ซูโจว (
จีนตัวเต็ม: 蘇州;
จีนตัวย่อ: 苏州; ออกเสียง สำเนียงซูโจว: [səu tsøʏ]; จีนกลาง: [sú.ʈʂóu]) เป็นเมืองสำคัญทางตะวันออกเฉียงใต้ของ
มณฑลเจียงซู ซึ่งอยู่ทางภาคตะวันออกของประเทศจีน อยู่ติดกับ
เขตการปกครองเทศบาลนครเซี่ยงไฮ้ ตั้งอยู่บริเวณพื้นที่ตอนปลายของ
แม่น้ำแยงซี ริมฝั่ง
ทะเลสาบไท่หรือไท่หู (
อังกฤษ: Lake Tai หรือ Tai Hu; จีนตัวย่อ: 太湖) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่
สามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซี เป็นเขตการปกครอง
นครระดับจังหวัดที่มีประชากรอาศัยอยู่มากกว่า 7 ล้านคนในเขตเมือง และมีประชากรรวมกว่า 10 ล้านคนในพื้นที่เขตปกครองทั้งหมด เมืองซูโจวยังถือได้ว่าเป็นเมืองที่ร่ำรวยที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศจีน
[6] เป็นศูนย์กลางด้านเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม ศูนย์กลางการค้า และการขนส่ง นอกจากนี้ซูโจวยังเป็นเมืองสำคัญด้านวัฒนธรรม การศึกษา ศิลปะ และการคมนาคมเมืองซูโจวเริ่มก่อตั้งขึ้นครั้งแรกเมื่อ 514 ปี ก่อนคริสตกาล มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 2,500 ปี ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ในสมัย
ราชวงศ์ฮั่นตะวันออก หรือเมื่อประมาณ 100 ปี ก่อนคริสตกาล เมืองซูโจวเป็นหนึ่งในสิบเมืองใหญ่ที่สุดในโลกเนื่องจากมีผู้คนอพยพเข้ามาอยู่จำนวนมาก
[7][8] และในศตวรรษที่ 10 สมัย
ราชวงศ์ซ่ง เมืองซูโจวเคยเป็นเมืองศูนย์กลางด้านพาณิชย์ที่สำคัญของประเทศ ต่อมาในสมัย
ราชวงศ์หมิง และ
ราชวงศ์ชิงจนถึงช่วง
กบฏไท่ผิง (
อังกฤษ: Taiping Rebellion) ในปี ค.ศ. 1860 เมืองซูโจวเป็นศูนย์กลางทั้งทางด้านเศรษฐกิจ วัฒนธรรม และพาณิชย์
[9] และเป็นเมืองที่ไม่ใช่เมืองหลวงที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของโลกในสมัยนั้นอีกด้วย
[10]ซูโจวเป็นเมืองประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมโดยมีชื่อเสียงไม่ว่าจะเป็นสายน้ำ ภูเขา และโดยเฉพาะสวนโบราณ ในสมัยราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิง ซูโจวเป็นหนึ่งในเมืองที่เจริญที่สุดในสมัยนั้น ในเมืองและนอกเมืองเต็มไปด้วยสวนโบราณ ในศตวรรษที่ 16-18 ซูโจวมีสวนโบราณมากกว่า 200 แห่ง ปัจจุบันมีสวนที่ได้รับการอนุรักษ์อย่างสมบูรณ์แล้วกว่า 10 แห่ง นอกจากนี้ ซูโจวยังมีคลองต่าง ๆ มากมายเป็นอันดับหนึ่งในบริเวณลุ่มแม่น้ำแยงซีเกียงใต้ เป็นเมืองที่มีความงดงามมากจนได้รับฉายาว่าเป็น “เมืองสวรรค์ในโลกมนุษย์”ด้วยความสวยงามทั้งทางธรรมชาติและสิ่งก่อสร้างโบราณ อาทิ ลำคลอง สะพานหินโบราณ
เจดีย์ และ
สวนจีนโบราณ เมืองซูโจวจึงเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมมากที่สุดในประเทศจีน เมื่อปี ค.ศ. 1997 และ 2000
สวนโบราณเมืองซูโจวยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น
มรดกโลก (World Heritage Sites) โดย
องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO)นอกจากนั้นเมืองซูโจวยังได้รับการขนานนามว่าเป็น "
เวนิสแห่งตะวันออก (Venice of the East)" หรือ "เมืองเวนิสของจีน (Venice of China)"
[11][12][13] ด้วยความที่ซูโจวมีลำคลองรายรอบเมืองอยู่เป็นจำนวนมาก และยังมีคลองที่ไหลผ่านตัวเมืองมากมายหลายสาย คลองเหล่านี้ต่อเชื่อมกันจนเป็นเครือข่าย โดยมีสะพานหินหลายร้อยแห่งที่ทอดข้ามลำคลองเหล่านี้สำหรับเมืองที่มีพื้นที่ร้อยละ 55 เป็นพื้นที่ราบ ร้อยละ 3 เป็นเนินเขา และ ร้อยละ 42 เป็นน้ำ การได้รับกล่าวนามว่า "เวนิสตะวันออก" จึงไม่เกินเลยไปนัก
[14]