สถานที่สำคัญ ของ ซูโจว

An old area on Pingjiang Road.Changmen at night.The Humble Administrator's Garden.An entrance to the Youyicun garden.Xuanmiao Temple in Suzhou.A canal in downtown Suzhou.

สวน

ดูบทความหลักที่: Classical Gardens of Suzhou

ซูโจวมีชื่อเสียงในด้านสวนคลาสสิกหรือสวนโบราณ หรือที่เรียกรวมๆ ในภาษาจีนแมนดารินว่า 苏州园林 (Sūzhōu yuánlín) โดยมีสวนจัวเจิ้ง (อังกฤษ: Humble Administrator's Garden; จีนตัวย่อ: 拙政园; พินอิน: Zhuōzhèng Yuán) และสวนหลิว (อังกฤษ: Lingering Garden; จีนตัวย่อ: 留园; พินอิน: Liúyuán) จัดเป็น 2 ใน 4 แห่งของสวนโบราณที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของประเทศจีน และยังมีศาลาชางลั่งถิงหรือพลับพลาเกลียวคลื่น (อังกฤษ: Great Wave Pavilion; จีนตัวย่อ: 沧浪亭; พินอิน: Cānglàng Tíng) สวนป่าสิงโต (อังกฤษ: Lion Grove Garden; จีนตัวย่อ: 狮子林; พินอิน: Shīzi Lín) สวนจัวเจิ้ง และสวนหลิว ซึ่งก่อสร้างในรูปแบบสมัยราชวงศ์ซ่ง ราชวงศ์หยวน ราชวงศ์หมิง และราชวงศ์ชิง ที่นับได้ว่าเป็นสวนที่มีชื่อเสียงที่สุด 4 แห่งในเมืองซูโจวนี้

สวนจัวเจิ้ง สสวนหลิววนหลิว สวนหว่างซือ (อังกฤษ: Master of Nets Garden; จีนตัวย่อ: 网师园; พินอิน: Wǎngshī Yuán) และเรือนหวนซิ่วซานซวง (อังกฤษ: The Mountain Villa with Embracing Beauty; จีนตัวย่อ: 环秀山庄; พินอิน: Huánxiù Shānzhuāng) ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ในปี ค.ศ. 1997 ต่อมาสวนป่าสิงโต ศาลาชางลั่งถิง สวนโอ่ว (อังกฤษ: Couple's Retreat Garden; จีนตัวย่อ: 藕园; พินอิน: Ǒu Yuán) สวนยี่ปู่ (อังกฤษ: Garden of Cultivation; จีนตัวย่อ: 艺圃; พินอิน: Yì Pǔ) และสวนทุ่ยซือ (อังกฤษ: The Retreat & Reflection Garden; จีนตัวย่อ: 退思园; พินอิน: Tuìsī Yuán) ก็ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ในปี ค.ศ. 2000 ด้วย

เขาหูชิว (อังกฤษ: Tiger Hill; จีนตัวย่อ: 虎丘; พินอิน: Hǔqiū) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงในด้านความสวยงามทางธรรมชาติและเป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์แห่งหนึ่ง นับว่าเป็นจุดชมวิวที่มีชื่อเสียงของเมืองซูโจว ชื่อเขาหูชิวหรือเขาเนินเสือนั้นมาจากลักษณะของเนินเขาที่คล้ายกับเสือในท่าหมอบเตรียมวิ่งหรือกระโจนไปข้างหน้า หรืออีกตำนานกล่าวว่ามีเสือขาวปรากฏตัวขึ้นบนเนินเขาแห่งนี้ไม่กี่วันหลังวันฝังพระศพของกษัตริย์เหอหลู๋แห่งแคว้นอู๋ (King Hélǘ of Wu; 阖闾) สวนแห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวมานานกว่าพันปี โดยมีหลักฐานเป็นบทกวีสลักที่หินบนเนินเขานี้ และยังมีบทกลอนของกวีที่มีชื่อเสียงในสมัยราชวงศ์ซ่ง ชื่อ ซูซื่อ (อังกฤษ: Sū Shì; จีนตัวย่อ: 苏轼) กล่างถึงเขาหูชิวไว้ว่า "It is a lifelong pity if having visited Suzhou you did not visit Tiger Hill." ซึ่งมีความหมายว่า "ช่างน่าเสียดายจริง หากครั้งหนึ่งในชีวิตได้มาเยื่อนซูโจว แต่ไม่ได้ชมความงานของเขาหูชิว" 

