การก่อตั้งสมาคมจิตวิทยาในประเทศไทย ของ จิตวิทยา

สมาคมจิตวิทยาแห่งประเทศไทย (เขียนโดย รศ. ดร.ประสาร มาลากุล ณ อยุธยา)

เริ่มก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2504 โดยมีศาสตราจารย์ ดร.หม่อมหลวงตุ้ย ชุมสาย ผู้เป็น อาจารย์จิตวิทยาที่มีชื่อเสียงที่สุดในช่วงนั้น เป็นนายกสมาคมคนแรก (พ.ศ. 2504-2506) ต่อมาศาสตราจารย์ นายแพทย์ประสพ รัตนากร ผู้เป็นแพทย์เฉพาะทางประสาทวิทยาและจิตวิทยาคนแรกของไทยได้รับหน้าที่ เป็นนายกสมาคมฯคนที่ 2 มาเป็นเวลายาวนานตั้งแต่ พ.ศ. 2507 ถึง 2531 จนมาถึงรองศาสตราจารย์ ดร. ประสาร มาลากุล ณ อยุธยา อดีตคณบดีคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้รับเลือกตั้งเป็นนายก สมาคมฯ คนที่ 3 ปรากฏว่าในช่วงนั้นต้องมีการดำเนินการขอจดทะเบียนจัดตั้งสมาคมใหม่ เนื่องจากตาม ระเบียบการจัดตั้งสมาคมวิชาชีพของราชการ ซึ่งขณะนั้นกระทรวงวัฒนธรรมรับผิดชอบดูแลอยู่ สถานภาพ ของสมาคมจิตวิทยาแห่งประเทศไทยได้สิ้นสุดไปแล้ว นายกสมาคมคนที่ 3 ได้พยายามดำเนินการจดทะเบียน จัดตั้งสมาคมจนเรียบร้อยเมื่อวันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2536 แล้วจึงจัดการเลือกตั้งนายกสมาคมฯ คนที่4 ซึ่ง ได้แก่ศาสตราจารย์ ดร.ดวงเดือน พันธุมนาวินมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร  ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2536 – 2558 เป็นเวลา 22 ปี ได้มีอาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิจากสถาบันการศึกษาชั้นนำ ของประเทศ คือจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และในช่วง 8 ปีหลัง คือ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ ราชวิทยาลัย (มจร.) ทำหน้าที่บริหารงานสมาคมฯ ต่อเนื่องกันด้วยดีตลอดมา

แต่เมื่อต้นปี พ.ศ. 2559 เมื่อมี การเตรียมจัดงานครบรอบสถาปนาสมาคม 55 ปี ก็ได้พบหลักฐานทางราชการว่า ชื่อนายกสมาคมจิตวิทยา แห่งประเทศไทยที่เป็นทางการในเอกสารราชการยังเป็น นางประสาร มาลากุล ณ อยุธยา ผู้จดทะเบียน จัดตั้งสมาคมฯ เมื่อวันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2536 อยู่ ดังนั้นจึงเป็นเหตุจำเป็นที่ผู้ซึ่งมีนามปรากฏเป็นทางการยัง ต้องรับผิดชอบทำหน้าที่บริหารงานและดำเนินการต่อทะเบียนสมาคมฯ ให้เรียบร้อยต่อไป

ในปัจจุบัน นางประสาร มาลากุล ณ อยุธยา จึงทำหน้าที่นายกสมาคมฯ และได้ดำเนินการแต่งตั้ง กรรมการอำนวยการเลือกตั้งกรรมการกลาง และว่าที่นายกสมาคมฯ สำหรับวาระ พ.ศ. 2559-2560 ครบถ้วน ตามระเบียบการที่กำหนดไว้ในข้อบังคับของสมาคมจิตวิทยาแห่งประเทศไทย ฉบับที่จดทะเบียนไว้และใช้อยู่ในปัจจุบัน

สมาคมนักจิตวิทยาคลินิกแห่งประเทศไทย (สุพิน พรพิพัฒน์กุล, 2554)

นับตั้งแต่สำนักงานข้าราชการพลเรือนได้กำหนดให้มีตำแหน่งนักจิตวิทยาขึ้นในประเทศไทยในปีพุทธศักราช 2506 เป็นต้นมาจวบจนถึงปัจจุบันนับรวมได้48 ปี กล่าวคือ กระบวนการพัฒนาบทบาทหน้าที่ทางด้านจิตวิทยาคลินิกเริ่มเติบโตขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปโดยมีอาจารย์สมทรง สุวรรณเลิศ ( สกุลเดิม บุนนาค) ซึ่งดำรงตำแหน่งนักจิตวิทยาท่านแรกที่ได้วางรากฐานสาขาจิตวิทยาคลินิก ซึ่งเป็นทั้งแม่แบบ และผู้หล่อหลอมให้วิชาชีพนักจิตวิทยาคลินิกมีความเป็นวิชาชีพที่แท้จริง ด้วยความสำนึกและเคร่งครัดในจรรยาบรรณ คำนึงถึงความถูกต้องตามหลักวิชาการในการให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยอย่างใจเป็นกลาง เป็นสิ่งที่มีการปลูกฝังกันมาตั้งแต่เริ่มต้นและมีการถ่ายทอดกันมาจนถึงปัจจุบัน

