เมนูนำทาง
ฉันท์ ฉันท์วรรณพฤติฉันท์วรรณพฤติ มีทั้งสิ้น 81 ชนิด บังคับจำนวนพยางค์ ตั้งแต่ บาทละ 6 พยางค์ ถึง 25 พยางค์ แต่ ฉันท์ที่คนไทยนิยมแต่ง มีเพียงไม่กี่ชนิด ได้แก่
หนึ่งบทมี 4 บาท บาทละ 8 พยางค์ แบ่งเป็น 2 วรรค วรรคละ 4 พยางค์ ส่งสัมผัสแบบกลอน
ลักษณะครุ-ลหุเหมือนกับทุกบาท คือ ครุ-ลหุ-ลหุ-ครุ ลหุ-ลหุ-ครุ-ครุ
ตัวอย่างคำประพันธ์
เหตุพินาศ | อนุศาสน์ แสดง | |
ฉัพพิธะแจง | นรปรีชา |
เชิญมละโทษ | ดุจพรรณนา | |
จักยศถา | วรสวัสดี |
ฉันทภิปราย | อธิบายบท | |
คามภิรพจน์ | ศุภสารศรี |
จิตระปทา | พฤตินามมี | |
จินตกวี | รนิพนธ์แถลง | |
— (ประชุมจารึกวัดพระเชตุพนฯ) |
วิชชุมมาลาฉันท์ มีความหมายว่า "ระเบียบแห่งสายฟ้า" ประกอบด้วยครุล้วน จึงใช้บรรยายความอย่างธรรมดา
หนึ่งบทมี 4 บาท บาทละ 8 พยางค์ แบ่งเป็น 2 วรรค วรรคละ 4 พยางค์ ส่งสัมผัสแบบกลอน
ลักษณะครุ-ลหุ เหมือนกันทุกบาท คือ ครุ-ครุ-ครุ-ครุ ครุ-ครุ-ครุ-ครุ
ตัวอย่างคำประพันธ์
แรมทางกลางเถื่อน | ห่างเพื่อนหาผู้ | |
หนึ่งในนึกดู | เห็นใครไป่มี |
หลายวันถั่นล่วง | เมืองหลวงธานี | |
นามเวสาลี | ดุ่มเดาเข้าไป |
ผูกไมตรีจิต | เชิงชิดชอบเชื่อง | |
กับหมู่ชาวเมือง | ฉันอัชฌาสัย |
เล่าเรื่องเคืองขุ่น | ว้าวุ่นวายใจ | |
จำเป็นมาใน | ด้าวต่างแดนตน | |
— สามัคคีเภทคำฉันท์, ชิต บุรทัต |
มาณวกฉันท์ มีความหมายว่า "ประดุจเด็กหนุ่ม" ใช้แต่งบรรยายความที่รวดเร็ว
หนึ่งบทมี 4 บาท บาทละ 8 พยางค์ แบ่งเป็น 2 วรรค วรรคละ 4 คำ ส่งสัมผัสแบบกลอน
ลักษณะครุ-ลหุ เหมือนกันทุกบาท คือ ครุ-ลหุ-ลหุ-ครุ ครุ-ลหุ-ลหุ-ครุ
ตัวอย่างคำประพันธ์
ล่วงลุประมาณ | กาลอนุกรม | |
หนึ่งณนิยม | ท่านทวิชงค์ |
เมื่อจะประสิทธิ์ | วิทยะยง | |
เชิญวรองค์ | เอกกุมาร |
เธอจรตาม | พราหมณไป | |
โดยเฉพาะใน | ห้องรหุฐาน |
จึงพฤฒิถาม | ความพิสดาร | |
ขอ ธ ประทาน | โทษะและไข | |
— สามัคคีเภทคำฉันท์, ชิต บุรทัต |
หนึ่งบทมี 4 บาท บาทละ 8 พยางค์ แบ่งเป็น 2 วรรค วรรคละ 4 พยางค์ ส่งสัมผัสแบบกลอน
ลักษณะครุ-ลหุ เหมือนกันทุกบาทคือ ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ
ตัวอย่างคำประพันธ์
ประดิษฐ์ประดับ | ประคับประคอง | |
ละเบงละบอง | จำแนกจำนรร |
ระเบียบและบท | สุพจน์สุพรรณ์ | |
จะเฉิดจะฉัน | วิเรขวิไล |
ลิลิตลิลาศ | มิคลาดมิคล้อย | |
ก็เรียบก็ร้อย | อำพนอำไพ |
จะจัดจะแจง | ผิแขงผิไข | |
