การแบ่งเขตการปกครอง ของ ประเทศสเปน

ดูบทความหลักที่ เขตการปกครองของสเปน

ประเทศสเปนแบ่งเขตการปกครองออกเป็น 17 แคว้นปกครองตนเอง (autonomous communities; comunidades autónomas) และ 2 นครปกครองตนเอง (autonomous cities; ciudades autónomas) แต่ละแคว้นจะแบ่งย่อยออกไปอีกเป็น จังหวัด (provinces; provincias) รวมทั้งหมด 50 จังหวัด

แคว้นและนครปกครองตนเอง

กรุงมาดริดเมืองบาร์เซโลนา

ปัจจุบันประเทศสเปนได้ชื่อว่าเป็น "รัฐแห่งการปกครองตนเอง (State of Autonomies)" แม้ว่าโดยทางการจะถือว่าเป็นรัฐเดี่ยว แต่ในความเป็นจริงแล้วมีลักษณะเป็นรัฐรวมที่มีการกระจายอำนาจออกจากศูนย์กลางอย่างมาก โดยรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันเปิดโอกาสให้แคว้นต่าง ๆ มีสิทธิในการปกครองตนเองได้ในระดับที่ต่างกันตามภูมิหลังการปกครองตนเองของแต่ละแคว้น[17] เช่น ทุกแคว้นจะจัดการด้านสาธารณสุขและระบบการศึกษาของตนเอง บางแคว้น (เช่น ประเทศบาสก์และนาวาร์) มีหน้าที่จัดการด้านการเงินสาธารณะเพิ่มเติม ในแคว้นประเทศบาสก์และกาตาลุญญา หน่วยงานตำรวจของแคว้นจะมีบทบาทหน้าที่มากกว่าหน่วยงานตำรวจของส่วนกลาง เป็นต้น โดยสมาชิกสภานิติบัญญัติของแต่ละแคว้นจะดำรงตำแหน่งวาระละ 4 ปีเช่นเดียวกับสมาชิกรัฐสภา โดยแคว้นปกครองตนเอง และนครปกครองตนเอง* (อยู่ในทวีปแอฟริกา) ของประเทศสเปน ประกอบด้วย


อาคารเมโตรโปลิส กรุงมาดริดกาซามิลา (Casa Milà) เมืองบาร์เซโลนา
สถานที่อุณหภูมิสูงสุดที่บันทึกไว้อุณหภูมิต่ำสุดที่บันทึกไว้
เมดิเตอร์เรเนียน))))
มูร์เซีย 47.2°ซ  117.0°ฟ   −6.0°ซ  21.2°ฟ  
มาลากา 44.2°ซ  111.6°ฟ  −3.8°ซ  25.1°ฟ  
บาเลนเซีย 42.5°ซ  108.5°ฟ  −7.2°ซ  19°ฟ  
อาลิกันเต 41.4°ซ  106.5°ฟ  −4.6°ซ  23.7°ฟ  
ปัลมาเดมายอร์กา 40.6°ซ  105.1°ฟ  -  - 
บาร์เซโลนา 39.8°ซ  103.6°ฟ  −10.0°ซ  14°ฟ  
ฌิโรนา 41.7°ซ  107°ฟ   −13.0°ซ  8.6°ฟ  
ดินแดนภายใน))))
เซบิยา 47.0°ซ  116.6°ฟ   −5.5°ซ  22.1°ฟ  
กอร์โดบา 46.6°ซ  115.9°ฟ   -  -  
บาดาโฆซ 45.0°ซ  113°ฟ   -  -  
อัลบาเซเต 42.6°ซ  108.7°ฟ   −24.0°ซ  −11.2°ฟ  
ซาราโกซา 42.6°ซ  108.7°ฟ   -  -  
มาดริด 42.2°ซ  108.0°ฟ   −14.8°ซ  5.4°ฟ 
บูร์โกส 41.8°ซ  107.2°ฟ   −22.0°ซ  −7.6°ฟ 
บายาโดลิด 40.2°ซ  104.4°ฟ   -  - 
ซาลามังกา -  -   −20.0°ซ  −4.0°ฟ 
เตรวยล์ -  -   −19.0°ซ  −2.2°ฟ 
ชายฝั่งแอตแลนติกเหนือ))))
บิลบาโอ 42.0°ซ  107.6°ฟ   −8.6°ซ  16.5°ฟ 
อาโกรุญญา 37.6°ซ  99.7°ฟ   −4.8°ซ  23.4°ฟ 
ฆิฆอน 36.4°ซ  97.5°ฟ   −4.8°ซ  23.4°ฟ 
หมู่เกาะคะแนรี))))
ลัสปัลมัสเดกรันกานาเรีย 38.6°ซ  102°ฟ   11.4 °ซ  48.6°ฟ 

