คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส (
อังกฤษ: Christopher Columbus),
กริสโตบัล โกลอน (
สเปน: Cristóbal Colón),
คริสโตโฟรุส โกลุมบุส (
ละติน: Christophorus Columbus) หรือ
กริสตอโฟโร โกลอมโบ (
อิตาลี: Cristoforo Colombo; เกิด
ค.ศ. 1451 เสียชีวิตวันที่
20 พฤษภาคม ค.ศ. 1506) เป็นนักทำแผนที่ นักสำรวจ นักเดินเรือ และพ่อค้า เชื่อกันว่าน่าจะเป็นชาว
สาธารณรัฐเจนัว[2][3][4][5] ภายใต้การสนับสนุนของราชสำนักสเปน เขาได้เดินเรือข้าม
มหาสมุทรแอตแลนติกและทำให้ชาวยุโรปรู้จัก
ทวีปอเมริกาใน
ซีกโลกตะวันตกเป็นผลสำเร็จ การเดินทางทั้งสี่ครั้งและความพยายามที่จะตั้งถิ่นฐานบน
เกาะฮิสปันโยลาของโคลัมบัสยังเป็นจุดเริ่มต้นของการล่าอาณานิคมของสเปนและชาติมหาอำนาจอื่น ๆ ในทวีปยุโรปบน "
โลกใหม่" อีกด้วยในช่วงที่ลัทธิจักรวรรดินิยมและการแข่งขันทางเศรษฐกิจระหว่างอาณาจักรต่าง ๆ ในยุโรป (ผ่านทางการควบคุม
เส้นทางการค้าและการล่าอาณานิคม) กำลังเริ่มขึ้นนั้น โคลัมบัสได้วางแผนการเดินทางไปยัง
อินเดียตะวันออกโดยเดินเรือมุ่งไปทางตะวันตก ด้วยเขามีความเชื่อว่าโลกมีรูปร่างเป็นทรงกลม ความเชื่อนี้ขัดแย้งกับแนวความเชื่อในยุคนั้นว่าโลกนั้นมีรูปทรงแบน แต่ปัญหาสำคัญที่มีการอภิปรายอย่างกว้างขวาง คือ ความเป็นไปได้ของการเดินทางรอบโลก เนื่องมาจากอุปสรรคเรื่องของอาหารและข้อจำกัดทางเทคโนโลยีการเดินเรือในสมัยนั้น เช่น การเดินเรือไปติดในบริเวณที่ไม่มีลมพัด เป็นต้นโคลัมบัสนำโครงการเดินเรือดังกล่าวไปเสนอต่อราชสำนักโปรตุเกสเพื่อขอทุนทรัพย์ในการแต่งกองเรือออกไปค้นหาความมั่งคั่งยังดินแดนไกลโพ้น แต่ถูกปฏิเสธ เขาจึงไปขอรับการอุปถัมภ์จาก
พระเจ้าเฟอร์ดินานด์ที่ 5 และ
สมเด็จพระราชินีนาถอิซาเบลลาที่ 1 แห่ง
อาณาจักรคาสตีล และได้รับการอนุมัติให้ออกเดินทางเป็นครั้งแรกในปี
ค.ศ. 1492 แต่แทนที่โคลัมบัสจะไปถึง
หมู่เกาะญี่ปุ่นอย่างที่ได้ตั้งใจไว้ เขากลับไปพบ
หมู่เกาะบาฮามาสและขึ้นฝั่งบนเกาะแห่งหนึ่งที่เขาตั้งชื่อว่า "ซานซัลบาดอร์" เมื่อวันที่
12 ตุลาคม ปีเดียวกัน ในการเดินทางอีกสามครั้งถัดมา เขาได้ค้นพบหมู่เกาะ
เกรตเตอร์แอนทิลลีส เลสเซอร์แอนทิลลีส รวมทั้งชายฝั่ง
ทะเลแคริบเบียนของ
เวเนซุเอลาและ
อเมริกากลาง และประกาศให้ดินแดนเหล่านั้นเป็นกรรมสิทธิ์ของ
จักรวรรดิสเปนแม้ว่าโคลัมบัสนั้นไม่ได้เป็นบุคคลแรกที่เดินทางมาถึงทวีปอเมริกา (เนื่องจาก
เลฟ เอริกสัน และกองเรือ
ชาวนอร์สได้มาถึงทวีปนี้ก่อนแล้ว)
[6] แต่การเดินทางของโคลัมบัสก็ทำให้เกิดการติดต่ออย่างถาวรและต่อเนื่องระหว่างโลกใหม่ (ฝั่งตะวันตกของมหาสมุทรแอตแลนติก) กับโลกเก่า (ฝั่งตะวันออกของมหาสมุทรแอตแลนติก) นำไปสู่ช่วงเวลาของการสำรวจและการล่าอาณานิคมในดินแดนภายนอกทวีปยุโรปที่ดำเนินผ่านเวลาหลายศตวรรษและส่งผลอย่างใหญ่หลวงต่อพัฒนาการทางประวัติศาสตร์ของโลกตะวันตกสมัยใหม่โคลัมบัสเรียกชนพื้นเมืองบนดินแดนที่เขาไปเยือนว่า "อินดิโอส" (เป็นคำภาษาสเปนแปลว่าชาว
อินเดีย)
[7][8][9] โดยไม่ทราบว่าเขาได้ค้นพบทวีปที่ชาวยุโรปไม่เคยรู้จักมาก่อนแล้วโดยบังเอิญ ไม่กี่ปีต่อมา ความขัดแย้งระหว่างโคลัมบัสกับราชบัลลังก์สเปนและผู้ปกครองอาณานิคมคนอื่น ๆ ทำให้เขาถูกปลดออกจากตำแหน่งผู้บริหารอาณานิคมบนเกาะฮิสปันโยลาในปี
ค.ศ. 1500 และถูกส่งตัวกลับมายังสเปน ทายาทของเขาใช้เวลาฟ้องร้องราชบัลลังก์สเปนอยู่เป็นเวลาหลายสิบปีหลังจากเขาเสียชีวิต กว่าจะได้รับส่วนแบ่งจากผลประโยชน์ในดินแดนต่าง ๆ ที่เขาเคยไปสำรวจ