แถลงไถล | ก็เสื่อมก็ทราม | |
— (ฉันทศาสตร์) |
หมายถึงฉันท์ที่กล่าวสำเนียงอันดังก้องให้ปรากฏ
หนึ่งบทมี 2 บาท บาทละ 11 พยางค์ แบ่งเป็น 2 วรรค วรรคแรก 5 พยางค์ วรรคหลัง 6 พยางค์ ส่งสัมผัสแบบกาพย์
ลักษณะครุ-ลหุ เหมือนกันทุกบาท คือ ครุ-ครุ-ลหุ-ลหุ-ครุ ลหุ-ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ครุ
ตัวอย่างคำประพันธ์
เห็นเชิงพิเคราะห์ช่อง | ชนะคล่องประสบสม | |
พราหมณ์เวทอุดม | ธก็ลอบแถลงการณ์ |
ให้วัลลภะชน | คมะดลประเทศฐาน | |
กราบทูลนฤบาล | อภิเผ้ามคธไกร | |
— สามัคคีเภทคำฉันท์, ชิต บุรทัต |
อินทรวิเชียรฉันท์ มีความหมายว่า "ฉันท์ที่มีลีลาดุจสายฟ้าของพระอินทร์" เป็นฉันท์ที่นิยมแต่งกันมากที่สุด มีลักษณะและจำนวนคำคล้ายกับกาพย์ยานี 11 แต่ต่างกันเพียงที่ว่าอินทรวิเชียรฉันท์ มีข้อบังคับ ครุและลหุ
หนึ่งบทมี 2 บาท บาทละ 11 พยางค์ แบ่งเป็น 2 วรรค วรรคแรก 5 พยางค์ วรรคหลัง 6 พยางค์ ส่งสัมผัสแบบกาพย์
ลักษณะครุ-ลหุ เหมือนกันทุกบาท คือ ครุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ครุ ลหุ-ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ครุ
ตัวอย่างคำประพันธ์
บงเนื้อก็เนื้อเต้น | พิศะเส้นสรีร์รัว | |
ทั่วร่างและทั้งตัว | ก็ระริกระริวไหว |
แลหลังก็หลั่งโล- | หิตโอ้เลอะหลั่งไป | |
เพ่งผาดอนาถใจ | ตละล้วนระรอยหวาย | |
— สามัคคีเภทคำฉันท์, ชิต บุรทัต |
หนึ่งบทมี 2 บาท บาทละ 11 พยางค์ แบ่งเป็น 2 วรรค วรรคแรก 5 พยางค์ วรรคหลัง 6 พยางค์ ส่งสัมผัสแบบกาพย์
ลักษณะครุ-ลหุ เหมือนกันทุกบาท คือ ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ครุ ลหุ-ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ครุ
ตัวอย่างคำประพันธ์
ทิชงค์เจาะจงเจตน์ | กละห์เหตุยุยงเสริม | |
กระหน่ำและซ้ำเติม | นฤพัทธะก่อการ |
ละครั้งระหว่างครา | ทินะวาระนานนาน | |
เหมาะท่าทิชาจารย์ | ธก็เชิญเสด็จไป | |
— สามัคคีเภทคำฉันท์, ชิต บุรทัต |
หนึ่งบทมี 4 บาท บาทละ 11 พยางค์ แบ่งเป็น 2 วรรค วรรคแรก 5 พยางค์ วรรคหลัง 6 พยางค์ ส่งสัมผัสแบบกาพย์
ลักษณะครุ-ลหุ
ตัวอย่างคำประพันธ์
พิธีณะฉันทศาสตร์ | อุปชาตินามเห็น | |
เชลงลักษณลำเค็ญ | กลนัยสลับกัน |
นาเนกะบัณฑิตย์ | จะประกิจประกอบฉันท์ | |
พินิจฉบับบรรพ์ | บทแน่ตระหนักใจ | |
— (ประชุมจารึกวัดประเชตุพนฯ) |
