การเมืองการปกครอง ของ ประเทศเกาหลีใต้

The National Assembly ของเกาหลีใต้หน่วยงานรัฐบาลกลางแห่งเกาหลีใต้เมืองพิเศษในประเทศเกาหลีใต้

หลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ในปี พ.ศ. 2491 คาบสมุทรเกาหลีถูกแบ่งเป็นสองส่วนโดยเส้นละติจูดที่ 38 องศาเหนือ (มักเรียกว่าเส้นขนาน 38) โดยสหภาพโซเวียตดูแลเกาหลีเหนือมีการปกครองระบอบสังคมนิยม ส่วนสหรัฐอเมริกาดูแลเกาหลีใต้มีการปกครองระบอบประชาธิปไตย

สาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) ปกครองในระบอบประชาธิปไตย ประมุขของประเทศคือประธานาธิบดี ซึ่งได้รับการเลือกตั้งโดยตรงจากประชาชนให้เป็นหัวหน้าฝ่ายบริหาร มีนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้รับการแต่งตั้งโดยประธานาธิบดีผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา รัฐสภาเป็นองค์กรนิติบัญญัติ และศาลทำหน้าที่ทางตุลาการ ทั้งนี้ เกาหลีใต้มีการแบ่งเขตการปกครองเป็น 9 จังหวัด และ 6 เขตการปกครอง (โซล ปูซาน อินชอน แตกู ควังจู แตชอน)

รัฐธรรมนูญ

เกาหลีใต้ประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับแรกเมื่อ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2491 โดยได้มีการปรับปรุงแก้ไขมาโดยตลอดอีก 9 ครั้ง การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งล่าสุดมีขึ้นในปี พ.ศ. 2530 เมื่อรัฐบาลประธานาธิบดีช็อน ดู-ฮวัน ต้องประสบกับภาวะกดดันทางการเมืองจากพรรคการเมืองต่าง ๆ ซึ่งเรียกร้องให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้มีการเลือกตั้งประธานาธิบดีโดยตรง และในที่สุด ประธานาธิบดีชุน ดู ฮวาน ก็ยินยอมให้มีการลงประชามติ แก้ไขรัฐธรรมนูญให้มีการเลือกตั้งประธานาธิบดีโดยตรง โดยอยู่ในตำแหน่งได้เพียงวาระเดียว (5 ปี) และให้มีการจัดระบบการปกครองท้องถิ่นอิสระเป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปี นอกจากนี้ รัฐธรรมนูญที่ได้รับการแก้ไข ยังได้ยกเลิกอำนาจการยุบสภาของประธานาธิบดี และให้รัฐสภามีอำนาจหน้าที่ดูแลและตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล รวมทั้งระบุว่ากองทัพต้องวางตัวเป็นกลางทางการเมือง รัฐธรรมนูญสาธารณรัฐเกาหลีฉบับปัจจุบันคือ ฉบับที่ ๑๐ มีทั้งสิ้น ๑๐ หมวด ๑๓๐ มาตรา ประกอบด้วย หมวด ๑ บททั่วไป (มาตรา ๑ - ๙) หมวด ๒ หน้าที่และสิทธิของพลเมือง (มาตรา ๑๐ - ๓๙) หมวด ๓ รัฐสภา (มาตรา ๔๐ - ๖๕) หมวด ๔ รัฐบาล แบ่งเป็น ส่วนที่ ๑ ประธานาธิบดี (มาตรา ๖๖ - ๘๕) ส่วนที่ ๒ ฝ่ายบริหาร (มาตรา๘๖ - ๙๓) ส่วนที่ ๓ องค์กรของรัฐบาล (มาตรา ๙๔ - ๙๖) ส่วนที่ ๔ ผู้ตรวจการแผ่นดิน (มาตรา ๙๗ - ๑๐๐) หมวด ๕ ศาล (มาตรา ๑๐๑ - ๑๑๐) หมวด ๖ ศาลรัฐธรรมนูญ (มาตรา ๑๑๑ - ๑๑๓) หมวด ๗ กรรมการการเลือกตั้ง (มาตรา ๑๑๔ - ๑๑๖) หมวด ๘ การปกครองท้องถิ่น (มาตรา ๑๑๗ - ๑๑๘) หมวด ๙ เศรษฐกิจ (มาตรา ๑๑๙ - ๑๒๗) หมวด ๑๐ การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ (มาตรา ๑๒๘ - ๑๓๐) (แก้ไขล่าสุดเมื่อ ๒๙ ตุลาคม ค.ศ. ๑๙๘๗ และประกาศใช้เมื่อ ๒๕ กุมภาพันธ์ ค.ศ. ๑๙๘๘)

