อาคารภายในทำเนียบรัฐบาล ของ ทำเนียบรัฐบาลไทย

ตึกไทยคู่ฟ้า

ชื่อไทยคู่ฟ้านี้ ตั้งขึ้นใหม่ในสมัยที่ จอมพล ป.เป็นนายกรัฐมนตรี เดิมชื่อ ตึกไกรสร ตั้งมาจากพระนามเดิมของ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าไกรสร กรมหลวงรักษ์รณเรศ ต้นราชสกุล พึ่งบุญ ณ อยุธยา เป็นอาคารสูงสองชั้น สถาปัตยกรรมเป็นแบบฟื้นฟูกอทิกแบบเวเนเชียน (Neo Venetain Gothic) ที่มีศิลปะของไบเซนไทน์ผสม ผนังนกเจาะช่องโค้งปลายแหลมทรงสูง ประดับลวดลายปูนปั้น บางส่วนเขียนสีแบบปูนแห้ง (Fresco Secco) มีบันไดขึ้นด้านหน้า สู่ห้องโถงกลาง โดยบนระเบียงด้านหน้าหลังคา ชั้นดาดฟ้าตึก ซึ่งเป็นจุดเด่น หากมองจากหน้าตึก เป็นแท่นประดิษฐานรูปปั้นพระพรหม 4 พระพักตร์ 4 พระกร หน้าตักกว้าง 24 นิ้ว มีกำแพงคลาสสิกบังฐานด้านหน้า อัญเชิญขึ้นประดิษฐาน เมื่อวันที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2507

ภายในมีห้องต่าง ๆ ที่สวยงาม อีกทั้งตั้งชื่อไว้อย่างไพเราะ ประกอบด้วย

  • ห้องโดมทอง - ตั้งอยู่ชั้นล่างของหอคอยทางทิศใต้ เป็นห้องพักแขกของนายกรัฐมนตรี
  • ห้องสีงาช้าง - ตั้งอยู่ชั้นล่างด้านหน้าทางขวามือของห้องโดมทอง เป็นห้องรับรองแขกของนายกรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการ
  • ห้องสีม่วง - ตั้งอยู่ชั้นล่างทางขวามือของตึก เป็นห้องรับรองแขกของรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
  • ห้องสีเขียว - ตั้งอยู่ชั้นล่างถัดจากห้องสีม่วงทางทิศตะวันตก เป็นห้องประชุมคณะกรรมการต่าง ๆ ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน
  • ชั้นบน - ประกอบด้วยห้องทำงานของนายกรัฐมนตรี ห้องทำงานข้าราชการการเมือง และห้องที่เคยใช้สำหรับประชุมคณะรัฐมนตรีแต่เดิม

ตึกนารีสโมสร

ชื่อนารีสโมสรนี้ ตั้งขึ้นใหม่ในสมัยที่ จอมพล ป.เป็นนายกรัฐมนตรี เนื่องจาก ท่านผู้หญิงละเอียด พิบูลสงคราม ใช้เป็นสถานที่จัดกิจกรรม เดิมชื่อ ตึกพระขรรค์ มีที่มาจาก เจ้าพระยารามราฆพ เป็นมหาดเล็กผู้เชิญพระแสงขรรค์ชัยศรี หนึ่งในเครื่องเบญจราชกกุธภัณฑ์ ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก รัชกาลที่ 6 ต่อมา ในสมัย จอมพลสฤษดิ์ และ จอมพลถนอม ได้เปลี่ยนชื่อเป็น ตึกบริหาร นอกจากนี้ รัฐบาลยังใช้เป็นสถานที่แถลงข่าวมาหลายสมัย ปัจจุบันเป็นที่ทำการสำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และศูนย์แถลงข่าวรัฐบาล

ตึกสันติไมตรี

เป็นอาคารรูปสี่เหลี่ยมสองหลังคู่กัน ล้อมรอบสนามหญ้า และสระน้ำพุ ตรงกลางอาคารเปิดโล่ง มีระเบียงรอบ สามารถเดินถึงกันได้ โดยมีรูปแบบสถาปัตยกรรมและการตกแต่ง ทั้งภายนอกภายในอาคาร เช่นเดียวกับตึกไทยคู่ฟ้า

