ประวัติศาสตร์ ของ จังหวัดนครพนม

นครพนมเป็นจังหวัดชายแดนตั้งเลียบชายฝั่งขวาของแม่น้ำโขง ตรงข้ามกับเมืองท่าแขก แขวงคำม่วนของประเทศลาว นครพนมเป็นจังหวัดที่ประดิษฐานพระธาตุพนมอันศักดิ์สิทธิ์และเก่าแก่ ซึ่งเป็นพระธาตุที่ประดิษฐานพระอุรังคธาตุ (กระดูกหน้าอก) ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า (สมณโคดม) และนับเป็นพระบรมธาตุคู่เมืองนครพนม เป็นที่เคารพสักการะของชาวไทยและชาวลาวทั้งสองฝั่งแม่น้ำโขงมาตั้งแต่บรรพกาลนานหลายพันปี พระธาตุพนมประดิษฐานอยู่ที่อำเภอธาตุพนม อยู่ห่างจากตัวเมืองนครพนม 52 กิโลเมตร จังหวัดนครพนมมีพื้นที่ประมาณ 5,502.670 ตารางกิโลเมตร ระยะทางห่างจากกรุงเทพมหานครประมาณ 740 กิโลเมตร นอกจากนี้ ในตัวเมืองนครพนมยังมีพระธาตุนครประดิษฐานเป็นพระธาตุกลางเมืองด้วย พระธาตุนครนี้เดิมเป็นวัดที่ใช้สำหรับประกอบพระราชพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยาของเจ้าเมืองนครพนมในอดีต

นครพนมเป็นจังหวัดที่มีบันทึกทางประวัติศาสตร์มาแต่โบราณกาล ในฐานะเมืองเก่าเคียงคู่อยู่กับอาณาจักรศรีโคตรบูร (สมัยปัจจุบันมักสะกดผิดเป็น ศรีโคตรบูรณ์ ซึ่งบูรคำนี้มาจากศัพท์โบราณเป็นคำเดียวกับคำว่า ปุระ หรือบุรี ที่แปลว่าเมืองในภาษาถิ่นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และตรงกับคำว่าเบิร์กหรือโบโรห์ในภาษาฝรั่งตะวันตก ไม่ใช่คำว่า บูรณ์ หรือ บูรณ ที่เป็นคนละความหมาย) แต่เดิมนครพนมมีชื่อเต็มในจารึกสถาปนาวัดโอกาสศรีบัวบานว่า เมืองนครบุรีราชธานีศรีโคตรบูรหลวง เคยเป็นราชธานีที่มีกษัตริย์และเจ้าผู้ครองนครปกครองมาก่อนหลายสมัย เอกสารของล้านช้างส่วนใหญ่ออกนามว่าเมืองลครหรือเมืองนคร เดิมทีนั้นมีพื้นที่อยู่ทางฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขงหรือเมืองเก่าท่าแขกบริเวณหมู่บ้านสีโคดรอบๆ วัดพระธาตุศรีโคตรบูร หรือภาษาท้องถิ่นเรียกว่าพระธาตุศรีโคตรบอง ต่อมาปั 2321 ตรงกับสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชได้ย้ายมาอยู่ฝั่งขวาที่เมืองเก่าหนองจันทน์ปัจจุบันยังเรียกบริเวณนี้ว่าบ้านเมืองเก่า จากนั้นย้ายขึ้นไปทางตอนเหนือที่บ้านโพธิ์คำ คือตัวเมืองนครพนมในปัจจุบันแต่เดิมเรียกว่าเมืองมรุกขนคร ซึ่งเป็นการกลับไปใช่ชื่อเก่าสมัยครั้งยังรุ่งเรืองมีราว พ.ศ. 500 เอกสารล้านช้างบ้างครั้งเรียก รุกขนคร หรือรุกขานคร เคยมีหัวเมืองในปกครองอยู่ในพื้นที่ปัจจุบันของจังหวัดนครพนม, มุกดาหาร, แขวงคำม่วน, แขวงสุวรรณเขต ส่วนใหญ่ของจังหวัดบึงกาฬ และบางอำเภอของจังหวัดสกลนครกับแขวงบอลิคำไซ ก่อนจะขึ้นตรงต่อไปยังเวียงจันทน์ ในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกตีเมืองนครเวียงจันทน์ได้แล้ว ในระหว่างปี พ.ศ. 2329-2333 เจ้าเมืองนครพนมหรือเมืองศรีโคตรบองได้ทูลเกล้าถวายต้นไม้เงินต้นไม้ทองแก่สยามในฐานะนครประเทศราช ชื่อของดินแดนนี้จึงได้รับพระราชทานนามเป็น "นครพนม" สันนิษฐานว่านามนี้มาจากนครพนมเป็นเมืองที่มีพื้นที่ติดต่อกับทิวเขามากมายทางฝั่งซ้ายซึ่งเดิมเคยเป็นพื้นที่หัวเมืองหรืออำเภอที่ขึ้นต่อนครพนม และเชื่อว่าการมีชื่อ "นคร" นำหน้านี้ทำให้เมืองอยู่ในระดับฐานะเมืองลูกหลวง หลังเสร็จสิ้นสงครามเจ้าอนุวงศ์แล้ว พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ลดฐานะเมืองนครพนมเป็นหัวเมืองชั้นเอก ด้วยความเป็นอาณาจักรที่เคยเจริญรุ่งเรืองมาเก่าก่อน ประกอบกับแม่น้ำโขงเป็นแหล่งวัฒนธรรมของมนุษย์ชาติจากหลายชนเผ่า ดังนั้น นครพนมจึงมีโบราณสถานจำนวนมาก และมีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมและประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์