หนึ่งบทมี 2 บาท บาทละ 11 พยางค์ แบ่งเป็น 2 วรรค วรรคแรก 5 พยางค์ วรรคหลัง 6 พยางค์ ส่งสัมผัสแบบกาพย์
ลักษณะครุ-ลหุ เหมือนกันทุกบาท คือ ครุ-ครุ-ครุ-ครุ-ครุ ลหุ-ครุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ครุ
ตัวอย่างคำประพันธ์
พราหมณ์ครูรู้สังเกต | ประจักษ์เหตุตระหนักครัน | |
ราชาวัชชีสรร | พะจักสู่พินาศสม |
ยินดีบัดนี้กิจ | จะสัมฤทธิ์มนารมณ์ | |
ทำมาด้วยปรากรม | และอุตสาหะแห่งตน | |
— สามัคคีเภทคำฉันท์, ชิต บุรทัต |
หนึ่งบทมี 2 บาท บาทละ 11 พยางค์ แบ่งเป็น 2 วรรค วรรคแรก 7 พยางค์ วรรคหลัง 4 พยางค์ ส่งสัมผัสแบบกาพย์
ลักษณะครุ-ลหุ เหมือนกันทุกบาท คือ ครุ-ลหุ-ครุ-ลหุ-ลหุ-ลหุ-ครุ ลหุ-ลหุ-ครุ-ครุ
ตัวอย่างคำประพันธ์
ข้าสดับสุมะทะนา | วจะว่าวอน | |
ใจก็นึกกรุณะหล่อน | ฤดิสงสาร |
เล็งก็รู้ณพะหุเหต | ทุขะเภทพาล | |
ใคร่จะช่วยและอุปะการ | ยุวะนารี | |
— มัทนะพาธา, พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว |
หนึ่งบทมี 2 บาท บาทละ 12 พยางค์ แบ่งเป็น 2 วรรค วรรคแรก 5 พยางค์ วรรคหลัง 7 พยางค์ ส่งสัมผัสแบบกาพย์
ลักษณะครุ-ลหุ เหมือนกันทุกบาท คือ ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ครุ ลหุ-ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ
ตัวอย่างคำประพันธ์
อนี้และนามวัง | สฐะดั่งฉบับนิพนธ์ | |
ประกอบวิธียล | บทแบบก็แยบขบวน |
ดิเรกะวิญญู | ชนะรู้แลใคร่แลครวญ | |
สนุกเสนอควร | สุขจิตรประดิษฐ์ณะฉันท์ | |
— (ประชุมจารึกวัดพระเชตุพนฯ) |
หนึ่งบทมี 2 บาท บาทละ 12 พยางค์ แบ่งเป็น 2 วรรค วรรคแรก 5 พยางค์ วรรคหลัง 7 พยางค์ ส่งสัมผัสแบบกาพย์
ลักษณะครุ-ลหุ เหมือนกันทุกบาท คือ ครุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ครุ ลหุ-ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ
ตัวอย่างคำประพันธ์
ราชาประชุมดำ- | ริหะโดยประการะดัง | |
ดำรัสตระบัดยัง | วจนัตถ์ปวัตติพลัน |
ให้ราชภัฏโป | ริสะไปขมีขมัน | |
หาพราหมณ์ทุพลอัน | บุระเนระเทศะมา | |
— สามัคคีเภทคำฉันท์, ชิต บุรทัต |
หนึ่งบทมี 2 บาท บาทละ 12 พยางค์ แบ่งเป็น 2 วรรค วรรคละ 6 พยางค์ ส่งสัมผัสแบบกาพย์
ลักษณะครุ-ลหุ เหมือนกันทุกบาท คือ ลหุ-ลหุ-ครุ-ลหุ-ลหุ-ครุ ลหุ-ลหุ-ครุ-ลหุ-ลหุ-ครุ
ตัวอย่างคำประพันธ์
มะทะนาดนุรัก | วรยอดยุพะดี | |
และจะรักบมิมี | ฤดิหน่ายฤระอา |
ผิวะอายุจะยืน | ศะตะพรรษะฤกว่า | |
ก็จะรักมะทะนา | บมิหย่อนฤดิหรรษ์ | |