ในปี พุทธศักราช 2512 เริ่มมีการก่อตั้งชมรมนักจิตวิทยาคลินิกขึ้น โดยมีอาจารย์สมทรง สุวรรณเลิศ เป็นประธานชมรมฯ กิจกรรมที่ทำต่อเนื่องกันมาทุกปี คือ การประชุมวิชาการประจำปี รวม 7 ครั้ง และเริ่มมีการจัดทำวารสารชมรมนักจิตวิทยาคลินิก โดยใช้ชื่อภาษาอังกฤษว่า Journal of The Clinical Psychologist Club มีกำหนดออก ปีละ 3 ฉบับ ฉบับแรกที่ออกเมื่อวันที่ 5 กันยายน 2513 การออกวารสารชมรมนักจิตวิทยาคลินิก มีจุดมุ่งหมาย เพื่อเผยแพร่ความรู้ทางจิตวิทยาคลินิก จิตเวช และศาสตร์ใกล้เคียงอื่น ๆ รวมถึงการรายงานข่าวความเคลื่อนไหวในวงการจิตวิทยาคลินิก ซึ่งก็มีผลงานใหม่ ๆ ด้านจิตวิทยาคลินิกและสุขภาพจิตที่เป็นประโยชน์แก่ชุมชนลงตีพิมพ์ โดยได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานหรือองค์กรอื่นทั้งในประเทศและต่างประเทศ

ต่อมาในปีพุทธศักราช 2519 ชมรมนักจิตวิทยาคลินิก เลื่อนฐานะจากชมรม ฯ ขึ้นมาเป็นสมาคมนักจิตวิทยาคลินิกไทยโดยใช้อักษรย่อว่า ส.น.ค.ท. และใช้ชื่อภาษาอังกฤษว่า "The Thai Psychologist Association ( TPA) โดยมีนางสาวอุ่นเรือน อำไพพัสตร์ เป็นนายกสมาคม ฯ และนับเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับความกรุณาจากศาสตราจารย์นายแพทย์ฝน แสงสิงแก้ว ศาสตราจารย์หม่อมหลวงตุ้ย ชุมสาย ศาสตราจารย์นายแพทย์ประสพ รัตนากร แพทย์หญิงคุณหญิงสุภา มาลากุล และนายแพทย์ประสิทธิ์ หะรินสุต มาเป็นที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ในขณะนั้น ส่วนที่ปรึกษาก็ยังคงได้รับความกรุณาจากนักจิตวิทยาอาวุโสคือ นางสมทรง สุวรรณเลิศ และนายณรงค์ศักดิ์ ตะละภัฏ และมีคณะกรรมการอำนวยการบริหารงานของสมาคม ฯ วาระละ 2 ปี ต่อมาได้มีการปรับเปลี่ยนชื่อวารสารใหม่มาเป็นวารสารจิตวิทยาคลินิก โดยใช้ชื่อภาษาอังกฤษว่า "Journal of Clinical Psychology" มาจนถึงปัจจุบัน และได้มีการพัฒนาให้สอดคล้องกับการพัฒนาการทางสังคม โดยมีวัตถุประสงค์ของการจัดทำวารสารสมาคม ฯ ดังนี้คือ

         1. เพื่อเพิ่มพูนความรู้และประสบการณ์ระหว่างสมาชิก

         2. ส่งเสริมและดูแลคุณภาพงานด้านจิตวิทยาคลินิกและจิตวิทยาแก่สมาชิกทั้งด้านการปฏิบัติและวิชาการ

         3. เพื่อร่วมมือกันผลิตผลงานการวิจัยทางด้านจิตวิทยาคลินิกและสุขภาพจิตให้เป็นประโยชน์ต่อชุมชน

         4. เพื่อเผยแพร่ความรู้ทางด้านจิตวิทยาคลินิกและสุขภาพจิตแก่ประชาชน

         5. ร่วมมือกับสมาคมและสถาบันอื่น ๆ ที่มีวัตถุประสงค์คล้ายคลึงกันทั้งในประเทศและต่างประเทศ

