งูเห่าหม้อ หรือ
งูเห่าไทย หรือ
งูเห่าดง หรือ
งูเห่าปลวก (
อังกฤษ: Siamese cobra, Monocled cobra;
ชื่อวิทยาศาสตร์: Naja kaouthia) เป็นงูพิษร้ายแรงชนิดหนึ่ง จำพวก
งูเห่า อยู่ใน
วงศ์งูพิษเขี้ยวหน้า (Elapidae)หัวมีลักษณะกลมเรียว หางเรียวยาว มีสีสันลำตัวต่าง ๆ ทั้ง สีดำ, เขียว หรือน้ำตาลเหลืองหรือน้ำตาลเข้ม รวมทั้งเป็นสีขาวนวลปลอดตลอดทั้งตัวด้วย โดยที่มิใช่เป็น
งูเผือกเรียกว่า "งูเห่านวล" (N. k. var. suphanensis
Nutaphand,
1986) มีทั้งที่มีลายตามตัว และไม่มีลาย ไม่มีดอกจัน พบที่แถบ
จังหวัดสุพรรณบุรี[1]ตัวผู้หัวจะทู่ใหญ่ พังพานจะแผ่กว้างเป็นวงกลม ส่วนตัวเมียหัวจะหลิมปลายจมูกเรียว พังพานแคบกว่าตัวผู้ โดยงูเห่าชนิดนี้สามารถแผ่พังพานได้กว้างกว่างูเห่าชนิดอื่น ๆ และใกล้เคียงกับ
งูเห่าอินเดีย (N. naja) ที่พบได้ใน
ประเทศอินเดีย และเมื่อยกตัวชูคอแผ่พังพานได้สูงที่สุดประมาณ 1 ใน 3 ของความยาวลำตัว เกล็ดบนหัวมีขนาดใหญ่จัดเป็นงูเห่าที่มีขนาดใหญ่มากชนิดหนึ่ง โดยความยาวเฉลี่ยเมื่อโตเต็มที่ประมาณ 100–180
เซนติเมตร โดยขนาดยาวที่สุดที่วัดได้ของ
สถานเสาวภา โดย
สภากาชาดไทย คือ 225 เซนติเมตร พบกระจายพันธุ์อย่างชุกชุมใน
ประเทศไทย โดยพบได้ทุกภาค พบชุกชุมโดยเฉพาะ
ภาคกลาง นอกจากนี้แล้วยังพบกระจายพันธุ์อย่างกว้างขวางตั้งแต่อินเดีย,
เนปาล,
พม่า,
จีน,
เวียดนาม,
กัมพูชา,
ลาว ไปจนถึง
แหลมมลายู ในประเทศไทยถือเป็นงูเห่าชนิดที่พบได้ชุกชุมมากที่สุด โดยมักในบริเวณที่ลุ่มค่อนข้างชื้น มักอาศัยอยู่ใน
จอมปลวก,
ทุ่งนา หรือพบบน
ภูเขาที่ระดับความสูง 900 เมตรจากระดับ
น้ำทะเล ออกหากินใน
เวลาพลบค่ำโดยหากินตามพื้นดิน
ผสมพันธุ์ช่วงเดือน
สิงหาคมถึง
มกราคม วางไข่ครั้งละ 15–37 ฟอง ในช่วงเดือน
ตุลาคมถึง
มีนาคม ระยะฟักไข่นาน 51–69 วัน (เฉลี่ย 60 วัน) เมื่อแรกเกิดมีน้ำหนัก 13.2–18.8 กรัม และความยาว 31.5–35.5 เซนติเมตร กิน
สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็กเช่น
หนู และ
นก,
กบ, เขียด และบางครั้งก็กินงูชนิดอื่นเป็นอาหาร นิยมเลี้ยงเป็น
สัตว์เลี้ยงสวยงามแต่ผู้เลี้ยงต้องระวังเพาะงูเห่าชอบกัดคนเลี้ยง