การเมืองการปกครอง ของ ประเทศกัมพูชา

ดูบทความหลักที่: การเมืองกัมพูชา
พระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหมุนี
พระมหากษัตริย์กัมพูชาตั้งแต่ปี 2547
สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโชฮุน เซน
นายกรัฐมนตรีกัมพูชาตั้งแต่ปี 2532

สภาพการเมืองในกัมพูชาปัจจุบันถือว่ามีเสถียรภาพ พรรคการเมืองสองพรรคหลักซึ่งประกอบขึ้นเป็นรัฐบาลกัมพูชา คือ พรรคประชาชนกัมพูชา (CPP) ของสมเด็จฮุน เซน และพรรคฟุนซินเปก (FUNCINPEC) ของสมเด็จกรมพระนโรดม รณฤทธิ์ สามารถร่วมมือกันได้อย่างราบรื่น ทั้งในด้านบริหารและด้านนิติบัญญัติ รวมทั้งมีท่าทีที่สอดคล้องกันเป็นส่วนใหญ่ในประเด็นทางการเมืองสำคัญ ๆ ของประเทศ อาทิ เรื่องการนำตัวอดีตผู้นำเขมรแดงมาพิพากษาโทษ เป็นต้น

กลุ่มการเมืองฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลยังไม่มีความเข้มแข็งมากพอ และคงสามารถทำได้เพียงแต่สร้างผลกระทบทางลบต่อภาพลักษณ์ของรัฐบาล โดยในทางการเมือง พรรคสม รังสี พรรคการเมืองฝ่ายค้านหนึ่งเดียวในสภาแห่งชาติกัมพูชา ได้เคลื่อนไหวตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลกัมพูชาอย่างแข็งขัน พยายามชี้ให้สาธารณชนและนานาชาติ เห็นถึงการทุจริตและประพฤติมิชอบของรัฐบาล รวมทั้งการใช้อำนาจทางการเมืองเพื่อผลประโยชน์ส่วนตนและของพรรค อย่างไรก็ดี ในด้านความมั่นคง มีปรากฏการณ์ใหม่ คือ ได้เกิดกลุ่มติดอาวุธที่มีวัตถุประสงค์จะโค่นล้มรัฐบาลของสมเด็จฮุน เซน ที่สำคัญคือ Cambodian Freedom Fighters (CFF) ซึ่งมีชาวกัมพูชาสัญชาติอเมริกันเป็นหัวหน้า กลุ่มดังกล่าวได้ก่อการร้ายขึ้นในกรุงพนมเปญเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2543 แต่รัฐบาลกัมพูชาสามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ และอยู่ระหว่างกระบวนการพิพากษาตัวผู้กระทำผิด

การสืบราชสันตติวงศ์

ระบบกษัตริย์ของกัมพูชาไม่เหมือนกับระบบกษัตริย์ส่วนใหญ่ในประเทศอื่น ๆ ที่ราชบัลลังก์จะตกไปสู่ผู้มีลำดับการสืบราชสันตติวงศ์ลำดับถัดไป (ผู้ที่มีศักดิ์สูงสุดในราชวงศ์ หรือพระราชโอรสองค์โตของกษัตริย์พระองค์ก่อน เป็นต้น) และพระมหากษัตริย์ ไม่สามารถเลือกผู้ที่จะมาสืบราชสันตติวงศ์ได้ด้วยตัวเอง แต่ผู้ที่มีสิทธิ์ในการเลือกพระมหากษัตริย์องค์ใหม่นั้นคือ กรมปรึกษาราชบัลลังก์ (Royal Council of the Throne) ซึ่งมีสมาชิกดังนี้

  1. นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา
  2. ประธานรัฐสภาแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา
  3. ประธานพฤฒสภาแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา
  4. รองประธานรัฐสภาคนที่หนึ่ง
  5. รองประธานรัฐสภาคนที่สอง
  6. รองประธานพฤฒสภาคนที่หนึ่ง
  7. รองประธานพฤฒสภาคนที่สอง
  8. สมเด็จพระสังฆราชในศาสนาพุทธ ฝ่ายคณะสงฆ์มหานิกาย
  9. สมเด็จพระสังฆราชในศาสนาพุทธ ฝ่ายคณะสงฆ์ธรรมยุติกนิกาย