         6. ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง

เนื่องจากวิชาชีพจิตวิทยาคลินิกมีลักษณะการทำงานที่มีแนวปฏิบัติแตกต่างจากวิชาชีพจิตวิทยาสาขาอื่น โดยเฉพาะในด้านการตรวจวินิจฉัยทางจิตวิทยา และเพื่อธำรงไว้ถึงความตระหนักในบทบาทวิชาชีพ ในปีเดียวกัน สมาคมฯ จึงได้มีการประกาศจรรยาบรรณของนักจิตวิทยาคลินิกและจัดพิมพ์เผยแพร่แก่สมาชิกสมาคม ในปี 2526 และในปีพุทธศักราช 2534 สมาคมนักจิตวิทยาคลินิกได้มีการทบทวนบทบาทและจัดทำมาตรฐานการปฏิบัติงานของวิชาชีพจิตวิทยาคลินิกใหม่ให้ชัดเจนขึ้น โดยกองสุขภาพจิต กรมการแพทย์ในขณะนั้น และได้มีการปรับปรุงหลายครั้งหลายสมัยต่อเนื่องกันมาเพื่อให้เป็นมาตรฐานสากล และเป็นหลักประกันคุณภาพการให้บริการของนักจิตวิทยาคลินิก

ในปีพุทธศักราช 2546 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชได้มีพระบรมราชโองการ โปรดเกล้า ให้ตราพระราชกฤษฎีกากำหนดให้สาขาจิตวิทยาคลินิกเป็นสาขาการประกอบโรคศิลปะตามพระราชบัญญัติการประกอบโรคศิลปะ พ.ศ. 2546 ณ วันที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2546 ซึ่งเหตุผลหนึ่งในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้คือ สาขาจิตวิทยาคลินิกเป็นสาขาหนึ่งที่กระทำต่อมนุษย์โดยตรง การวินิจฉัย การบำบัดความผิดปกติทางจิตอันเนื่องมาจากภาวะทางจิตใจ บุคลิกภาพ เชาวน์ปัญญา อารมณ์ พฤติกรรมการปรับตัว ความเครียด หรือพฤติกรรมผิดปกติอันเนื่องมาจากพยาธิสภาพทางสมอง ด้วยวิธีเฉพาะทางจิตวิทยาคลินิก อันเป็นประโยชน์ต่อประชาชนที่มารับบริการ จึงถือได้ว่าเป็นการพัฒนาอีกขั้นหนึ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง นับวันบทบาทของสมาคมนักจิตวิทยาคลินิกจึงมีเพิ่มขึ้นเพื่อทำหน้าที่เป็นหน่วยกลางในการพัฒนาวิชาชีพจิตวิทยาคลินิก รวมทั้งการดูแลนักจิตวิทยาคลินิก และในปีปัจจุบันมีนักจิตวิทยาคลินิกที่ผ่านการสอบและได้รับการอนุมัติให้ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะสาขาจิตวิทยาคลินิกมีจำนวนทั้งสิ้น 480 ราย

สมาคมจิตวิทยาการปรึกษาในประเทศไทย

มีการก่อตั้งชมรมนักจิตวิทยาการปรึกษาในประเทศไทย เมื่อปี พ.ศ. 2559 เป็นการรวมตัวนักจิตวิทยาการปรึกษาจำนวนหนึ่งที่เห็นความสำคัญของศาสตร์จิตวิทยา และมีเป้าหมายเพื่อเผยแพร่องค์ความรู้ทางจิตวิทยาเพื่อบรรเทาปัญหาสุขภาพจิตของคนไทย

ปัจจุบันประเทศไทยได้มีการจัดตั้งสมาคมจิตวิทยาการปรึกษาในประเทศไทย เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2561 โดยมีวัตถุประสงค์ดังนี้

  1. ส่งเสริมความเป็นวิชาชีพจิตวิทยาการปรึกษาให้ก้าวหน้า
  2. ส่งเสริมและเผยแพร่ความรู้วิชาการเกี่ยวกับวิชาชีพจิตวิทยาการปรึกษา
  3. ส่งเสริมความสามัคคี ความเอื้ออาทร และเชิดชูเกียรติสมาชิก
  4. ส่งเสริม สนับสนุน ร่วมมือกับองค์การการกุศลอื่นๆ เพื่อสาธารณประโยชน์
  5. ไม่ดำเนินการใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเมือง

ใกล้เคียง

จิตวิทยา จิตวิทยาเชิงบวก จิตวิทยาคลินิก จิตวิทยาอุตสาหกรรมและองค์การ จิตวิทยาชุมชน จิตวิทยาเกสทัลท์ จิตวิทยาสังคม จิตวิทยาการกีฬา จิตวิทยาพัฒนาการ จิตวิทยาบุคลิกภาพ