ความสามารถและอาวุธของเหล่าภูตพรายแต่ละตน ของ นูระหลานจอมภูต

กลุ่มนูระ

นูระ ริคุโอะ

  • ดาบเนเนะคิริมารุ

ดาบที่นูราริเฮียงเห็นวางอยู่เลยหยิบมาจากโยฮิเมะผู้เป็นย่าของริคุโอะ มีพลังในการฟาดฟันเหล่าภูตพราย แต่เป็นดาบที่ไม่มีผลหากนำไปฟันมนุษย์ แท้จริงแล้วเป็นดาบที่องเมียวจิอัจฉริยะ เคย์คะอิน ฮิเดโมโตะเป็นคนสร้างขึ้นมา แต่เมื่อเห็นว่านูราริเฮียงใช้ได้ดีจึงมอบให้ไป

  • เมย์เคียวชิซุย (สงบดุจน้ำนิ่ง)

ใช้ความเกรงขามสะกดศัตรู ให้ไม่สามารถรับรู้การมีตัวตนของผู้ใช้วิชาได้

  • เมย์เคียวชิซุย ซากุระ (สงบดุจน้ำนิ่ง ซากุระ)

สร้างงูไฟจากในชามเหล้าที่ใส่เหล้าปีศาจชื่อดัง ซากุระ เผาพลาญศัตรูจนกว่าระลอกคลื่นในชามเหล้าจะสงบลง

  • เคียวกะ ซุยเง็ตสึ (พร่างบุปผา เงาจันทรา)

ใช้ความเกรงขามสะกดปีศาจฝ่ายตรงข้าม ด้วยการสร้างเงาจำแลงให้เหมือนกับว่าโจมตีโดนเจ้าตัวแต่การโจมตีนั้นทะลุผ่านร่างกายไป หรือเรียกได้ว่าทิ้งภาพลวงตาของตัวเองไว้เพื่อหลอกศัตรูนั่นเอง

  • มาโทอิ (อาภรณ์อสูร)

คือการที่ริคุโอะสามารถใช้พลังของปีศาจที่อยู่ในกลุ่มขบวนร้อยอสูรของตนได้ ซึ่งการจะได้รับพลังของปีศาจตนนั้นจำเป็นจะต้องมีความเชื่อใจกันอย่างที่สุดระหว่างผู้นำกลุ่มและผู้ติดตาม ซึ่งเมื่อได้รับพลังแล้วจะปรากฏรอยสักที่แสดงถึงพลังที่ได้รับมานั้นบนแผ่นหลังบริเวณไหล่ทั้ง 2 ข้าง ว่ากันว่าพลังนี้เกิดขึ้นครั้งแรกในยุคของนูราริเฮียงรุ่นที่ 2 ริฮัง (พ่อของริคุโอะ) ซึ่งถือว่าเป็นยุคที่ขบวนร้อยอสูรแข็งแกร่งที่สุด

อย่างไรก็ตาม ปีศาจที่มีเลือดปีศาจเต็มตัวจะไม่สามารถใช้หรือฝึกฝนมาโทอินี้ได้ เงื่อนไขหนึ่งในสองอย่างของมาโทอิคือต้องมีสายเลือดเป็นมนุษย์อยู่ด้วย ดังนั้นริฮังที่เป็นลูกครึ่งปีศาจและริคุโอะที่มีเลือดปีศาจ1ใน4จึงใช้มาโทอิได้

  • มาโทอิ ขั้นที่ 2 (เกราะสยบอสูร)

คือการที่ริคุโอะสามารถใช้พลังของมาโทอิผนวกกับความเกรงขามของตนเอง เป็นพลังที่เรียกได้ว่าแข็งแกร่งที่สุดในยุคของ นูระ ริฮัง

  • การสำแดงความเกรงขาม

การสำแดงความเกรงขามของริคุโอะในตอนแรก คือการใช้ฮัตสึในการลบร่างของตัวเองออกไปจากสายตาศัตรู แต่หลังจากได้รับการชี้แนะ ประจวบกับนึกถึงเรื่องในอดีตเข้าพอดี ริคุโอะจึงหาตัวตนที่แท้จริงออกมาได้ กลายเป็นความตรงข้ามของความสามารถลบร่าง นั่นคือ การทำให้เห็นร่าง แต่ไม่สามารถสัมผัสตัวได้ นั่นคือในสายตาของศัตรูจะเห็นเหมือนว่าได้ฟันริคุโอะแล้ว แต่ที่ฟันไปเป็นเพียงภาพลวงตา (หลอกและพรางตัวจากทัศนวิสัยของศัตรู) เป็นความสามารถที่แท้จริงของสายเลือดนูราริเฮียง

เคียวกะซุยเง็ตสึ มีความหมายถึง จันทราบนผิวน้ำ ซึ่งนูราริเฮียงเปรียบเปรยไว้ แม้จะทำให้ผิวน้ำกระเพื่อม แต่ก็ไม่หายไป กลับล่องลอยอย่างเลือนราง มาจากอักษรสี่ตัวคือ กระจก บุปผา จันทรา วารี ซึ่งท่านี้เหนือกว่าเมย์เคียวชิซุย น้ำนิ่งที่เมื่อปรากฏรอยกระเพื่อมแล้วจะสลายไป

