การให้มีผู้แทนแบบจัดสรรปันส่วนผสม

ระบบเลือกตั้งแบบสัดส่วนผสม (อังกฤษ: mixed-member proportional representation; ย่อ: MMP) เป็นระบบเลือกตั้งแบบผสมซึ่งผู้ออกเสียงลงคะแนนมีคะแนนเสียงสองเสียง โดยเสียงหนึ่งใช้ตัดสินผู้แทนสำหรับเขตเลือกตั้งแบบที่นั่งเดียว และอีกเสียงหนึ่งใช้ตัดสินเลือกพรรคการเมือง ที่นั่งในสภานิติบัญญัติจะจัดสรรให้แก่ผู้สมัครแบบแบ่งเขตที่ได้รับเลือกตั้งก่อน และลำดับที่สองจะจัดสรรให้แก่ผู้สมัครจากพรรคการเมืองโดยคิดตามร้อยละของคะแนนเสียงทั่วประเทศหรือทั่วพื้นที่หนึ่ง ๆ ซึ่งแต่ละพรรคได้รับ[1][2][3] ผู้แทนแบบแบ่งเขตจะใช้ระบบแบ่งเขตคะแนนสูงสุด (first-past-the-post) หรือระบบคะแนนเสียงที่เหนือกว่า/ฝ่ายข้างมากอย่างอื่น ในประเทศส่วนใหญ่ผู้แทนทั่วประเทศหรือทั่วภูมิภาคหนึ่ง ๆ มาจากบัญชีรายชื่อซึ่งมีการเผยแพร่ไว้ คล้ายกับการเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ ในการได้มาซึ่งผู้แทนตัวประเทศ พรรคอาจจำเป็นต้องได้ผู้สมัครแบบแบ่งเขตจำนวนหนึ่ง ร้อยละของคะแนนเสียงทั่วประเทศจำนวนหนึ่ง หรือทั้งคู่MMP แตกต่างจากการเลือกตั้งแบบขนาน (parallel voting) ตรงที่ที่นั่งทั่วประเทศมีการจัดสรรแก่พรรคการเมืองแบบบังคับเพื่อให้ได้ผลลัพธ์การเลือกตั้งแบบได้สัดส่วน ภายใต้ระบบ MMP พรรคการเมืองสองพรรคที่ได้คะแนนเสียงร้อยละ 25 เท่ากันอาจได้ที่นั่งร้อยละ 25 เท่ากัน แม้พรรคการเมืองหนึ่งชนะเขตเลือกตั้งมากกว่าอีกพรรคหนึ่งเดิมระบบ MMP ใช้เลือกตั้งผู้แทนบุนเดชตักของเยอรมนี และประเทศโบลิเวีย เลโซโทและนิวซีแลนด์รับไปใช้ นอกจากนี้ยังมีการใช้ในประเทศโรมาเนียระหว่างการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาปี 2551 และ 2555

ใกล้เคียง

การให้เหตุผลแบบอุปนัย การให้มีผู้แทนแบบจัดสรรปันส่วนผสม การให้เหตุผลแบบจารนัย การให้วัคซีนโควิด-19 ในประเทศไทย การให้เหตุผลแบบนิรนัย การให้เหตุผลโดยอาศัยความไม่รู้ การให้วัคซีน การให้เหตุผลโดยอาศัยแนวเทียบ การให้ระดับผลการเรียน การให้เหตุผลเป็นวง