— มัทนะพาธา, พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว |
ภุชงคประยาตฉันท์ 12 มีความหมาย "งูเลื้อย" มีทำนองที่สละสลวย มักใช้แต่งกับเนื้อหาที่มีการต่อสู้ บทสดุดี บทชมความงาม บทถวายพระพร และบทสนุกสนาน นอกจักนั้นยังสามารถใช้แต่งบรรยายความให้รวดเร็วได้
หนึ่งบทมี 2 บาท บาทละ 12 พยางค์ แบ่งเป็น 2 วรรค วรรคละ 6 พยางค์ ส่งสัมผัสแบบกาพย์
ลักษณะครุ-ลหุ เหมือนกันทุกบาท คือ ลหุ-ครุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ครุ ลหุ-ครุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ครุ
ตัวอย่างคำประพันธ์
ทิชงค์ชาติ์ฉลาดยล | คเนกลคนึงการ | |
กษัตริย์ลิจฉวีวาร | ระวังเหือดระแวงหาย |
เหมาะแก่การจะเสกสัน | ปวัตติ์วัญจะโนบาย | |
มล้างเหตุพิเฉทสาย | สมัคคิ์สนธิ์สโมสร | |
— สามัคคีเภทคำฉันท์, ชิต บุรทัต |
หนึ่งบทมี 2 บาท บาทละ 12 พยางค์ แบ่งเป็น 2 วรรค วรรคละ 6 พยางค์ ส่งสัมผัสแบบกาพย์
ลักษณะครุ-ลหุ เหมือนกันทุกบาท คือ ลหุ-ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ครุ ลหุ-ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ครุ
ตัวอย่างคำประพันธ์
ทวิโลกยาฤๅคุณ | ก็บุลยบันดาล | |
อภิมงคลาลาญ | ทุวิบากวิบัติภัย |
คณะฉันทสรรค์นาม | กรตามบุราณไข | |
บทกลอนกระมลไพ | เราะหพร้องลบองแสดง | |
— (ประชุมจารึกวัดพระเชตุพนฯ) |
วสันตดิลกฉันท์ มีความหมายว่า "ฉันท์ที่มีลีลาดังจอมเมฆในฤดูใบไม้ผลิ (ฤดูฝน)" เป็นหนึ่งในฉันท์ที่นิยมแต่งกันมากที่สุด เนื่องจากอ่านแล้วฟังได้รื่นหู รู้สึกซาบซึ้งจับใจ มักใช้แต่งชมความงาม และสดุดีความรักหรือของสูง
หนึ่งบทมี 2 บาท บาทละ 14 พยางค์ แบ่งเป็น 2 วรรค วรรคแรก 8 พยางค์ วรรคหลัง 6 พยางค์ ส่งสัมผัสแบบกาพย์
ลักษณะครุ-ลหุ เหมือนกันทุกบาท คือ ครุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ลหุ-ลหุ-ลหุ-ครุ ลหุ-ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ครุ
ตัวอย่างคำประพันธ์
แสงดาววะวาวระกะวะวับ | ดุจะดับ บ เด่นดวง | |
แขลับก็กลับพิภพะสรวง | มิสะพรึบพะพราวเพรา |
เคยเห็นพระเพ็ญ ณ รัศมี | รัชนีถนัดเนา | |
เหนือนั่นแน่ะพลันจะสละเงา | กลเงินอร่ามงาม | |
— เหมือนพระจันทร์ข้างแรม, ชิต บุรทัต |
ชื่อฉันท์แปลว่า ดอกไม้ เป็นฉันท์ที่แต่งยากแต่ทว่ามีความงามประดุจดอกไม้ ทำนองฉันท์สั้นกระชับในตอนต้น แล้วราบรื่นในตอนปลาย เป็นฉันท์ที่มีท่วงทำนองเคร่งขรึมน่ายำเกรง กวีมักใช้แต่งเพื่ออวดความสามารถในการใช้ศัพท์และเป็นเชิงกลบท