ผีหัวขาด/คุบินาชิ

  • เชือกป่าน

เชือกป่านที่ทำจากเส้นใยปีศาจแมงมุมและเส้นผมของเคะโจโร ยิ่งดิ้นเชือกยิ่งรัดแน่น เป็นที่มาของฉายา "ป่านสังหารแห่งโจชู" ของผีหัวขาด ใช้พลิกแพลงได้หลากหลาย และหากใช้ร่วมกับเฮียวอิ ป่านจะแข็งแกร่งราวกับเหล็ก แม้ใช้อาวุธฟาดฟันก็ไม่อาจตัดขาดได้

ภูตหิมะ/ปีศาจหิมะ/เจ้าหญิงหิมะ

  • ทวนน้ำแข็ง

สร้างทวนขึ้นมาจากน้ำแข็ง ปรากฏครั้งแรกในการต่อสู้กับโยซึสึเมะ(ปีศาจวิหคดำ)และอีกครั้งในตอนที่พยายามจะหลบหนีจากการจับกุมของซึจิคุโมะ ที่จับตัวเองเป็นตัวประกันเพื่อล่อให้ริคุโอะมาสู้กับตน

  • ฟูเซย์ คาคุเรย์ (วายุกระซิบสังหาร)

แช่แข็งศัตรูในผลึกน้ำแข็ง ปรากฏมาครั้งแรกในตอนที่สู้กับโยซึสึเมะ และตอนไปที่เกียวโตตอนไปช่วยโทริอิและมากิ

  • ภูเขาหิมะสังหาร

เป็นท่าที่เมื่อใครโดนเข้าไปแล้ว จะง่วงนอนทันทีเหมือนอยู่บนยอดเขา เคยใช้ครั้งเดียวตอนจามิ ใช้ในการสะกดเพื่อนๆของริคุโอะให้หลับ ในขณะที่ตัวริคุโอะสืบหาความจริงเกี่ยวกับจามิ

คุโรตะโบ

  • สรรพวุธเริงระบำ

ปลดปล่อยอาวุธในร่างกายของตนทั้งหมดออกมาจากแขนเสื้อ ซึ่งกระทั่งตัวคุโรตะโบเองก็ไม่อาจคะเนได้ว่าจริงๆแล้วอาวุธทั้งหมดที่ตัวเองปล่อยออกมาได้มีกี่เล่มกันแน่

  • มาโทอิ

มาโทอิที่คุโรมอบให้ริคุโอะเพื่อสอนการใช้อาภรณ์อสูรอย่างจริงจัง โดยให้ริคุโอะนำความเกรงขามของตัวเองไปห่อหุ้มเหมือนเสื้อผ้าและผสานการโจมตีเข้าด้วยกัน มีความโดดเด่นด้านการโจมตีอย่างหนักหน่วงและรับการจู่โจมอย่างมีประสิทธิภาพด้วยอาวุธมากมายที่ออกมารวดเดียวใส่ศัตรู เหมาะกับการรับมือกับศัตรูที่ว่องไวรวดเร็ว

อาโอตะโบะ

  • โกริกิไรซัน (อัญเชิญจอมพลัง)

ปลดปล่อยพละกำลังของตนเองที่ตนเองสะกดไว้เพื่อให้อยู่ในโลกมนุษย์ได้

คัปปะ

  • คัปปะนินโป มิซึจิดามะ (วิชานินจาคัปปะ ลูกแก้ววารี)

สร้างลูกบอลน้ำเพื่อโจมตีศัตรูโดยขนาดใหญ่เล็กนั้นขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการสร้าง

จามิ

  • วิชาดาบ

ตัวของจามินั้นในสมัยเป็นมนุษย์เป็นซามูไรที่มีฝีมือ และในปัจจุบันแม้จะเป็นภูตไปแล้วแต่ฝีมือก็ไม่ได้ตกลงไปตามกาลเวลา

เซน

  • ปีกพิษ

ขนปีกของเซนนั้นมีพลังในการที่เป็นยาพิษร้ายแรงหลายชนิดอยู่ ยามเมื่อกางออกจะทำให้คู่ต่อสู้ติดพิษนั้นและทำให้เกิดอาการต่างๆตามพิษที่ได้รับ

โชเอย์

  • หน้ากากจอมปีศาจ

ปลดปล่อยความเกรงขามออกจากร่างเพื่อใช้ความสามารถขั้นต่อไปหรือเพิ่มพละกำลังให้แก่ร่างกาย

  • ดาบพญาวานร

บรรจุความเกรงขามที่ปลดปล่อยต่อมาจากหน้ากากจอมปีศาจลงในดาบเล่มใหญ่ที่ตนพกไว้กับตัวอยู่เสมอ มีพลังในการฟันช่องว่างระหว่างมิติภูตกับโลกมนุษย์ได้