |
1998 | |
1999 | |
2000 | ระบบกลาง เอ็นทรานซ์ |
2001 | |
2002 | |
2003 | มีพรบ. สกอ. |
2004 | |
2005 | ก่อตั้ง สทศ. |
2006 | ระบบกลาง ระยะที่ 1 |
2007 | |
2008 | เริ่มสอบ O-NET |
2009 | เริ่มสอบ GAT/PAT |
2010 | ระบบกลาง ระยะที่ 2 |
2011 | |
2012 | |
2013 | |
2014 | |
2015 | |
2016 | |
2017 | |
2018 | ระบบกลาง TCAS |
ระบบการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาไทย ผ่านการพัฒนาตั้งแต่ปีการศึกษา 2504 จนถึงปัจจุบัน[update] โดยมีหน่วยงานหลักที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
สกอ. สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (OHEC)ทบวง ทบวงมหาวิทยาลัย ปี พ.ศ. 2515 - 2546 [3] ปัจจุบันคือ สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาสพฐ. สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (OBEC)สำนักงานปลัด สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (OPS-MOE)สกศ. สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา หรือ สภาการศึกษาแห่งชาติ (ONEC)
| ทปอ. ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (CUPT)สทศ. สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (NIETS)อุดมศึกษา สถาบันอุดมศึกษาไทยโรงเรียน โรงเรียนในประเทศไทย
|
“ | ก่อนปีการศึกษา 2504 – ปีการศึกษา 2542 | ” |
ระบบคัดเลือกเข้าอุดมศึกษา CUAS (Central University Admissions System) เป็นการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาไทย มีพัฒนาการในช่วงปีการศึกษา 2504 – 2542 [2]
ระบบคัดเลือกเข้าอุดมศึกษากลาง UCAS
ระบบคัดเลือก UCAS ถูกใช้ในการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาไทย ในช่วงปีการศึกษา 2543 - 2548 [2]ทบวงมหาวิทยาลัยได้แต่งตั้งคณะกรรมการศึกษา ตรวจสอบ และพัฒนาการนำผลการเรียนในชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายมาใช้ในการคัดเลือกผู้สมัครเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษา [4][lower-alpha 1] จึงได้ผลเป็นระบบคัดเลือกใหม่และทบวงให้ใช้ตั้งแต่ปีการศึกษา 2542 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ ระบบคัดเลือกนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้สถาบันอุดมศึกษาได้ผู้เรียนที่มีความรู้ความสามารถและความถนัดตรงกับสาขาวิชาที่ต้องการเข้าเรียน การคัดเลือกใช้องค์ประกอบ 2 ส่วนในการพิจารณา [5] คือ ผลการเรียนตลอดหลักสูตรระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่า (ค่าน้ำหนัก 10%) และผลการสอบวิชาหลักและวิชาเฉพาะ (เรียกรวมว่า การสอบวัดความรู้ ) (ค่าน้ำหนัก 90%) และมีการดำเนินการสอบวัดความรู้ ปีละ 2 ครั้ง แล้วนำคะแนนครั้งที่มากมาคำนวณและจัดลำดับผลการสอบของผู้สมัครแต่ละคน
จุดเด่นของระบบ
| จุดอ่อนของระบบ
|
ระบบกลาง (Admissions) ระยะที่ 1
ระบบคัดเลือกเข้าอุดมศึกษากลาง หรือ ระบบ Admissions ระยะที่ 1 ได้ประกาศใช้โดย สกอ. และ ทปอ. ตั้งแต่ปีการศึกษา 2549 ระบบคัดเลือกนี้ใช้ GPAX, GPA (กลุ่มสาระฯ ), O-NET และ A-NET เป็นองค์ประกอบของเกณฑ์การคัดเลือก
ในที่นี้ คำว่า ผลการเรียน หมายถึง ผลการเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่า, การรับเข้าศึกษาต่อ : การรับบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาไทย, สถานศึกษา : มหาวิทยาลัยหรือสถาบันผู้รับเข้าศึกษา, การคัดเลือก : การคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยความเป็นมาของระบบกลาง (Admissions) ระยะที่ 1 [2]