วัด

วัดหานซาน (อังกฤษ: Hanshan Temple หรือ Cold Mountain Temple; จีนตัวย่อ: 寒山寺) เป็นวัดและพระอารามในพุทธศาสนาที่มีชื่อเสียงในเมืองซูโจว อยู่ใกล้กับสะพานเฟิ่งเฉียวหรือสะพานเมเปิล (อังกฤษ: Fengqiao หรือ Maple Bridge; จีนตัวย่อ: 枫桥) ราว5 กิโลเมตร (3 ไมล์) ทางตะวันตกของเมืองเก่าซูโจว วัดหานซานมีชื่อเสียงมากในแถบเอเชียตะวันออกเนื่องจากมีบทกวีอันโด่งดังชื่อ "จอดเรือที่สะพานเมเปิล" (อังกฤษ: A Night Mooring near Maple Bridge; อักษรจีนตัวย่อ: 夜泊枫桥) เขียนโดยกวีผู้โด่งดังในสมัยราชวงศ์ถัง (ประมาณ 618-907 ปีก่อนคริสต์ศักราช) ชื่อ จางจี้ (อังกฤษ: Zhang Ji; จีนตัวย่อ: 张继) กล่าวถึงวัดหานซานแห่งนี้ไว้ในบทกวีของเขาว่า

月落乌啼霜满天

江枫渔火对愁眠

姑苏城外寒山寺

夜半钟声到客船

– คำแปล

ขณะมองพระจันทร์ยินเสียงนกการ้องระงม

เห็นแม่น้ำ ต้นไม้ และแสงตะเกียงจากเรือประมง

แว่วเสียงระฆังวัดหานซานนอกเมือง

ดังมาให้ฉันได้ยินถึงในเรือ

วัดซีหยวนหรือวัดสวนตะวันตก (อังกฤษ: Xiyuan Temple หรือ Monastery Garden; จีนตัวย่อ: 西园寺) สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์หยวน เป็นวัดพุทธที่ใหญ่ที่สุดในเมืองซูโจว มี 2 ส่วนหลักคือ วัดเจี้ยฉวงลวู่ (อังกฤษ: The Temple of Jiezhuanglu; จีนตัวย่อ: 戒幢律寺) และสวนตะวันตก (The West Garden) ตั้งอยู่ใกล้กับสวนสวนหลิวหลิว (Lingering Garden) ที่เดิมเคยเป็นบริเวณเดียวกันและถูกเรียกว่าเป็นสวนตะวันออก (the East Garden)

สฉวนเมี่ยวกวน (อังกฤษ: Xuanmiao Temple; จีนตัวย่อ: 玄妙观) สร้างขึ้นในราว 276 ปีก่อนคริสต์ศักราช เป็นวัดในนิกายเต๋าที่โดดเด่นและมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ตั้งอยู่ใจกลางเมืองซูโจว ด้านหน้าวัดมีถนนชื่อ กวนเฉียนจี (อังกฤษ: Guanqian Street; จีนตัวย่อ: 观前街) ซึ่งเป็นถนนคนเดินที่มีชื่อเสียงของเมืองด้วย

