นางตานี
นางตานี

นางตานี

นางตานี เป็นผีผู้หญิง เช่นเดียวกับนางตะเคียน นางตานีจะสิงสถิตย์อยู่ในต้นกล้วยตานี อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ต้นกล้วยตานีทุกต้นจะมีพรายตานีสิงสถิตย์อยู่ลักษณะของพรายตานีโดยทั่วไปจะเป็นหญิงงาม นุ่งห่มตามแบบสตรีไทยโบราณ สไบสีตองอ่อน ผ้านุ่งโจงสีตองแก่ กลิ่นกายหอมดอกกล้วยเรื่องการเรียกพรายตานีนี้มีหลายตำนาน บ้างก็ว่าให้ชายที่ต้องการเรียกพรายตานีมาปัสสาวะรดโคนต้นกล้วยที่กำลังออกปลีใหม่ ๆ บ้างก็ว่าให้เอาของลับถูกับโคนต้นกล้วยเจริญ อินทรเกษตร อธิบายไว้ในสารานุกรมไทยฉบับราชบัณฑิตยสถาน เล่ม ๑๓ ว่า ต้นกล้วยตานี เป็นที่สิงสถิตของ พรายนางตานี เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่คนรุ่นเก่า พรายนางตานีนี้ว่ากันว่า มีหน้าตาสวย มีกลิ่นตัวหอม ไว้ผมยาว ฝ่ามือฝ่าเท้าแดงอ่อนดุจตีนนกพิราบ ริมฝีปากมีสีเหมือนตำลึงสุก ถ้ากล้วยตานีมีลำต้นอวบ พรายนางตานีก็มีรูปทรงท้วม ถ้ามีลำต้นโปร่งเปลา พรายนางตานีก็มีรูปทรงฉลวย โดยเหตุที่พรายนางตานีเป็นผี ชาวบ้านจึงไม่กล้าปลูกกล้วยตานีไว้ใกล้เรือน แม้จะปลูกไว้ใกล้เรือน ถ้าจะตัดเอาใบตองไปใช้ ก็ห้ามไม่ให้ตัดเอาไปทั้งใบ ต้องเจียนเอามาแต่ใบตองเท่านั้น หรือไม่ก็ต้องหักก้านเสียก่อน เพราะถ้าตัดเอาเข้ามาในเรือนทั้งใบ ถือเป็นลางร้ายว่าจะมีใครในบ้านนั้นตายลงในไม่ช้า ทั้งนี้เห็นจะเนื่องจากคติเดิมที่ใช้ใบตองกล้วยตานีสามใบรองก้นโลงศพ กล้วยตานีนี้ถ้าคราวออกปลี จะมีพิธีพลีพรายนางตานี เครื่องพลีมีหัวหมูบายศรี สำรับคาวหวาน ของหวานก็มีขนมต้มแดงต้มขาว นอกจากนี้ยังมีข้าวตอกดอกไม้ธูปเทียน น้ำหอมและเครื่องหอม มีแป้งกระแจะจันทน์ เป็นต้น เอาแหวนและสร้อยทองคำไปคล้องที่งวงปลีกล้วยเป็นเครื่องประดับ และนำผ้าผืนหนึ่งจะเป็นสีแดงหรือสีอะไรก็ได้ ไปพันรอบต้นกล้วยตานี เป็นต่างว่าได้นุ่งห่มให้แก่พรายนางตานี ขอให้คุ้มครองรักษาคนในบ้าน และให้มีลาภ บางทีมักนิยมนิมนต์พระสงฆ์ไปสวดมนต์ทำบุญด้วย บางทีหมอที่ทำพิธี เมื่อเซ่นวักแล้ว นำดอกในปลีกล้วยตานีไปตากแดดให้แห้งแล้วบดให้เป็นผงผสมกับผงอิธเจ คือผงของดินสอขาวที่ลงยันต์ซึ่งเขียนเกี่ยวกับเรื่องนี้ สำหรับใช้ในทางให้เกิดเสน่ห์ เป็นเมตตามหานิยม บางทีก็เอาดอกในปลีกล้วยตานีไปใส่ไว้ในตลับสีผึ้งสีปากซึ่งปลุกเสกแล้ว ใช้สำหรับสีปากเพื่อให้เกิดเสน่ห์เป็นเมตตามหานิยมเช่นเดียวกัน เมื่อใช้สีผึ้งนี้สีปากแล้ว แย้มปากพูดออกมาก็มีเสน่ห์ กระทำให้ผู้ใหญ่มีเมตตา