จากนั้นมีการเปลี่ยนแปลงเขตแดนหลายครั้งจากการจัดระเบียบหัวเมือง ยกหัวเมืองใหญ่บางเมืองที่เคยให้ขึ้นต่อนครพนมไปขึ้นต่อมณฑลอุดรโดยตรงเช่นเมืองมุกดาหาร เมืองหนองสูงเป็นต้น จนกระทั่งปี พ.ศ. 2436 ข้าหลวงฝรั่งเศสและกองทัพ ได้แบ่งเอาพื้นที่ฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขงไปทั้งหมดและภายหลังได้ผนวกรวมกับประเทศสหภาพอินโดจีนแห่งฝรั่งเศส (Union indochinoise) ได้แก่พื้นที่ปัจจุบันในแขวงคำม่วน, แขวงสุวรรณเขต และเมืองปากกระดิง เมืองคำเกิดที่ย้ายจากสังกัดแขวงคำม่วนไปขึ้นกับแขวงบอลิคำไซ(รวมทั้งเมืองเวียงทองและไซจำพอนที่แยกออกมาภายหลัง) ทำให้จังหวัดนครพนมเหลือเพียงพื้นที่ฝั่งขวา ส่งผลให้เกิดการปฏิรูปและออก พ.ร.บ.การปกครองรูปแบบใหม่ ยกระดับหัวเมืองต่างๆ ขึ้นเป็นอำเภอและขึ้นต่อจังหวัดนครพนม ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2437 จนถึงปี พ.ศ. 2450 จังหวัดนครพนมประกอบไปด้วยอำเภอดั้งเดิมดังนี้

  1. อำเภอเมืองนครพนม (ปัจจุบันคือพื้นที่ อ.เมืองนครพนม(เคยถูกรัฐบาลเปลี่อนชื่อเป็นอำเภอหนองบึกและเปลี่ยนกลับคืน), อ.ปลาปาก, บางส่วนใน อ.กุสุมาลย์ จ.สกลนคร)
  2. อำเภอเรณูนคร (ปัจจุบันคือพื้นที่ อ.เรณูนคร และ อ.ธาตุพนม)
  3. อำเภอท่าอุเทน (ปัจจุบันคือพื้นที่ อ.ท่าอุเทน, อ.โพนสวรรค์, อ.นาหว้า, อ.นาทม, อ.ศรีสงคราม และบางส่วนของ อ.อากาศอำนวย จ.สกลนคร)
  4. อำเภอไชยบุรี (ปัจจุบันคือพื้นที่ อ.บ้านแพง อ.เมืองบึงกาฬ และพื้นที่ส่วนใหญ่ของ จ.บึงกาฬยกเว้นอำเภอปากคาด และอำเภอโซ่พิสัย)
  5. อำเภอมุกดาหาร (ปัจจุบันคือพื้นที่ส่วนใหญ่ของ อ.เมืองมุกดาหาร, อ.หว้านใหญ่, อ.นิคมคำสร้อย และ อ.ดอนตาล จ.มุกดาหาร)
  6. อำเภอหนองสูง (ปัจจุบันคือพื้นที่ อ.นาแก, อ.วังยาง, และอ.หนองสูง, อ.ดงหลวง, อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร)

