งูเขียวหัวจิ้งจก หรือ
งูเขียวปากจิ้งจก (
อังกฤษ: Oriental whipsnake) เป็น
งูที่มีพิษอ่อนมากชนิดหนึ่ง มี
ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Ahaetulla prasina ในวงศ์ Colubridae มีลักษณะลำตัวเรียวยาว หัวหลิม ปลายปากแหลม ขนาดเมื่อโตเต็มที่ได้ถึง 2 เมตร พื้นลำตัวโดยมากเป็น
สีเขียว มักจะมีเส้น
สีขาวข้างลำตัวบริเวณแนวต่อระหว่างเกล็ดตัวกับเกล็ดท้อง เส้นขาวยาวตั้งแต่บริเวณคอ จนถึงโคนหาง ท้องขาว ส่วนหางตั้งแต่โคนหางถึงปลายหางจะมี
สีน้ำตาลหรือ
สีชมพู ตามีขนาดใหญ่
ม่านตาอยู่ใน
แนวนอน อาศัยอยู่ตาม
ต้นไม้ พบทั่วไปในภูมิภาค
เอเชียใต้จนถึง
เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ใน
ประเทศไทยพบได้ทุกภาค ใน
ป่าทุกประเภท แม้กระทั่ง
สวนสาธารณะหรือ
สวนในบริเวณ
บ้านเรือนของผู้คนที่อยู่ใน
เมืองมีพิษอ่อนมาก โดยพิษจะสามารถทำอันตรายได้เฉพาะสัตว์เล็กที่เป็นอาหาร เช่น
จิ้งจก,
กิ้งก่า,
นก และ
สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็ก เป็นต้น ขณะที่ลูกงูจะกิน
แมลงเป็นอาหาร โดยเป็นงูที่ออกลูกเป็นตัว ระยะเวลาการตั้งท้อง 4 เดือน ออกลูกได้ครั้งละ 6-10 ตัว การผสมพันธุ์จะเริ่มขึ้นในช่วงต้น
ฤดูฝนงูเขียวหัวจิ้งจก มีลักษณะทางกายภาพคล้ายคลึงกับงูอีก 2 ชนิด ที่อยู่ใน
สกุลเดียวกัน คือ
งูเขียวปากแหนบ (A. nasuta) และ
งูเขียวหัวจิ้งจกมลายู (A. mycterizans) โดยงูทั้ง 3 ชนิด นี้ จะมีความหลากหลายทางสีสันมาก โดยจะมีสีสันแตกต่างหลากหลายออกไป ทั้งสีเขียว,
สีส้ม,
สีเหลือง,
สีน้ำตาล,
สีเทา,
สีฟ้า หรือ สีเหล่านี้ผสมกัน เป็นต้น โดยงูที่มีโทนสีส้ม จะถูกเรียกว่า "กล่อมนางนอน" ขณะที่งูที่มีโทนสีเทาจะถูกเรียกว่า "ง่วงกลางดง" ซึ่งชาวบ้านโดยทั่วไปเชื่อว่าเป็นงูที่มีพิษร้ายแรง แต่หาใช่เป็นความจริงหรือไม่
[2]นิยมเลี้ยงเป็น
สัตว์เลี้ยงของผู้นิยมเลี้ยง
สัตว์เลื้อยคลาน ซึ่งมีราคาซื้อขายที่ไม่แพง