คลอง

เมืองซูโจวมีความโดดเด่นในด้านคลองซึ่งมีเป็นจำนวนมาก ในตัวเมืองยังคงมีถนนโบราณที่ใช้เป็นถนนท่องเที่ยวสำหรับชมคลองโบราณ สะพานหินเก่าแก่ และสถาปัตยกรรมของเมือง เช่น ถนนผิงเจียง (อังกฤษ: Pingjiang Street; จีนตัวย่อ: 平江路) อายุกว่า 800 ปี หรือถนนซานถัง (อังกฤษ: Shantang Street; จีนตัวย่อ: 山塘街) อายุกว่า 1,200 ปี จนถนนทั้งสองสายได้รับการกล่าวถึงว่าเป็น "ถนนสายประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม" ที่มีชื่อเสียงของประเทศจีนด้วย

Picture of the Land and Water Gate.

ถนนซานถัง มีความยาว 7 "ลี้ (li)" (ประมาณ 2 ไมล์ แม่แบบ:Convert/LoffAoutDoutput onlySoff) ถนนสายนี้เดิมในอดีตเคยถูกเรียกว่า ไป๋กงตี้ เมื่อไป๋จวีอี้ (อังกฤษ: Bai Juyi; จีนตัวย่อ: 白居易, 772–846) กวีที่มีชื่อเสียงในสมัยราชวงศ์ถังได้รีบการแต่งตั้งเป็นนายกเทศมนตรีของเมืองซูโจวในขณะนั้น เป็นผู้ควบคุมการขุดคลองและก่อสร้างถนนในบริเวณนี้ของเมืองขึ้นเพื่อเชื่อมต่อกับเขาหูชิว (Tiger Hill) และเรียกคลองและถนนที่สร้างขึ้นใหม่นี้โดยใช้ชื่อซานถัง คลองนี้เชื่อมโยงไปยังคลองขนาดใหญ่ที่ต่อไปยังเมืองปักกิ่งและเมืองหางโจว ส่วนถนนซานถังก็ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นจนกลายเป็นสถานที่ท่องที่ยวพักผ่อนที่มีชื่อเสียงในด้านประเพณีของชนกลุ่มชาติพันธุ์หลากหลาย ทั้งยังมีวัดโบราณด้วย จนกระทั่งพระนางซูสีไทเฮา (อังกฤษ: The Empress Dowager Cixi; จีนตัวย่อ: 慈禧太后, 1835–1908) แห่งราชวงศ์ชิงมีพระราชเสาวณีย์ให้สร้างถนนซูโจว (Suzhou Street) ขึ้นในพระราชวังอี๋เหอหยวน (Summer Palace) ในเมืองปักกิ่งโดยให้สร้างเลียนแบบจากถนนซานถังทั้งหมดเพื่อเป็นสถานที่พักผ่อนส่วนพระองค์ เมื่อเดือนมิถุนายน ปี ค.ศ. 2002 เมืองซูโจวได้เริ่มโครงการบูรณะถนนซานถังให้เป็นเขตอนุรักษ์ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม โดยโครงการในช่วงแรกได้เสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว[25]

ถนนผิงเจียง (อังกฤษ: Pingjiang Street; จีนตัวย่อ: 平江路) เป็นถนนที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 2,500 ปี อยู่ทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองเก่าซูโจว บนพื้นที่ 116.5 เฮกเตอร์ ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 2,500 ปี และยังเป็นสถานที่ที่ได้รับการอนุรักษ์อย่างสมบูรณ์ที่สุดในซูโจว ในอดีตอาณาบริเวณนี้มีที่พักของขุนนาง ข้าราชการ และปราชญ์จำนวนมากอาศัยอยู่ ทำให้มีแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นบ้านโบราณให้ได้ศึกษาถึงชีวิตความเป็นอยู่ของชาวซูโจวในสมัยนั้นได้เป็นอย่างดี The (Pingjiang Quarter) โดยบริเวณที่พักอาศัยโบราณของผิงเจียงนี้มีลักษณะการออกแบบสมัยราชวงศ์ซ่ง จึงเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของเมืองเก่าซูโจว