GPAX | 10% |
GPA (กลุ่มสาระ) | 20% |
O-NET | 35–70% |
A-NET และ/วิชาเฉพาะไม่เกิน 3 วิชา | 0–35% |
ข้อดีของระบบ Admissions ระยะที่ 1
| ข้อเสียระบบ Admissions ระยะที่ 1
|
ระบบกลาง (Admissions) ระยะที่ 2
ระบบคัดเลือกเข้าอุดมศึกษากลาง หรือ ระบบ Admissions ระยะที่ 2 ได้ประกาศใช้ในการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษา ตั้งแต่ปีการศึกษา 2553 โดยใช้ GPAX, GPA (กลุ่มสาระ), O-NET, และ PAT เป็นองค์ประกอบของเกณฑ์การคัดเลือก [2]
เนื่องจากระบบระยะที่ 1 ได้รับเสียงวิจารณ์เรื่องการให้สัดส่วนผลการเรียนมากเกินไป การรับเข้าศึกษาด้วยระบบ Admissions มีเป้าหมายว่า เมื่อดำเนินการเต็มรูปแบบ สถานศึกษาจะเป็นผู้กำหนดหลักเกณฑ์การพิจารณารับเข้าและประกาศเกณฑ์อย่างทั่วถึง ผู้ที่สนใจจะสมัครเข้าศึกษาต่อสถาบันศึกษาใดจะต้องนำผลการสอบที่ สทศ. จัดสอบเพื่อให้มีมาตรฐานเดียวกันและต้องไม่เพิ่มภาระแก่ผู้สมัคร ที่สามารถจะนำผลการสอบไปยื่นสมัครที่หน่วยคัดเลือกกลางที่มีกลไกดำเนินงานที่ได้มาตรฐานเป็นที่ยอมรับ
GPAX | 20% |
GAT | 10–50% |
O-NET (8 กลุ่มสาระ) | 30% |
PAT | 0–40% |
ในการปรับปรุงระบบ ทปอ. ได้มอบให้กลุ่มเสวนาการรับบุคคลเข้าศึกษาและการวัดผล (Admissions and Assessment Forum) ดำเนินการ โดยมีหลักการซึ่ง ทปอ. ให้พิจารณานำผลการเรียนและการสอบ PAT เป็นองค์ประกอบของการคัดเลือก ผลการเรียนประกอบด้วย GPAX และผลการสอบ O-NET ส่วน PAT จะแทนที่การสอบ A-NET และ/หรือวิชาเฉพาะ เนื่องจากหลักการของ PAT เป็นการทดสอบความถนัดทางการเรียนซึ่งไม่เน้นเนื้อหาวิชา จึงสามารถจัดสอบได้หลายครั้งในแต่ละปีทปอ. เห็นชอบองค์ประกอบการคัดเลือกปีการศึกษา 2553 ดังตารางทางขวามือ
ระบบคัดเลือกเข้าอุดมศึกษากลาง TCAS
ระบบคัดเลือกเข้าอุดมศึกษากลาง TCAS (Thai university Central Admission System) เป็นการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาใหม่ เริ่มใช้ตั้งแต่ปีการศึกษา 2561 [9]
ความเป็นมาหลักการสำคัญของ TCAS— ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย, TCAS ปีการศึกษา 2561, [10]:7
- นักเรียนควรอยู่ในห้องเรียนจนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
- ผู้สมัครแต่ละคนมีเพียง 1 สิทธิ์ในการตอบรับในสาขาวิชาที่เลือก เพื่อความเสมอภาค
- สถาบันอุดมศึกษาทุกแห่ง สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ จะเข้าระบบ Clearing House เพื่อบริหาร 1 สิทธิ์ของผู้สมัคร
เมนูนำทาง
การรับบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาในประเทศไทย ประวัติใกล้เคียง
การรับรู้รส การรับบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาในประเทศไทย การรับรู้อากัปกิริยา การรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ การรับรู้ไฟฟ้า การรักษามะเร็งแบบทางเลือก การรับรู้สนามแม่เหล็ก การรับมือโดยใช้อารมณ์ (จิตวิทยา) การรัดเท้า การรับรู้ความใกล้ไกลแหล่งที่มา
WikiPedia: การรับบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาในประเทศไทย http://www.enttrong.com/tag/590 http://a.cupt.net http://tcas.cupt.net http://tcas.cupt.net/about.php http://tcas.cupt.net/cal_score.php http://tcas.cupt.net/policy.php http://tcas.cupt.net/qa_admission.php http://tcas.cupt.net/src/TCAS4.pdf http://tcas.cupt.net/src/calendar.pdf http://tcas.cupt.net/src/tcas61-detail.pdf