หนึ่งบทมี 15 พยางค์ แบ่งเป็น 3 วรรค วรรคแรก 8 พยางค์ วรรคสอง 4 พยางค์ วรรคสุดท้าย 3 พยางค์ ส่งสัมผัสแบบกลอนสังขลิก
ลักษณะครุ-ลหุ คือ ลหุ-ลหุ-ลหุ-ลหุ-ลหุ-ลหุ-ครุ-ครุ ครุ-ลหุ-ครุ-ครุ ลหุ-ครุ-ครุ
ตัวอย่างคำประพันธ์
กษณะทวิชะรับฐา | นันดร์และที่วา | |
จกาจารย์ |
นิรอลสะประกอบภาร | พีริโยฬาร | |
และเต็มใจ |
หนึ่งบทมี 15 พยางค์ แบ่งเป็น 3 วรรค วรรแรก 7 พยางค์ วรรคสอง 4 พยางค์ และวรรคสุดท้าย 4 พยางค์ ส่งสัมผัสแบบกลอนสังขลิก
ลักษณะครุ-ลหุ คือ ลหุ-ลหุ-ลหุ-ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ ลหุ-ลหุ-ลหุ-ครุ ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ
ตัวอย่างคำประพันธ์
สุวุติปภัททกา | รจิตนา | |
มกรประกาศ |
บทคณฉันทศาสตร์ | นิกรปราชญ์ | |
ประพฤติเพียร |
พจนพิจิตรเรียน | อลสะเพียร | |
มโนวิจารณ์ |
วิบุลยปรีชญาณ | พลจะชาญ | |
ฉลาดนิพนธ์ | ||
— (ประชุมจารึกวัดพระเชตุพนฯ) |
หนึ่งบทมี 16 พยางค์ แบ่งเป็น 3 วรรค วรรแรก 7 พยางค์ วรรคสอง 4 พยางค์ และวรรคสุดท้าย 5 พยางค์ ส่งสัมผัสแบบกลอนสังขลิก
ลักษณะครุ-ลหุ คือ ลหุ-ลหุ-ลหุ-ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ ลหุ-ลหุ-ลหุ-ครุ ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ครุ
ตัวอย่างคำประพันธ์
นรนฤนาทภิบาล | กลประมาณ | |
ประเล่ห์อุประมา |
จะประพฤติราชกิจา | นุกิจสา \ | |
ธุธรรม์บอาธรรม์ |
บุพบทวากยวรร | ณวุดิฉัน | |
ทวณินีนาม | ||
— (ประชุมจารึกวัดพระเชตุพนฯ) |
หนึ่งบทมี 18 พยางค์ แบ่งเป็น 3 วรรค วรรแรก 11 พยางค์ วรรคสอง 4 พยางค์ และวรรคสุดท้าย 3 พยางค์ ส่งสัมผัสแบบกลอนสังขลิก
ลักษณะครุ-ลหุ คือ ครุ-ครุ-ครุ-ครุ-ครุ-ลหุ-ลหุ-ลหุ-ลหุ-ลหุ-ครุ ครุ-ลหุ-ครุ-ครุ ลหุ-ครุ-ครุ
ตัวอย่างคำประพันธ์
เสวกพึงศึกษาณสุวสดิดอุด- | ||
ดมดิเรกดุจ | วิการกถา |
ฉันท์นี้ธีเรศอ้างกุสุมิตลดา | ||
เวลลิตานา | มกรขนาน | |
— (ประชุมจารึกวัดพระเชตุพนฯ) |
หนึ่งบทมี 19 พยางค์ แบ่งเป็น 3 วรรค วรรแรก 12 พยางค์ วรรคสอง 4 พยางค์ และวรรคสุดท้าย 3 พยางค์ ส่งสัมผัสแบบกลอนสังขลิก
ลักษณะครุ-ลหุ คือ ลหุ-ครุ-ครุ-ครุ-ครุ-ครุ-ลหุ-ลหุ-ลหุ-ลหุ-ลหุ-ครุ ครุ-ลหุ-ครุ-ครุ ลหุ-ครุ-ครุ
ตัวอย่างคำประพันธ์
ขบวรเลบงเพรงพากย์พร้องก็เพราะพจนกลอน | ||