อื่นๆ

เขตท่องเที่ยวและพักผ่อนไท่หูแห่งเมืองซูโจว (อังกฤษ: Suzhou Taihu National Tourism and Vacation Zone ;จีนตัวย่อ: 苏州太湖国家旅游度假区) อยู่ทางตะวันตกของซูโจว ประมาณ 15 กิโลเมตร (9 ไมล์) จากตัวเมือง โดยทะเลสาบไท่ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีธรรมชาติสวยงามมาตั้งแต่ในอดีต

ประตูทิศตะวันออก (Gate to the East) เป็นสัญญลักษณ์ของเมือง ตั้งอยู่บริเวณเขตธุรกิจของเมืองซูโจว

ประตูผาน (อังกฤษ: Pan Gate หรือ Pan Men ; จีนตัวย่อ: 盘门) อยู่ทางมุมทิศตะวันตกเฉียงใต้ของคลองรอบเมืองซูโจว สร้างขึ้นในยุคจั้นกั๋ว อายุเก่าแก่กว่า 2,500 ปี เป็นหนึ่งในสามสถานที่สำคัญของจุดท่องเที่ยวบริเวณประตูผาน (three landmarks of Pan Gate Scenic Area) โดยสถานที่สำคัญอีกสองแห่งคือ เจดีย์รุ่ยกวง (อังกฤษ: Ruiguang Pagoda ;จีนตัวย่อ: 瑞光塔) เป็นเจดีย์ที่สร้างขึ้นแห่งแรกๆ ของเมืองซูโจว โดยสร้างขึ้นในราว 247 ปีก่อนคริสตกาล และอีกแห่งคือ สะพานประตูอู๋ (the Wu Gate Bridge) เป็นสะพานที่สูงที่สุดในเมืองซูโจวในสมัยโบราณ

View of Panmen Scenic Area and Ruiguang Pagoda.

สะพานเป๋าไต๊ (อังกฤษ: Baodai Bridge หรือ Precious Belt Bridge; จีนตัวย่อ: 宝带桥) เป็นสะพานข้ามทะเลสาบต้านไถ (Dantai Lake) ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองซูโจว สร้างขึ้นในปี 806 ก่อนคริสตกาลในสมัยราชวงศ์ถัง มีพื้นที่ทั้งหมด 53 เอเคอร์ ยาว 317 เมตร สร้างด้วยหินจากภูเขาจินซาน (อังกฤษ: Jin Shan หรือ Gold Moutain; จีนตัวย่อ: 金山) สะพานนี้ถูกเรียกอีกชื่อว่าสะพานเข็มขัดสูงค่า หรือ Precious Belt Bridge เนื่องจากในอดีตระหว่างที่มีการระดุมทุนเพื่อสร้างสะพานแห่งนี้ ขุนนางผู้ปกครองเมืองได้บริจาคเข็มขัดมูลค่าสูงเพื่อเป็นทุนสร้างสะพาน โดยสะพานแห่งนี้ได้รับการบันทึกให้เป็นอนุสรณ์สถานแห่งชาติ (national monuments, resolution 5-285) ในปี ค.ศ. 2001

เจดีย์หูชิว (อังกฤษ: Huqiu Tower; จีนตัวย่อ: 虎丘塔) หรือหยุนเหยียน (อังกฤษ: Yunyuan Pagoda; จีนตัวย่อ: 云岩寺塔) สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 961 สมัยราชวงศซ่ง ลักษณะเป็นเจดีย์จีนตั้งอยู่บนเขาหูชิวหรือเนินเสือในเมืองซูโจว เจดีย์แห่งนี้มีชื่อเรียกหลากหลาย รวมถึงชื่อ "หอเอนแห่งประเทศจีน (Leaning Tower of China)" (อ้างอิงโดยนักประวัติศาสตร์ O.G. Ingles)[26] เนื่องจากตัวเจดีย์เอนไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือเมื่อหลายพันปีที่แล้ว โดยศูนย์กลางด้านบนเอียงจากศูนย์กลางของฐานเจดีย์ 2.32 เมตร หรือประมาณ 3 องศา ตัวหอมีความสูง 47 เมตร (154 ฟุต) มีลักษณะเป็นรูปแปดเหลี่ยมและมีจำนวนชั้น 7 ชั้น สร้างโดยใช้อิฐสีน้ำเงิน มีน้ำหนักรวมทั้งสิ้นประมาณ 7,000,000 กก. (15,000,000 ปอนด์)[27]