  • ตึกสันติไมตรีหลังนอก - สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2497 ในสมัยที่ จอมพล ป.เป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อใช้เป็นสถานที่จัดเลี้ยง และรับรองแขกจำนวนมาก รวมทั้งประชุมสัมมนาของหน่วยราชการ ประกอบด้วย ห้องรับรองใหญ่ ห้องรับรองเล็ก ห้องพักรอของนักแสดง/นักดนตรี และห้องควบคุมแสงเสียงหลังเวที อาคารหลังนี้ออกแบบโดย หม่อมหลวงปุ่ม มาลากุล
  • ตึกสันติไมตรีหลังใน - สร้างขึ้นสมัยจอมพลถนอม เป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อใช้ในกิจการเช่นเดียวกับหลังนอก เนื่องจากพื้นที่ไม่เพียงพอต่อการจัดงานใหญ่ ประกอบด้วย ห้องโถงใหญ่ และห้องสีฟ้า ซึ่งเป็นห้องพักรับรองแขกของรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อาคารหลังนี้ออกแบบโดย พันเอก จิระ ศิลปกนก

ตึกบัญชาการหลังเก่า

เดิมเป็นที่ตั้งของ เรือนพลอยนพเก้า และ เรือนพราน ซึ่งใช้เป็นที่พักอาศัยสำหรับแขกของเจ้าพระยารามราฆพ โดยชื่อเรือนพรานนั้น มีที่มาจากเจ้าพระยารามราฆพเคยเป็นเสือป่าพรานหลวง ส่วนเรือนพลอยนพเก้า มีทั้งหมด 9 ห้อง แต่ละห้อง ตั้งชื่อตามอัญมณี 9 สี ซึ่งเคยใช้เป็นสำนักงานสภาวัฒนธรรมแห่งชาติ ต่อมา ในสมัยที่ จอมพลสฤษดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ได้สั่งให้รื้อถอนเรือนทั้งสอง เพื่อสร้างอาคารคอนกรีต สูง 5 ชั้น เข้ามุมตามแนวกำแพง เพื่อรักษารูปแบบเดิมของเรือนพลอยนพเก้า ที่เป็นเรือนไม้ซึ่งสร้างโค้งตามมุมกำแพง เนื่องจากเห็นว่า เรือนพลอยนพเก้า ไม่เหมาะกับการเป็นสถานที่ราชการ รวมไปถึงการมีหน่วยงานราชการสำคัญเพิ่มขึ้นโดยลำดับ จึงจำเป็นต้องสร้างอาคารหลังใหม่ เพื่อให้มีพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น ตั้งชื่อว่า ตึกบัญชาการ เนื่องจากนายกรัฐมนตรีใช้เป็นสถานที่ในการบังคับบัญชาการทำงาน นอกจากนี้ ยังเคยเป็นที่ตั้งสำนักทำเนียบนายกรัฐมนตรี (สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี) และสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ปัจจุบันเป็นที่ตั้ง ห้องทำงานรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และสำนักงานหน่วยงาน สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี และห้องประชุมเล็ก

ตึกบัญชาการหลังใหม่

เดิมเป็นที่ตั้งของ ตึกสารทูล (ตึกขวาง) ตึกพึ่งบุญ ตึกบุญญาศรัย และ ตึกเย็น ซึ่งเป็นบ้านพักของครอบครัวเจ้าพระยารามราฆพ ต่อมา รัฐบาลได้ใช้กลุ่มตึกนี้เป็นที่ทำการของสำนักนายกรัฐมนตรี อีกทั้งเป็นบ้านพักประจำตำแหน่งนายกรัฐมนตรีพร้อมครอบครัวด้วย ต่อมา เปลี่ยนชื่อเป็น ตึก 24 มิถุนายน เพื่อรำลึกถึงวันปฏิวัติสยาม ต่อมาในวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2512 จึงเริ่มก่อสร้างอาคารคอนกรีต สูง 5 ชั้น เนื่องจากตึกเดิมมีความคับแคบ ประโยชน์ใช้สอยมีน้อย ไม่เพียงพอกับงานราชการที่ขยายตัวขึ้น เมื่อสร้างเสร็จ จึงได้ย้ายห้องทำงานนายกรัฐมนตรีมาที่ตึกหลังนี้ ปัจจุบันเป็นที่ตั้ง ห้องทำงานรองนายกรัฐมนตรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สำนักงานหน่วยงาน สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี และห้องประชุมเล็ก

ตึกสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีหลังเก่า

เดิมเป็นที่ตั้งของ บ้านพักเจ้าพระยารามราฆพ ที่ทำการ และบ้านพักนายราชจำนงค์ ผู้ดูแลผลประโยชน์บ้านนรสิงห์ เป็นเรือนไม้สองชั้น ซึ่งมีอยู่จนถึงปี พ.ศ. 2484 ต่อมาในปี พ.ศ. 2493 รัฐบาลได้สร้างตึกสองชั้น หลังคามุงกระเบื้องแบบสากลนิยมขึ้น เพื่อเป็นที่ทำการสำนักนายกรัฐมนตรี ต่อมาเคยเป็น ที่ทำการทบวงคณะรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง และกรมตรวจราชการแผ่นดิน ปัจจุบันเป็นอาคารที่ทำการ สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี

ตึกพัฒนา

เดิมเป็นที่ตั้งของ ตึกใจจอด ซึ่งเป็นตึกครึ่งไม้ สูงสองชั้น เป็นบ้านพักอาศัยของญาติ หรือผู้ใกล้ชิดกับเจ้าพระยารามราฆพ ต่อมากลายเป็นบ้านพักพลตำรวจเอก เผ่า ศรียานนท์ อดีตอธิบดีกรมตำรวจ ถัดไปคือ ตึกทะเล เป็นบ้านพักอาศัยของญาติสนิทเจ้าพระยารามราฆพ ต่อมากลายเป็นบ้านพัก และที่ทำการเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ต่อมาในปี พ.ศ. 2500 รัฐบาลไทยสร้างอาคารสูง 3 ชั้น ด้วยทุนขององค์การสนธิสัญญาป้องกันภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ซีอาโต้; SEATO) เพื่อใช้เป็นสถานที่ประชุมของซีอาโต้ และเป็นที่ตั้งของสำนักงานซีอาโต้ในประเทศไทย จนเมื่อซีอาโต้ย้ายออกไปแล้ว จึงใช้เป็นที่ทำการของ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี มาจนปัจจุบัน

  • ตึกหกชั้น - เป็นอาคารต่อเนื่องของตึกพัฒนา สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2511 เพื่อเป็นที่ทำการสำนักงบประมาณ ต่อมาในปี พ.ศ. 2530 สำนักงบประมาณได้ย้ายออกไป จึงกลายเป็นที่ทำการ หน่วยงานในสังกัดสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี จนถึงปัจจุบัน

ตึกสื่อมวลชน

สถานที่ทำงานของสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาล เรียกกันว่า "รังนกกระจอก" ปัจจุบันมี 3 แห่ง คือ

  • ตึกสื่อมวลชน หลังที่ 1 (ชื่อเรียก: รังฯ เก่า) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของตึกไทยคู่ฟ้า เป็นตึกทรงแปดเหลี่ยม หลังคามุงกระเบื้อง เป็นสถานที่ทำงานของผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์ฟรีทีวี และสถานีวิทยุ
  • ตึกสื่อมวลชน หลังที่ 2 (ชื่อเรียก: รังฯ ใหม่) ตั้งอยู่ในพื้นที่ติดกับทางเข้าประตู 1 ภายในรั้วทำเนียบรัฐบาล และโรงเก็บรถประจำตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และรองนายกรัฐมนตรี เป็นตึกทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า หลังคามุงกระเบื้อง ต่อเนื่องกับรังฯ สาม เป็นสถานที่ทำงานของผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ ผู้สื่อข่าวอาวุโส และที่พักผ่อนของช่างภาพนิ่ง กับช่างภาพโทรทัศน์
  • ตึกสื่อมวลชน หลังที่ 3 (ชื่อเรียก: รังฯ สาม) ตั้งอยู่ถัดจากรังฯ ใหม่ ต่อเนื่องกับโรงเก็บรถ เป็นสถานที่ทำงานของผู้สื่อข่าวหน้าใหม่ ผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์ดาวเทียม รวมถึงผู้สื่อข่าวออนไลน์และ นักข่าวดิจิตอล