ถ้าเป็นผู้หญิงสาวก็ทำให้เกิดความรักขึ้นมาได้ทันที ในทางตรงกันข้าม ถ้าผู้หญิงทาสีผึ้งนี้แล้ว เมื่อแย้มปากพูดออกมา ผู้ชายก็จะเกิดความรักขึ้นในทันทีเช่นเดียวกัน ถ้ากล้วยตานีที่ทำพิธีเซ่นวักแล้วออกปลีกลางต้น ก็ถือกันว่ากล้วยตานีนั้นเกิดมีพรายนางตานีขึ้นแล้ว กล้วยตานีที่ออกปลีกลางต้นนี้ พวกชายหนุ่มที่ยังเป็นโสดอยู่ ถ้าเป็นผู้รู้เรื่องเกี่ยวกับพรายนางตานี ก็จะไปทำพิธีเซ่นวัก เป็นทำนองเดียวกับที่กล่าวมาแล้วข้างต้น แล้วไปที่ต้นกล้วยตานีนั้นในเวลากลางคืนทุกคืน สุดแต่โอกาสจะอำนวยให้ พอไปถึงก็กล่าวคำเกี้ยวประเล้าประโลมพรายนางตานี ต้องตั้งความเพียรไปเกี้ยว จนกว่าพรายนางตานีจะใจอ่อนเห็นอกเห็นใจ แล้วเอามีดเฉือนตอนโคนกล้วยที่มีลักษณะเป็นเหมือนเหง้า เอามาก้อนหนึ่งแกะสลักเป็นรูปผู้หญิงใส่ตลับหรือภาชนะอื่นไว้ และต้องเซ่นวักทุกเช้าเย็น ทำอย่างนี้อยู่หลาย ๆ วัน พรายนางตานีก็จะมาปรากฏร่างให้เห็นในความฝัน เป็นผู้หญิงสาวรูปร่างหน้าตาสวยสดงดงาม สมดั่งใจที่เคยนึกเคยพะวงเป็นจินตนาการมาก่อน แล้วนางจะยอมตนเป็นเมียผู้นั้น อันเป็นความฝันอีกเหมือนกัน เมื่อได้นางพรายตานีเป็นเมียแล้ว ชายคนนั้นจะไปมีเมียอื่นอีกไม่ได้ ถ้ามีก็มักเป็นอันตราย ถ้าต้องการจะมีเมียจริง ๆ ก็อาจทำได้ โดยบอกกล่าวขออนุญาตพรายนางตานีเสียก่อน พรายนางตานีเป็นเมียที่ดี เมื่อเห็นสามีซื่อสัตย์ไม่ปิดบังความจริง ก็จะอนุญาตให้มีได้ ซ้ำยังจะช่วยเหลือเพื่อให้การนั้นสำเร็จไปด้วยดีอีกด้วย ไม่มีหึงหวงแยกเขี้ยว หรือร้องไห้ตีโพยตีพายเหมือนเมียมนุษย์ แต่คนสมัยก่อนได้เชื่อว่า ผู้ที่ได้นางตานีเป็นเมียนั้นมักจะมีอันเป็นไป เพราะพลังชีวิตทั้งสองฝ่ายนั้นจะถ่ายทอดซึ่งกันและกัน ถ้านำลัทธิเต๋ามาเปรียบเทียบซึ่งก็คือนางตานีนั้นเป็นผีผู้หญิงซึ่งก็คือพลังหยิน ส่วนผู้ชายนั้นคือพลังหยาง นาตานีนั้นเป็นผีที่มีพลังหยินที่อ่อนมาก พลังหยางที่อยู่ในผู้ชายที่เป็นมนุษย์จะถ่ายเพื่อให้เกิดความสมดุล แต่การถ่ายทอดพลังชีวิตนั้นจะเป็นอันตรายต่อฝ่ายชายที่เป็นมนุษย์ ดังโบราณซึ่งได้กล่าวไว้ว่า"คนอยู่ส่วนคน ผีอยู่ส่วนผี คนกับผีอยู่มิได้" ผลข้างเคียงในการถ่ายทอดพลังชีวิตของฝ่ายชายนั้นจะสังเกตได้จากอาการคือซูบผอม แก้มตอบเมื่อคนอดอาหาร ชาวบ้านมักจะสังเกตอาการนั้นและรู้ทันทีว่าคนผู้นั้นมีเมียเป็นนางตานี ก็จะนิมนต์พระภิกษุหรือเชิญหมอผีที่มีวิชาอาคมแก่กล้าให้ทำพิธีกรรมให้คนทั้งสองแยกจากกันแยกจากกันและอุทิศส่วนกุศลให้นางตานีไปสู่สุขคติ