เจดีย์เป่ยซีอหรือเจดีย์วัดเหนือ (อังกฤษ: Beisi Pagoda หรือ North Temple Pagoda; จีนตัวย่อ: 北寺塔) ตั้งอยู่ในบริเวณวัดเป่าเอิน (Bao’en Temple) ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่สร้างราวศตวรรษที่ 17 เดิมเจดีย์มีความสูงถึง 11 ชั้น แต่ถูกเพลิงไหม้ได้รับความเสียหาย จึงเหลือเพียง 9 ชั้นภายหลังจากการบูรณะใหม่ รูปแบบของเจดีย์เป็นสถาปัตยกรรมสมัยราชวงศ์หมิงโดยโครงสร้างทำจากไม้และอิฐ เป็นเจดีย์ทรงแปดเหลี่ยม มีเก้าชั้น สูง 76 เมตร (243 ฟุต) โดยเป็นเจดีย์สูงที่สุดในซูโจวและทางตอนใต้ของแม่นำแยงซี

เจดีย์แฝด (อังกฤษ: Twin Pagodas;จีนตัวย่อ: 苏州双塔) เป็นเจดีย์สององค์ต้งอยู่บนถนนติ้งฮุ่ยซี่อ (อังกฤษ: Dinghui Temple Lane; จีนตัวย่อ: 定慧寺巷) ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองซูโจว สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 982 ในสมัยราชวงศ์ซ่ง โดยพี่น้องหวัง (Wang brothers) [28] เจดีย์องค์หนึ่งเรียกว่า "Clarity-Dispensing Pagoda" และอีกองค์เรียกว่า "Beneficence Pagoda" มีความสูง 33.3 และ 33.7 เมตร เป็นรูปทรงแปดเหลี่ยม 7 ชั้น โดยเจดีย์ทั้งสององค์มีรูปร่างลักษณะที่เหมือนกัน ลักษณะโดดเด่นของเจดีย์ทั้งสองคือมียอดเป็นแท่งโลหะตันแหลมสูงเกือบ 1 ใน 4 ของความสูงขององค์เจดีย์อยู่ที่ส่วนบนสุดขององค์เจดีย์

พิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียง เช่น พิพิธภัณฑ์ซูโจว (สร้างขึ้นใหม่โดยเป้ยยู้หมิง (I. M. Pei)) พิพิธภัณฑ์ผ้าไหมซูโจว และพิพิธภัณฑ์อุปรากรซูโจว (Suzhou Museum of Opera and Theatre)

แม่แบบ:Classical Gardens of Suzhou

แหล่งที่มา

WikiPedia: ซูโจว http://rightsite.asia/en/industrial-zone/suzhou-hi... http://rightsite.asia/en/industrial-zone/suzhou-in... http://books.google.com.au/books?id=Q_BIEPeKHgAC http://district.ce.cn/newarea/sddy/201909/12/t2019... http://investinchina.chinadaily.com.cn/a/201901/17... http://www.chinadaily.com.cn/english/doc/2004-01/0... http://js.people.com.cn/city_info.php?type=data&ci... http://news.sina.com.cn/c/2013-01-13/061926022116.... http://www.suzhou.gov.cn/ http://www.suzhou.gov.cn/asite/asp/gzjd/show.asp?i...