ตึกภักดีบดินทร์

เดิมเป็นสนามหญ้า อยู่บริเวณด้านหลังตึกไทยคู่ฟ้า ต่อมาปี พ.ศ. 2557 คณะรักษาความสงบแห่งชาติ โดย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ดำหริให้สร้างอาคารเรือนรับรอง หลังตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อใช้จัดประชุม และต้อนรับแขกของรัฐบาล โดยสร้างเป็นอาคารอเนกประสงค์คอนกรีต เสริมเหล็กชั้นเดียว หลังคาทรงผสมทรงปั้นหยา หลังคากระเบื้องซีเมนต์สังเคราะห์สีแดงกับทรงโดมประทับโมเสสสีทองมีความสูงจากพื้นถึงยอดโดม 16.61 เมตร กรมยุทธโยธาทหารบกเป็นผู้ดำเนินการออกแบบและก่อสร้างตัวอาคารเป็นแบบศิลปะกอทิก โดยกรมศิลปากรเป็นผู้พิจารณารูปแบบอาคารและอนุญาตให้ดำเนินการก่อสร้างบนพื้นที่ของทำเนียบรัฐบาล เมื่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ตั้งชื่อเป็นทางการ ว่า "ตึกภักดีบดินทร์" มีความหมายว่า ภักดีต่อพระเจ้าแผ่นดิน อาคารหลังนี้ ก่อสร้างด้วยงบประมาณ 137 ล้านบาท ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 1 ปี [2]

อาคารมีพื้นที่ใช้สอย 1,385 ตารางเมตร แบ่งเป็น 3 ห้อง โดยชื่อห้องทั้งหมด พลเอกประยุทธ์ เป็นผู้ตั้งชื่อห้องเอง[3]

  • ห้องโถงใหญ่ เป็นห้องรับรองสำหรับจำนวนไม่เกิน 150 คน ใช้สำหรับจัดประชุม งานเลี้ยงรับรอง และกิจกรรมอื่นๆ[3][2]
  • ห้องทองธารา เป็นห้องรับรองสำหรับจำนวนไม่เกิน 10 คน ภายใต้โดมสีทอง ตกแต่งภายในด้วยสีทอง ใช้สำหรับรับรองแขกของรัฐบาล [3]
  • ห้องวนาสิริ เป็นห้องรับรองขนาดเล็กสำหรับจำนวนไม่เกิน 8 คน ตกแต่งด้วยโทนสีฟ้าชมพู [3]

ใกล้เคียง

ทำเนียบรัฐบาลไทย ทำเนียบขาว ทำเนียบกำลังรบในยุทธการที่เดียนเบียนฟู ทำเนียบหัวเมือง ทำเนียบนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ทำเนียบท่าช้าง ทำเนียบเซนต์แอนดรูส์ ทำเนียบองคมนตรี ทำเนียบผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ทำเนียบนายกรัฐมนตรีไรช์

แหล่งที่มา

WikiPedia: ทำเนียบรัฐบาลไทย http://maps.google.com/maps?ll=13.763036,100.51207... http://maps.google.com/maps?t=k&q=Thailand&ll=13.7... http://www.multimap.com/map/browse.cgi?lat=13.7630... http://www.terraserver.com/imagery/image_gx.asp?cp... http://www.globalguide.org?lat=13.763036&long=100.... http://www.wikimapia.org/maps?ll=13.763036,100.512... //tools.wmflabs.org/geohack/geohack.php?pagename=%... http://www.matichon.co.th/youth/youth.php?tagsub=0... http://www.cabinet.thaigov.go.th/bb_main61.htm http://www.thaigov.go.th