การร่วมเพศ (
อังกฤษ: sexual intercourse, coitus, copulation) เป็นการสอดใส่องคชาตเข้าไปในช่องคลอดเพื่อสุขารมณ์ทางเพศ, สืบพันธุ์ หรือทั้งสองอย่าง
[3] โดยมักทำขณะอวัยวะเพศชายแข็งตัว อาจเรียกว่าการร่วมเพศทางช่องคลอด (
อังกฤษ: vaginal intercourse, vaginal sex)
[2][4] รูปแบบอื่นของการร่วมเพศแบบสอดใส่ ได้แก่
การร่วมเพศทางทวารหนัก,
การร่วมเพศทางปาก,
การใช้นิ้ว (fingering) และการใช้
ดิลโด [5][6][7] กิจกรรมเหล่านี้เป็นความใกล้ชิดทางกายระหว่างคนสองคนหรือมากกว่า และมนุษย์มักใช้กิจกรรมนี้เพื่อสุขอารมณ์ และเพื่อเพิ่มความใกล้ชิด
[5][8]มีมุมมองหลากหลายเกี่ยวกับการประพฤติที่เรียกว่าเป็นการร่วมเพศหรือ
กิจกรรมทางเพศ[9][10] ซึ่งสามารถส่งผลต่อมุมมองเกี่ยวกับ
สุขภาพทางเพศ[11] แม้คำว่า การร่วมเพศ มักสื่อถึงการสอดใส่ขององคชาตเข้าไปยังช่องคลอดและโอกาสที่จะสร้างบุตร
[3] แต่ก็สามารถหมายถึงการร่วมเพศทางปากและทางทวารหนักได้เช่นกัน
[12] ส่วนการร่วมเพศแบบไม่สอดใส่ เช่น การสำเร็จความใคร่ให้กันและกัน (mutual masturbation) และการทำออรัลเซ็กซ์กับผู้หญิง (cunnilingus) ถูกเรียกว่า เพศสัมพันธ์ภายนอก (outercourse)
[13] ทว่าการร่วมเพศแบบไม่สอดใส่อาจถือว่าเป็นการร่วมเพศได้เช่นเดียวกัน
[5][14] คำว่า เซ็กส์ มักใช้เป็นคำย่อของ การร่วมเพศ (sexual intercourse) ทว่าสามารถหมายถึงกิจกรรมทางเพศทุกรูปแบบ
[11][15] เนื่องจากการร่วมเพศมากับความเสี่ยงจะติด
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ระหว่างการประกอบกิจกรรมเหล่านี้ได้
[16][17] จึงมักมีการแนะนำให้
ร่วมเพศอย่างปลอดภัย[16] อย่างไรก็ตามโอกาสติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ลดลงอย่างมีนัยสำคัญในการร่วมเพศแบบไม่สอดใส่ทางเพศร่วมของมนุษย์
[18][19]หลายเขตอำนาจศาลมีกฎหมายห้ามกระทำการทางเพศบางรูปแบบ เช่น
การร่วมประเวณีกับญาติสนิท, การประกอบกิจกรรมทางเพศกับ
ผู้เยาว์,
การขายบริการทางเพศ, การข่มขืน,
การสมสู่กับสัตว์,
การชำเราแบบวิตถาร และการมีเพศสัมพันธ์นอกการสมรสหรือก่อนการสมรส ความเชื่อทางศาสนายังส่งผลต่อการตัดสินใจส่วนตัวเกี่ยวกับการร่วมเพศหรือกิจกรรมทางเพศแบบอื่น ตัวอย่างเช่น การตัดสินใจเกี่ยวกับ
สภาพพรหมจารี[10][20] หรือประเด็นเกี่ยวกับกฎหมายหรือนโยบายสาธารณะ มุมมองเกี่ยวกับเพศของแต่ละศาสนาแตกต่างกัน ทว่ามักมีบางแก่นเรื่องเหมือนกัน เช่น การห้ามไม่ให้คบชู้ การร่วมเพศเพื่อสืบพันธุ์ในสัตว์ที่ไม่ใช่มนุษย์มักถูกเรียกว่า การผสมพันธุ์ (copulation) และ
น้ำอสุจิอาจถูกนำไปยังท่อสืบพันธุ์ของเพศหญิงโดยไม่ผ่านช่องคลอดในสัตว์บางชนิด เช่น การร่วมเพศทาง
ทวารร่วม (cloacal copulation) สำหรับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมที่ไม่ใช่มนุษย์ การผสมพันธุ์มักเกิดขึ้นในช่วงที่เจริญพันธุ์สูงสุดเพื่อเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์
[21][22] อย่างไรก็ตามมีการพบว่า
ลิงโบโนโบ,
โลมา, และ
ลิงชิมแปนซี สามารถมีเพศสัมพันธ์ แม้เพศเมียจะไม่ได้อยู่ในช่วงเจริญพันธุ์สูงสุด และยังสามารถร่วมเพศกับเพศเดียวกัน
[23] คาดว่าสัตว์เหล่านี้ร่วมเพศเพื่อสุขอารมณ์เช่นเดียวกับมนุษย์
[24][25] และยังเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางสังคม
[24]