ชินโต (
ญี่ปุ่น: 神道
โรมาจิ:
shintō) เป็น
ลัทธิตามความเชื่อเดิมของ
ชาวญี่ปุ่น คำว่า ชินโต มาจากตัว
อักษรจีน หรือ
คันจิ 2 ตัวรวมกัน คือ ชิน (
ญี่ปุ่น: 神
โรมาจิ:
shin, kami) หมายถึง
เทพเจ้า (
ภาษาจีน: 神,
พินอิน: shén, เสิน) และ โต (
ญี่ปุ่น: 道
โรมาจิ:
tō, do) หมายถึงวิถีทางหรือศาสตร์วิชา (
ภาษาจีน: 道,
พินอิน: dào, เต้า) หรือ
เต๋า ใน
ลัทธิเต๋านั่นเอง เมื่อรวมกันแล้ว จะหมายถึงศาสตร์แห่งเทพเจ้า หรือวิถีแห่งเทพเจ้า (
ญี่ปุ่น: かみのみち
โรมาจิ:
kami no michi) ชินโตของญี่ปุ่นมีตำนานความเชื่อว่า
เทพเจ้ามีมากมายนับไม่ถ้วน ทั้งในป่า บนภูเขา ทะเล แม่น้ำ ลำธาร ในสายลม แม้แต่ในบ้านเรือนและเรือกสวนไร่นาในธรรมชาติที่ที่มีความบริสุทธิ์ล้วนเป็นที่สถิตของเทพเจ้าได้ทั้งสิ้น จึงมีคำที่ว่า "เทพแปดล้านองค์" (
ญี่ปุ่น: 八百万神 (やおよろずのかみ)
โรมาจิ:
Yaoyorozu no Kami) เป็นการรวมคำเพื่อแสดงว่ามีทวยเทพอยู่มากมาย
[1]ปัจจุบันนี้ ลัทธิชินโตถือให้เป็นลัทธิความเชื่อพื้นเมืองประจำประเทศ
ญี่ปุ่น พิธีกรรมของลัทธิชินโตนี้มาจากวัฒนธรรมท้องถิ่นและธรรมเนียมปฏิบัติต่าง ๆ ในยุคก่อนประวัติศาสตร์ แต่ก็ไม่ได้ถือเป็นพิธีกรรมอย่างเป็นทางการ จนกระทั่ง
ศาสนาพุทธและ
ลัทธิขงจื๊อกับ
ลัทธิเต๋า รวมทั้งภายหลัง
ศาสนาคริสต์ ศาสนาอิสลาม ได้เริ่มให้เข้ามาใน
ประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่
ศตวรรษที่ 6 พิธีกรรมของลัทธิชินโตได้ถูกบันทึกและบัญญัติเป็นครั้งแรกในคัมภีร์
โคะจิคิ (
ญี่ปุ่น: 古事記
โรมาจิ:
Kojiki) และจดหมายเหตุ
นิฮงโชะกิ (
ญี่ปุ่น: 日本書紀
โรมาจิ:
Nihon Shoki) ใน
ศตวรรษที่ 8 เพื่อตอบโต้ศาสนาที่มีระดับความพัฒนามากกว่าจากแผ่นดินใหญ่ อย่างไรก็ตาม งานเขียนในยุคแรกๆก็ยังมิได้บ่งบอกว่าเป็น ลัทธิชินโต แต่งานเขียนในสมัยต่อมาก็ได้บ่งชี้อย่างชัดเจน พร้อมขนบธรรมเนียบของสังคมเกษตรกรรมและเทศกาลประจำปีเข้าไปด้วย รวมไปถึงความเชื่อเรื่องเทพปกรณัมและการกำเนิดโลกต่าง ๆ ซึ่งเล่าถึงต้นกำเนิดของชนชาติญี่ปุ่น ส่วนใหญ่จะหมายถึงเชื้อสาย
ยะมะโตะ (
ญี่ปุ่น: 大和民族
โรมาจิ:
Yamato-minzoku) และ
อิสึโมะ (
ญี่ปุ่น: 出雲
โรมาจิ:
Izumo) ในสมัยนั้น พุทธศาสนาได้แพร่จากจีนเข้าสู่ญี่ปุ่น และมีผสมผสานความเชื่อดั้งเดิม อย่างเช่น ความเชื่อเรื่องเทพเจ้าในลัทธิชินโตและความเชื่อเรื่อง
พระโพธิสัตว์ใน
ศาสนาพุทธในประเทศญี่ปุ่น เป็นต้นปัจจุบันนี้ ลัทธิชินโตถูกจัดให้เป็นลัทธิบูชาเทพเจ้าหลายองค์ หรือ
พหุเทวนิยม และลัทธิบูชาภูตผีวิญญาณ ที่เน้นความบริสุทธิ์ของพิธีกรรมเป็นอย่างมาก รวมถึงยกย่องเกียรติและความมีตัวตนของเทพเจ้า (
ญี่ปุ่น: 神
โรมาจิ:
kami) ซึ่งมีทั้งเทพเจ้าที่มีมาจากการยกบุคคลให้เป็นเทพ หรือการบูชาธรรมชาติ และเทพเจ้ายังสามารถมีลูกได้ด้วย ลัทธิชินโตเป็นลัทธิที่ให้ความสำคัญกับพิธีกรรมทางศาสนาเป็นอันดับหนึ่ง เนื่องจากเป็นวิธีที่จะทำให้ศาสนิกชนเข้าถึงและเป็นหนึ่งเดียวกับเทพเจ้าได้มากที่สุด ลัทธิชินโตยุคใหม่ไม่มีสถาบันที่ที่ยกตัวเป็นผู้ควบคุมส่วนกลาง มีเพียงแต่กลุ่มคนที่พยายามรักษาวิถีปฏิบัติของลัทธิชินโตมาตั้งแต่สมัยบรรพกาลจนถึงปัจจุบัน ภายหลังจาก
สงครามโลกครั้งที่สอง ชินโตได้ถูกยกเลิกจากการเป็นศาสนาประจำชาติ ซึ่งในปัจจุบันชินโตเริ่มลดหายไปจากวัฒนธรรมญี่ปุ่น โดยที่ยังเห็นได้ในปัจจุบันได้แก่
โอมิคุจิ (
ญี่ปุ่น: おみくじ
โรมาจิ:
Omikuji) (การดึงฉลากเสี่ยงโชคในศาลเจ้าชินโต) และการเฉลิมฉลอง
งานปีใหม่ญี่ปุ่น (
ญี่ปุ่น: 初詣
โรมาจิ:
Hatsumōde) ที่มีจัดขึ้นตามศาลเจ้าชินโต