จังหวัด

นอกจากแคว้นปกครองตนเองดังกล่าวแล้ว สเปนยังแบ่งออกเป็น 50 จังหวัด โดยโครงสร้างนี้เป็นโครงสร้างรองถัดจากระดับแคว้นปกครองตนเองลงไป (ย้อนไปตั้งแต่ปี พ.ศ. 2376) ดังนั้น แคว้นปกครองตนเองจึงเกิดขึ้นจากกลุ่มของจังหวัด (เช่น แคว้นเอซเตรมาดูราประกอบด้วยจังหวัดกาเซเรสและจังหวัดบาดาโฆซ) แต่แคว้นปกครองตนเองอัสตูเรียส หมู่เกาะแบลีแอริก กันตาเบรีย ลาริโอฆา นาวาร์ ภูมิภาคมูร์เซีย และมาดริด แต่ละแคว้นดังกล่าวจะมีอยู่เพียงจังหวัดเดียว และแต่เดิมจังหวัดในแคว้นต่าง ๆ มักจะถูกแบ่งลงไปเป็น โกมาร์กัส (comarcas) เป็นเขตทางประวัติศาสตร์ที่มีรูปแบบคล้ายกับเคาน์ตีในสหรัฐอเมริกา แต่ในบางแคว้นจะไม่มี เขตการบริหารระดับล่างสุดจริง ๆ แล้วคือ เทศบาล (municipalities; municipios)

บริเวณอำนาจอธิปไตย

ประเทศสเปนมีดินแดนส่วนแยกตั้งอยู่ริมและนอกชายฝั่งทวีปแอฟริกาที่มีชื่อเรียกว่า ปลาซัสเดโซเบรานิอา (plazas de soberanía; places of sovereignty) ได้แก่ เซวตาและเมลียา ซึ่งเป็นนครปกครองตนเอง มีสถานะอยู่ระหว่างระดับเมืองกับระดับแคว้น ส่วนหมู่เกาะชาฟารีนัส (Islas Chafarinas) โขดหินอาลูเซมัส (Peñón de Alhucemas) และโขดหินเบเลซเดลาโกเมรา (Peñón de Vélez de la Gomera) ต่างอยู่ภายใต้การบริหารของสเปน

ข้อพิพาทเรื่องดินแดน

ดินแดนที่สเปนอ้างสิทธิ์

สเปนได้เรียกร้องให้มีการคืนยิบรอลตาร์ ดินแดนโพ้นทะเลของสหราชอาณาจักรที่ตั้งอยู่ใกล้จุดใต้สุดของคาบสมุทร ทางด้านตะวันออกของช่องแคบยิบรอลตาร์ ซึ่งแม้จะมีขนาดเล็กแต่ก็มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ ยิบรอลตาร์ถูกยึดครองระหว่างสงครามสืบราชสมบัติสเปน ในปี ค.ศ. 1704 และถูกยกให้อยู่ภายใต้การปกครองของบริเตนอย่างถาวรตามสนธิสัญญาอูเทรคท์ (Treaty of Utrecht) ค.ศ. 1713 ประชากรส่วนใหญ่ของยิบรอลตาร์ประมาณ 30,000 คนยังต้องการให้ยิบรอลตาร์เป็นของบริเตนอยู่ โดยมีการออกเสียงลงประชามติเพื่อยืนยัน[18] สหประชาชาชาติได้เรียกสหราชอาณาจักรและสเปนให้มาทำข้อตกลงเพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งดังกล่าว ในขณะที่สเปนไม่ยอมรับเขตแดนนี้และมักจะมีการตรวจสอบการผ่านแดนอย่างเข้มงวดเสมอ โดยบ่อยครั้งที่มีการปิดชายแดนเพื่อที่จะกดดันยิบรอลตาร์ ซึ่งจำเป็นต้องพึ่งพาสินค้าและแรงงานจากสเปน

นอกจากนั้นแล้ว การกำหนดเขตชายแดนตามสนธิสัญญาอูเทรคท์ก็ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันระหว่างทั้งสองฝ่าย โดยสเปนยืนยันว่าสหราชอาณาจักรเข้าครอบครองดินแดนส่วนคอคอดซึ่งเป็นที่ตั้งสนามบินซึ่งเดิมไม่ได้รวมอยู่ในสนธิสัญญาดังกล่าว[19]

