นกกระเรียนในวัฒนธรรม ของ นกกระเรียนไทย

The Floating Feather : วาดโดยแม็ลคียอร์ โดนเดอกุเตอร์ (Melchior d'Hondecoeter) (ราวปี ค.ศ. 1680) นกในโรงเลี้ยงสัตว์ของสมเด็จพระเจ้าวิลเลียมที่ 3 แห่งอังกฤษที่พระราชวังแฮ็ตโล (Het Loo Palace) มีนกกระเรียนไทยอยู่ในฉากหลัง

นกกระเรียนไทยเป็นที่เคารพในประเทศอินเดียและมีตำนานที่ว่ามหาฤๅษีวาลมีกิ (Valmiki) ได้สาปแช่งผู้ที่ฆ่านกกระเรียนและได้แรงบันดาลใจจากนกกระเรียนในการเขียนมหากาพย์รามายณะ[74][75] นกกระเรียนยังเป็นคู่แข่งของนกยูงอินเดียในการคัดเลือกนกที่จะเป็นนกประจำชาติอินเดีย[76] ในชนเผ่าโคนที (Gondi) ซึ่งสักการะพระเจ้า 5 พระองค์ถือว่านกกระเรียนเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์[77] เนื้อนกกระเรียนถือว่าเป็นอาหารต้องห้ามในคัมภีร์ฮินดูโบราณ[78] เป็นที่เชื่อกันอย่างกว้างขวางว่านกกระเรียนจะมีคู่เพียงตัวเดียวตลอดชีวิต ถ้าเกิดตัวใดตัวหนึ่งตายลง อีกตัวหนึ่งจะตรอมใจตายตาม นกกระเรียนเป็นสัญลักษณ์คุณงามความดีศีลธรรมในชีวิตแต่งงานและในรัฐคุชราตมีประเพณีให้คู่แต่งงานใหม่ดูคู่นกกระเรียนเป็นตัวอย่าง[79] ในที่ราบน้ำท่วมขังของแม่น้ำคงคา ได้มีการสังเกตการทางชีววิทยาของนกกระเรียนโดยจักรพรรดิโมกุล จาฮันกีร์ (Jahangir) ประมาณช่วงปี ค.ศ. 1607 เขาบันทึกว่านกกระเรียนวางไข่สองใบห่างกัน 48 ชั่วโมงและใช้เวลาฟัก 34 วัน[6]

ภาพวาดโดยโยฮันน์ มิชาเอล เซลิจมันน์ (Johann Michael Seligmann) ตีพิมพ์ในช่วงปี ค.ศ. 1749-1776 ในงานของจอร์จ เอ็ดเวิดส์ (George Edwards)

แม้ว่านกจะเป็นที่เคารพและได้รับการปกป้องจากชาวอินเดีย แต่นกกระเรียนยังคงถูกล่าในช่วงที่อินเดียเป็นอาณานิคม มีบันทึกว่าการฆ่านกจะทำให้คู่ของมันแผดเสียงไปหลายวัน และเชื่อกันว่าหลังจากนั้นมันจะตรอมใจตายตามคู่ไป แม้แต่ในคู่มือการล่านกเพื่อการกีฬายังไม่เห็นด้วยที่จะยิงนกชนิดนี้[80] ตามที่นักสัตววิทยาชาวอังกฤษในคริสต์ศตวรรษที่ 19 ทอมัส ซี. เจอร์ดอน (Thomas C. Jerdon) กล่าวไว้ว่า นกวัยอ่อนกินอร่อย ขณะที่นกโตเต็มที่ "ไร้ค่าที่จะวางบนโต๊ะ"[81] ไข่ของนกกระเรียนไทยใช้ในการรักษาแบบพื้นบ้านในบางส่วนของประเทศอินเดีย[79][82]

ในสมัยก่อน บ่อยครั้งที่นกวัยอ่อนจะโดนจับและนำไปเลี้ยงไว้ในโรงเลี้ยงสัตว์ทั้งในประเทศอินเดียและทวีปยุโรป มีการขยายพันธุ์สำเร็จในกรงเลี้ยงในช่วงตอนต้นของคริสต์ทศวรรษ 1600 โดยจักรพรรดิจาฮันกีร์[83] และในยุโรปและในสหรัฐอเมริกาในตอนต้นของคริสต์ทศวรรษ 1930[84][36]

... นกวัยอ่อนเลี้ยงง่ายด้วยการป้อนอาหารด้วยมือ นกจะเชื่องและติดคนป้อนอาหารมากโดยเดินตามอย่างกับสุนัข มันเป็นนกที่ตลกมากด้วยท่าเต้นที่พิสดารและแสดงท่าทางน่าตลกขบขัน ซึ่งคุ้มค่าที่จะเลี้ยงไว้ นกกระเรียนตัวหนึ่งที่ฉันเลี้ยง เมื่อให้ขนมปังกับนมแก่มัน มันจะนำขนมปังออกจากนมและล้างในอ่างน้ำของมันก่อนจะกินเข้าไป นกตัวนี้นำมาจากพระราชวังที่ลัคเนา (Lucknow) ซึ่งมันจะดุร้ายกับคนแปลกหน้าและสุนัขมาก โดยเฉพาะถ้าพวกเขามีท่าทีกลัวมัน มันส่งเสียงดังหนวกหูมากซึ่งเป็นข้อเสียเพียงข้อเดียวของมัน

– Irby, 1861[85]

เครื่องบินใบพัด 14 ที่นั่งของอินเดียได้รับการตั้งชื่อตามนกกระเรียนนี้ว่า Saras[86][87]

ในประเทศไทย เรื่องของนกกระเรียนปรากฏอยู่ใน "เล่าเรื่องกรุงสยาม" ของสังฆราชปาเลอกัวซ์ และ "ลานนกกระเรียน " ของสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ นอกจากนั้นยังปรากฏอยู่ในกาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดงของเจ้าฟ้าธรรมาธิเบศร์ดังนี้[44]

นกกระเรียนเวียนว่ายน้ำเลงแล
ลงย่องร้องแกร๋แกร๋แจ่มจ้า
ริมทุ่งกระทุงลอยแพลงล่อง
บินกลาดกลุ้มท้องฟ้าร่อนร้องเหลือหลาย

แหล่งที่มา

WikiPedia: นกกระเรียนไทย http://www.business-standard.com/india/news/after-... http://www.sarakadee.com/web/modules.php?name=Sect... http://dsal.uchicago.edu/dictionaries/hobsonjobson... http://www.umsl.edu/~ricklefsr/Reprints/R2000.pdf http://digitalcommons.unl.edu/bioscicranes/26/ http://digitalcommons.unl.edu/bioscicranes/4/ http://elibrary.unm.edu/sora/Auk/v064n04/p0602-p06... http://elibrary.unm.edu/sora/Auk/v103n01/p0125-p01... http://elibrary.unm.edu/sora/Auk/v113n03/p0655-p06... //www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/15142765