ครั้นต่อมาในปี พ.ศ. 2459 มีประกาศพระบรมราชโองการเรื่อง โอนอำเภอไชยบุรีไปขึ้นจังหวัดหนองคาย ลงวันที่ 22 มีนาคม 2459 มีความว่าทรงทราบฝ่าละอองธุรีพระบาทว่าอำเภอไชยบุรี ซึ่งเป็นอำเภอขึ้นจังหวัดนครพนมเวลานี้ ( พ.ศ. 2459) มีท้องที่และระยะทางห่างไกลจากจังหวัดนครพนมมาก เป็นการลำบากแก่ราษฎรที่อยู่ในแขวงอำเภอไชยบุรี ผู้มีกิจสุขทุกข์จะมายังจังหวัดนครพนมและทั้งไม่เหมาะแก่การปกครอง จึงทรงพระราชดำริว่าสมควรจะโอนอำเภอไชยบุรี มาขึ้นจังหวัดหนองคาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้โอนอำเภอไชยบุรีมาขึ้นจังหวัดหนองคาย ตั้งแต่บัดนี้ (พ.ศ. 2459) เป็นต้นไป (ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 33 หน้า 320 – 321 ลงวันที่ 25 มีนาคม 2459 ) โดยย้าย ต.บ้านแพงซึ่งเป็นที่ตั้งเดิมของที่ว่าการอำเภอไชยบุรีกลับไปขึ้นกับ อ.ท่าอุเทนและได้รับการยกฐานะขึ้นเป็น อ.บ้านแพงในภายหลัง ส่วนอ.บึงกาฬก็ได้รับการจัดตั้งเป็น จ.บึงกาฬในปัจจุบัน

อำเภอใหญ่ต่างๆ แตกออกเป็นหลายอำเภอได้แก่ อำเภอท่าอุเทน แตกเป็นอ.อากาศอำนวยซึ่งภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็นอ.ศรีสงคราม และแยกบ้านอากาศและพื้นที่บางส่วนไปขึ้นกับ อ.วานรนิวาสจนได้รับการยกฐานะกลับมาเป็น อ.อากาศอำนวยภายหลัง มีการจัดตั้งอ.นาหว้า อ.บ้านแพง อ.นาทม และ อ.โพนสวรรค์แยกออกมาอีกภายหลัง ที่อำเภอเมืองนครพนม ภายหลังแยก อ.ปลาปาก และคืนพื้นที่บางตำบลกลับไปรวมกับอีกหลายตำบลในจ.สกลนคร จัดตั้งเป็น อ.กุสุมาลย์ อำเภอเรณูนครภายหลังถูกยุบแล้วย้ายที่ว่าการไปตั้งที่ใหม่ใกล้วัดพระธาตุพนมจัดตั้งขึ้นเป็นอำเภอธาตุพนม จนผ่านไปหลายสิบปีจึงแยกตัวกลับมาเป็น อ.เรณูนคร ออกมาจาก อ.ธาตุพนม ทางด้านอำเภอหนองสูงถูกย้ายที่ทำการไปที่ใหม่และยุบอำเภอเปลี่ยนชื่อเป็น อำเภอนาแก แบ่งบางตำบลรวมถึงต.หนองสูงเดิมไปขึ้นกับ อ.มุกดาหาร ภายหลังการจัดตั้งจังหวัดมุกดาหาร

ในปี พ.ศ. 2525 รัฐบาลได้ออกพระราชบัญญัติจัดตั้งจังหวัดมุกดาหาร พ.ศ. 2525 แยกอำเภอ มุกดาหารเป็นจังหวัด ตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2525 โดยมีอำเภอมุกดาหาร อำเภอดอนตาล และอำเภอต่างๆ ที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของอำเภอมุกดาหารได้แก่ อำเภอคำชะอี อำเภอหนองสูง อำเภอหว้านใหญ่ อำเภอนิคมคำสร้อย รวมทั้งได้แยก ตำบลดงหลวง ออกจาก อำเภอนาแกไปรวมกับมุกดาหาร เป็นอำเภอดงหลวง

ในปี พ.ศ. 2561 มีการจัดงานเฉลิมฉลอง 232 ปี เมืองนครพนม ใต้ร่มพระบารมีจักรีวงศ์ เพื่อฉลองครบรอบการจัดตั้งจังหวัดนครพนมในฐานะเมืองหนึ่งของสยาม ที่กลายเป็นประเทศไทยอย่างเต็มตัวเมื่อ 232 ปีก่อนหลังการเปลี่ยนผ่านจากเมืองมรุกขนครที่เป็นส่วนหนึ่งภายใต้อิทธิพลการปกครองของล้านช้างเวียงจันทน์ มาขึ้นเป็นนครประเทศราชต่อสยามและได้รับโปรดเกล้ารับรองและพระราชทานนาม นครพนม

ใกล้เคียง

จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดบุรีรัมย์ จังหวัดชลบุรี จังหวัดของประเทศไทย จังหวัดเลย จังหวัดนครศรีธรรมราช จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดขอนแก่น