บูชา หรือ
ปูชา (
สันสกฤต: pūjā;
เทวนาครี: पूजा) คือพิธีกรรมสวดภาวนาของ
ศาสนาฮินดู เพื่อถวายการบูชาแด่
เทพฮินดู, รับขวัญและให้การต้อนรับแขกผู้มาเยือน หรือ เพื่อเฉลิมฉลองในเชิงศาสนาเกี่ยวกับเหตุการณ์ในชีวิต
[1][2] บูชา เป็นภาษาสันสกฤต แปลว่า "ให้เกียรติ" หรือ "แสดงความเคารพ"
[3] บูชาเป็นพิธีกรรมจำเป็นในฮินดู ประกอบด้วยการถวายบุปผชาติ (ดอกไม้) น้ำสะอาด และอาหาร ต่อผู้ที่จะรับการบูชา ทั้งองค์เทพ บุคคล หรือวิญญาณผู้ล่วงลับ การมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับองค์เทพ หรือกับคุรุ เรียกว่า
darshan แปลว่า การมองเห็น (seeing)
[4].บูชา สามารถพบได้ใน
พระพุทธศาสนา (ดูเพิ่มที่:
บูชาในพระพุทธศาสนา) และใน
ศาสนาเชน (ดูเพิ่มที่:
ทราไวยบูชา; Dravya Puja)บูชาสามารถประกอบได้หลากหลายโอกาส และสถานที่ ตั้งแต่ที่เรือนของผู้ประกอบพิธีกรรมไปจนถึงใน
โบสถ์พราหมณ์ และในเทศกาลต่าง ๆ บูชายังใช้จัดเพื่อฉลองเหตุการณ์สำคัญของชีวิต เช่น การคลอดบุตร,
พิธีมงคลสมรส และการขึ้นบ้านใหม่หรือเปลี่ยนอาชีพ
[5] ส่วนบูชาที่จัดเพื่อบูชาเทพเช่น
ทุรคาบูชา ลักษมีบูชา เป็นต้น
[6] บูชาไม่ใช่พิธี "บังคับ" ในศาสนา สำหรับศาสนิกชนบางกลุ่มอาจเป็นพิธีประจำ, นาน ๆ ครั้ง, ประจำปี หรือไม่เคยประกอบเลยก็มี เช่นเดียวกับในโบสถ์พราหมณ์ที่บางแห่งมีการจัดเป็นประจำจนไปถึงแทบจะไม่เคยจัดเลย
[7][8]บูชาแบ่งออกเป็นสองประเภท คือ
นิคมบูชา (Nigama Puja) เป็นบูชาที่ไม่ต้องใช้เทวรูปหรือ
รูปเคารพของเทพเจ้า เช่น ในการบูชา
พระอัคนี เทพแห่งไฟ จะใช้การจุดไฟแทนการใช้ภาพขององค์เทพ ตรงข้ามกับใน
อาคมบูชา (Āgama Puja) ซึ่งต้องมีรูปเคารพ การบูชานั้นสามารถประกอบด้วยตัวศาสนิกชนเองผ่านการสวดบทสวดและเพลงสวด อาจมีการจุดตะเกียง (diya) และธูป ประกอบไปด้วย ในขณะที่บางโอกาสอาจมีนักบวช (
บูชารี) มาช่วยสวดในกรณีที่เป็นบทและพิธีกรรมที่ซับซ้อน เครื่องเสวยเช่นอาหาร ผลไม้ และขนมหวาน สำหรับพิธีที่ประกอบในโบสถ์พราหมณืหรือมีบูชารีประกอบพิธีกรรม หลังเสร็จการบูชาแล้วจะกลายเป็น "
ประสาท" (prasad) ซึ่งจะถูกนำมาแจกจ่ายระหว่างผู้ที่มาร่วมการบูชา
[7][8]ทั้งนิคมบูชาและอาคมบูชานั้นพบโดยทั่วไปใน
อินเดีย ในขณะที่
ศาสนาฮินดูแบบบาหลี ที่
อินโดนีเซีย พบแบบอาคมบูชาเป็นหลัก ทั้งในเรือนและในวัด (
ปูรา) การบูชานี้จะเรียกว่า "
ฮียัง" (Hyang) หรือ "เซ็มบาฮียัง" (Sembahyang)
[9][10]