กรมปรึกษาราชบัลลังก์จะจัดการประชุมในสัปดาห์ที่พระมหากษัตริย์สวรรคตหรือไม่สามารถปฏิบัติพระราชกรณียกิจได้ต่อไป และเลือกพระมหากษัตริย์องค์ใหม่จากรายชื่อผู้มีสิทธิ์สืบราชสันตติวงศ์ และเป็นสมาชิกราชวงศ์

ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

หนังสือเดินทางในพระราชอาณาจักรกัมพูชานายกรัฐมนตรีกัมพูชา สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซนกับนายกรัฐมนตรีอินเดีย นเรนทระ โมที ที่กรุงนิวเดลี วันที่ มกราคม ค.ศ. 2018

ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของพระราชอาณาจักรกัมพูชาได้ถูกบริหารจัดการโดยกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชาภายใต้การดูแลของ ฯพณฯ ท่านปรัก สุคน

พระราชอาณาจักรกัมพูชายังเป็นประเทศสมาชิกขององค์การสหประชาชาติ, ธนาคารโลก, และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ นอกจากนี้ยังเป็นประเทศสมาชิกของธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB), สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน), และได้เข้าร่วมองค์การการค้าโลก ในปี ค.ศ. 2004 และในปี ค.ศ. 2005 กัมพูชาได้เข้าร่วมประชุมพิธีการสถาปนา การประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออกที่ได้จัดขึ้นที่ประเทศมาเลเซีย

ประเทศที่มีความสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชา

กัมพูชาได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับหลายประเทศและได้มีสถานทูตต่างประเทศ 20 แห่งในประเทศ[21] รวมถึงประเทศเพื่อนบ้านในเอเชียหลายประเทศและประเทศที่มีบทบาทสำคัญในระหว่างการเจรจาสันติภาพที่ปารีสรวมถึงสหรัฐอเมริกา, ออสเตรเลีย, แคนาดา, จีน, สหภาพยุโรป (EU),ญี่ปุ่นและรัสเซีย[22] อันเป็นผลมาจากความสัมพันธ์ระหว่างประเทศทำให้องค์กรการกุศลต่าง ๆ ได้ช่วยเหลือโครงสร้างพื้นฐานทางสังคม,เศรษฐกิจและวิศวกรรมโยธา

ในขณะที่ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในช่วงทศวรรษ 1970 และ 1980 ได้ผ่านไปแล้วข้อพิพาทชายแดนระหว่างกัมพูชาและประเทศเพื่อนบ้านยังคงมีอยู่ มีความขัดแย้งในหมู่เกาะนอกชายฝั่งและบางส่วนของเขตแดนกับเวียดนามและเขตแดนทางทะเลที่ไม่ได้กำหนด กัมพูชาและไทยก็มีปัญหาความขัดแย้งชายแดนด้วยการปะทะทางการทหารในกรณีพิพาทพรมแดนไทย–กัมพูชาในปี ค.ศ. 2008 ที่เกิดขึ้นใกล้บริเวณปราสาทพระวิหาร นำไปสู่การเสื่อมสภาพในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกับไทย อย่างไรก็ตามดินแดนพิพาทส่วนใหญ่เป็นของกัมพูชา แต่การรวมกันของไทยที่ไม่เคารพกฎหมายระหว่างประเทศการสร้างกองทหารของไทยในพื้นที่และการขาดทรัพยากรสำหรับกองทัพกัมพูชาได้ทิ้งสถานการณ์ไว้ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1962[23][24]

แหล่งที่มา

WikiPedia: ประเทศกัมพูชา http://www.angelfire.com/pokemon2/stateless_it/pag... http://cambotoday.blogspot.com/2009/06/oil-revenue... http://www.britannica.com/EBchecked/topic/90520/Ca... http://www.nitipoom.com/th/article3.asp?idOpenSky=... http://www.phnompenhpost.com/index.php/20110518491... http://www.phnompenhpost.com/national/kampong-cham... http://www.samkokview.com/main/index.php/2012-02-0... http://www.tourismcambodia.com/ http://www.world-gazetteer.com/wg.php?x=&men=gcis&... http://news.xinhuanet.com/english2010/culture/2010...