ดินแดนของสเปนที่ประเทศอื่นอ้างสิทธิ์

โมร็อกโกได้อ้างสิทธิ์เหนือเมืองเซวตา เมืองเมลียา โขดหินเบเลซ โขดหินอาลูเซมัส หมู่เกาะชาฟารีนัส และเกาะเปเรฆิล ทั้งหมดตั้งอยู่ชายฝั่งทางเหนือของทวีปแอฟริกา โดยโมร็อกโกชี้แจงว่าดินแดนดังกล่าวถูกยึดเอาไปในขณะที่โมร็อกโกไม่สามารถขัดขวางได้และไม่เคยลงนามในสนธิสัญญาใด ๆ เพื่อยกให้ไป (แต่ก็ยังไม่ปรากฏประเทศโมร็อกโกในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 14 และ 15 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ดินแดนเหล่านั้นได้เข้าไปอยู่ในการครอบครองของสเปน) ส่วนสเปนก็อ้างว่าดินแดนดังกล่าวเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับประเทศ ไม่สามารถแยกได้ ทั้งยังเป็นของสเปนหรือเชื่อมโยงกับสเปนมาตั้งแต่ก่อนการรุกรานของพวกมุสลิมในปี ค.ศ. 711 (สเปนกลับไปปกครองบริเวณเซวตาและเกาะเปเรฆิลอีกครั้งในปี ค.ศ. 1415 และได้ปกครองดินแดนส่วนที่เหลือด้วยเช่นกัน ในเวลาไม่กี่ปีหลังจากที่สามารถพิชิตเมืองกรานาดาได้เมื่อปี ค.ศ. 1492) สเปนยังกล่าวอีกด้วยว่าการอ้างสิทธิ์เหนือดินแดนดังกล่าวของโมร็อกโกนั้นเป็นเพียงการอ้างสิทธิ์ตามเขตภูมิศาสตร์เท่านั้น ลักษณะที่คล้ายกันในเรื่องการครอบครองดินแดนข้ามทวีปอย่างเช่นการเป็นเจ้าของคาบสมุทรไซนาย (ที่อยู่ในทวีปเอเชีย) ของอียิปต์ หรือการเป็นเจ้าของเมืองอิสตันบูล (อยู่ในทวีปยุโรป) ของตุรกี จึงมักถูกสเปนนำมาใช้สนับสนุนจุดยืนของตนเอง[ต้องการอ้างอิง]

ส่วนโปรตุเกสก็ไม่ยอมรับอำนาจอธิปไตยของสเปนเหนือเมืองโอลีเบนซา (Olivenza) ในแคว้นเอซเตรมาดูรา โดยกล่าวว่าสนธิสัญญาเวียนนา (Treaty of Vienna) ซึ่งสเปนได้ลงนามไว้เมื่อปี ค.ศ. 1815 นั้น ได้กำหนดให้สเปนคืนดินแดนดังกล่าวให้โปรตุเกสด้วย แต่สเปนก็อ้างว่าสนธิสัญญาเวียนนาได้เปิดช่องให้ข้อกำหนดในสนธิสัญญาบาดาโฆซ (Treaty of Badajoz) ที่โปรตุเกสยกเมืองดังกล่าวให้สเปน "ตลอดไป (perpetual)" ในปี ค.ศ. 1801 ยังคงอยู่[ต้องการอ้างอิง]

ใกล้เคียง

ประเทศสเปน ประเทศสเปนในโอลิมปิกฤดูร้อน 2020 ประเทศสเปนในโอลิมปิกเยาวชนฤดูหนาว 2020 ประเทศสเปนในโอลิมปิกฤดูร้อน 2016 ประเทศสเปนในพาราลิมปิกฤดูร้อน 2016 ประเทศสเปนในโอลิมปิกฤดูหนาว 2018 ประเทศสเปนในพาราลิมปิกฤดูร้อน 2020 ประเทศสเปนในโอลิมปิกเยาวชนฤดูร้อน 2014 ประเทศสเปนในโอลิมปิกเยาวชนฤดูร้อน 2010 ประเทศสเปนในโอลิมปิกฤดูหนาว 2022

แหล่งที่มา

WikiPedia: ประเทศสเปน http://www.abc.net.au/olympics/2004/results/medalt... http://www.spanishaccommodation.biz http://www.britannica.com/nations/Spain http://www.maps.data-spain.com/ http://www.datesofhistory.com/Spain.index.html http://www.economist.com/countries/Spain/ http://www.economist.com/media/pdf/QUALITY_OF_LIFE... http://www.ethnologue.com/14/show_country.asp?name... http://flickr.com/photos/tags/Spain/clusters/ http://www.gibnet.com/texts/ref1.htm