เสนอกระวีวร | ทฤษฎี |
ลบองเมฆวิปผุชชาติตาสุวุฒิกลมี | ||
ฉันทคัมภีร์ | พฤโตทัย | |
— (ประชุมจารึกวัดพระเชตุพนฯ) |
สัททุลลวิกกีฬิตฉันท์ มีความหมาย "เสือผยอง" ใช้แต่งบทไหว้ครู บทโกรธ และบทยอพระเกียรติ
หนึ่งบทมี 19 พยางค์ แบ่งเป็น 3 วรรค วรรแรก 12 พยางค์ วรรคสอง 5 พยางค์ และวรรคสุดท้าย 2 พยางค์ ส่งสัมผัสแบบกลอนสังขลิก
ลักษณะครุ-ลหุ คือ ครุ-ครุ-ครุ-ลหุ-ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ลหุ-ลหุ-ลหุ-ครุ ครุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ครุ ลหุ-ครุ
ตัวอย่างคำประพันธ์
พร้อมเบญจางคประดิษฐ์สฤษติตษฎี | ||
กายจิตร์วจีไตร | ทวาร |
ไหว้คุณพระสุคตอนาวรณญาณ | ||
ยอดศาสดาจารย์ | มุนี |
อีกคุณสุนทรธรรมะคัมภิรวิธี | ||
พุทธ์พจน์ประชุมตรี | ปิฎก | |
— สามัคคีเภทคำฉันท์, ชิต บุรทัต |
อีทิสังฉันท์ 20 เป็นฉันท์ที่มีจังหวะกระแทกกระทั้น ฉะนั้นจึงใช้แต่งบรรยายความรัก ความวิตก และความโกรธ
หนึ่งบทมี 20 พยางค์ แบ่งเป็น 3 วรรค วรรแรก 9 พยางค์ วรรคสอง 8 พยางค์ และวรรคสุดท้าย 3 พยางค์ ส่งสัมผัสแบบกลอนสังขลิก
ลักษณะครุ-ลหุ คือ ครุ-ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ ลหุ-ครุ-ครุ
ตัวอย่างคำประพันธ์
อ้าอรุณแอร่มระเรื่อรุจี | ||
ประดุจมโนภิรมย์ระตี | ณ แรกรัก |
แสงอรุณวิโรจน์นภาประจักษ์ | ||
แฉล้มเฉลาและโศภินัก | ณ ฉันใด |
หญิงและชาย ณ ยามระตีอุทัย | ||
สว่าง ณ กลางกมลละไม | ก็ฉันนั้น | |
— มัทนะพาธา, พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว |
ฉันท์ที่มีลีลาวิจิตรประดุจสตรีเพศผู้ประดับด้วยพวงมาลัย
หนึ่งบทมี 21 พยางค์ แบ่งเป็น 4 วรรค วรรแรก 7 พยางค์ วรรคสอง 7 พยางค์ วรรคสาม 4 พยางค์ และวรรคสุดท้าย 3 พยางค์ ส่งสัมผัสแบบกลอนสังขลิก
ลักษณะครุ-ลหุ คือ
ครุ-ครุ-ครุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ครุ | ลหุ-ลหุ-ลหุ-ลหุ-ลหุ-ลหุ-ครุ | |
ครุ-ลหุ-ครุ-ครุ | ลหุ-ครุ-ครุ |
ตัวอย่างคำประพันธ์
อรรถแสดงแห่งเหตุพิเศษผล | นิกรวิธุรชน | |
เชิญประกอบกล | ประกาศสาร |
รังสรรค์ฉันทพากยโบราณ | บุนรจนวิถาร | |
สัทธราขนาน | ณนามกร | |
— (ประชุมจารึกวัดพระเชตุพนฯ) |
เมนูนำทาง
ฉันท์ ฉันท์วรรณพฤติใกล้เคียง
ฉันท์ ฉันท์ ขำวิไล ฉันทลักษณ์ (กวีนิพนธ์ไทย) ฉันทวิชช์ ธนะเสวี ฉันทนา กิติยพันธ์ ฉันทนา ธาราจันทร์ ฉันทามติแหล่งที่มา
WikiPedia: ฉันท์