ฝ่ายนิติบัญญัติ

รัฐธรรมนูญกำหนดให้รัฐสภา (National Assembly) เป็นผู้ใช้อำนาจนิติบัญญัติ ซึ่งรัฐสภาของเกาหลีใต้เป็นรูปแบบสภาเดียวประกอบด้วยสมาชิกจำนวน 300 คน โดยสมาชิกจำนวน 246 คนมาจากการเลือกตั้งโดยตรง และ สมาชิกจำนวน 54 คนมาจากการแต่งตั้งโดยจัดสรรตามสัดส่วนของพรรคการเมืองที่ได้รับเลือกตั้ง สมาชิกรัฐสภาแห่งชาติอยู่ในตำแหน่งคราวละ 4 ปี สภาจะเลือกประธาน (Speaker) และรองประธาน (Vice-Speaker) จำนวน 2 คน ตามรัฐธรรมนูญระบุไว้ว่า สามารถถอดถอนนายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีได้ หากสมาชิกรัฐสภา 1 ใน 3 เสนอขอและสมาชิกสภาข้างมากเห็นชอบตามเสนอ ซึ่งในกรณีการถอดถอนประธานาธิบดีนั้น ต้องเสนอโดยเสียงข้างมากและสมาชิกสภา 2 ใน 3 ให้ความเห็นชอบโดยประธานฯและรองประธานรัฐสภานั้น จะมีวาระในการดำรงตำแหน่งคราวละ 2 ปี ซึ่งรัฐสภาชุดปัจจุบันคือสมัยที่ 20 มีนายชอง เซ กยุน เป็นประธานรัฐสภา รับตำแหน่งเมื่อวันที่ ๑๖ มิถุนายน ๒๕๕๙ และมีวาระดำรงตำแหน่งคราวละ ๒ ปี นายชอง เซ กยุน เป็นสมาชิกรัฐสภาสังกัดพรรค Minjoo Party (พรรคฝ่ารัฐบาล) และเป็นสมาชิกรัฐสภาตั้งแต่สมัยที่ ๑๕ – ๒๐ จำนวนทั้งสิ้น ๖ สมัย และมีรองประธานรัฐสภาจำนวน ๒ คน ซึ่งประกอบด้วยสมาชิกรัฐสภาจากพรรคฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านอย่างละ ๑ คน อย่างไรก็ดี ตามกฎหมายผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองของเกาหลีใต้กำหนดให้สมาชิกรัฐสภาที่ได้รับการคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่งประธานรัฐสภาจำเป็นต้องถอนตัวออกจากการสังกัดพรรคการเมืองเป็นการชั่วคราว(ข้อมูล เมื่อ 17 กันยายน 2560)

ฝ่ายบริหาร

  • ประธานาธิบดี เป็นหัวหน้าฝ่ายบริหาร ได้รับเลือกตั้งโดยตรงจากผู้มีสิทธิออกเสียง โดยมีวาระ 5 ปี และไม่สามารถลงสมัครแข่งขันเป็นครั้งที่ 2 ได้ เพื่อเป็นการป้องกันการขยายอำนาจ ประธานาธิบดีดำรงตำแหน่งประมุขของรัฐ และผู้บัญชาการทหารสูงสุดด้วย รวมทั้งเป็นผู้มีอำนาจประกาศกฎอัยการศึก และมาตรการจำเป็นในยามฉุกเฉิน นอกจากนี้ประธานาธิบดีสามารถเสนอร่างกฎหมายให้รัฐสภาพิจารณาได้ อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีไม่มีอำนาจยุบสภา

ฝ่ายตุลาการ

ประกอบไปด้วยศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ และศาลฎีกา โดยประธานาธิบดีแต่งตั้งประธานศาลฎีกาด้วยความเห็นชอบของรัฐสภา การพิจารณาของศาลกำหนดให้เปิดเผยแก่สาธารณชนทั่วไปได้ ยกเว้นในกรณีที่เห็นว่าจะเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ หรือเป็นเรื่องที่จะสร้างปัญหาในด้านความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยของประชาชนหรือเป็นภัยต่อขวัญของประชาชน คำพิพากษาจำเป็นต้องปิดเป็นความลับนอกจากนี้ ยังมีศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีหน้าที่ในการพิทักษ์รัฐธรรมนูญ โดยให้ความคุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน และมีอำนาจในการพิจารณาว่ากฎหมายฉบับใดที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญให้ถือเป็นโมฆะ (โดยมีขั้นตอนการดำเนินการเริ่มจากศาลรัฐธรรมนูญได้รับการร้องขอจากศาลชั้นต้นหรือจากกลุ่มบุคคลที่ข้อร้องเรียนได้รับการพิจารณาจากศาลชั้นต้น ให้พิจารณากฎหมายดังกล่าว) อนึ่ง ศาลรัฐธรรมนูญยังเป็นองค์กรที่มีหน้าที่ตัดสินความถูกต้องทางกฎหมายของกระบวนการถอดถอนเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐ ได้แก่ ประธานาธิบดี นายกรัฐมนตรี และผู้พิพากษา รวมทั้งมีอำนาจสั่งยุบพรรคการเมืองตามข้อเสนอของฝ่ายบริหาร หากพบว่าพรรคการเมืองดังกล่าวดำเนินกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย

พรรคการเมือง

เมื่อ ธันวาคม พ.ศ. 2538 เกิดการรวมตัวของ 3 พรรคใหญ่ คือ

  1. พรรค Democratic Justice Party-DJP
  2. พรรค Reunification Democratic Party-RDP และ
  3. พรรค New Democratic Republican Party-NDRP และตั้งชื่อว่าพรรค New Korean Party-NKP

ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อ ธ.ค. 2540 ได้เกิดพรรคใหม่คือ

  1. พรรค Grand National Party -GNP (ซึ่งเป็นการรวมตัวของพรรค NKP กับพรรค New Party by the People)
  2. พรรค Millennium Democratic Party-MDP ซึ่งมีนาย คิม แด จุง เป็นหัวหน้าพรรค และ
  3. พรรค United Liberal Democrats-ULD ซึ่งมีนาย คิม จอง พิล เป็นหัวหน้าพรรค

โดยพรรค MDP กับพรรค ULD ได้ร่วมกันส่งนายคิม แด จุง เข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดี และได้รับชัยชนะ โดยนาย คิม จอง พิล ได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี แต่ต่อมาพรรค ULD ได้ถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล ปัจจุบันมีพรรคฝ่ายค้าน (Grand National Party-GNP) และพรรครัฐบาล (Millennium Democratic Party-MDP) และพรรคฝ่ายค้านเสียงส่วนน้อย (United Liberal Democrats-ULD) ทั้งนี้ พรรคฝ่ายค้าน GNP สามารถคุมเสียงข้างมากเด็ดขาดในสภารวม 139 ที่นั่ง ทั้งนี้เมื่อ 15 เม.ย. 2547 มีการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาเกาหลีใต้สมัยที่ 17 โดยเป็นการเลือกสมาชิกรัฐสภาทั้งสิ้น 299 ที่นั่งประกอบด้วยการเลือกตั้งโดยตรง 243 ที่นั่ง และจากสัดส่วนพรรค (party list) 56 ที่นั่ง ผลการนับคะแนนอย่างเป็นทางการพรรค Uri ได้คะแนนเสียงข้างมากส่งผลให้พรรค Uri กลายเป็นฝ่ายครองเสียงข้างมากในรัฐสภาเกาหลีใต้อย่างไรก็ตาม พรรค Uri ได้พ่ายแพ้ในการเลือกตั้งซ่อม 6 ครั้งในเดือนเมษายน 2548 ทำให้พรรค Uri ไม่ได้ครองเสียงข้างมากในสภาอีกต่อไป นอกจากนี้ ยังได้แพ้ในการเลือกตั้งซ่อมในเดือนตุลาคม 2548 อีก ทำให้เสถียรภาพของรัฐบาลมีปัญหามากขึ้น


กระทรวง

สาธารณรัฐเกาหลีมีกระทรวง 17 กระทรวง โดยแต่ละกระทรวงจะมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเป็นหัวหน้า โดยได้รับการแต่งตั้งจากประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐเกาหลี และต้องรายงานงานต่างๆให้กับนายกรัฐมนตรีแห่งสาธารณรัฐเกาหลี
ในบางกระทรวงอาจมีหน่วยงานเทียบเท่าในสังกัด ซึ่งจะทำงานขึ้นตรงต่อทั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงนั้นๆและนายกรัฐมนตรีแห่งสาธารณรัฐเกาหลีด้วย

รายชื่อกระทรวง

ลำดับที่ชื่อกระทรวงภาษาไทยชื่อกระทรวงภาษาอังกฤษชื่อกระทรวงภาษาเกาหลีอักษรย่อ
1กระทรวงยุทธศาสตร์ และการคลังMinistry of Strategy and Finance기획재정부MOSF
2กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีสารสนเทศ และการวางแผนอนาคตMinistry of Science, ICT and Future Planning미래창조과학부MSIP
3กระทรวงศึกษาธิการMinistry of Education교육부MOE
4กระทรวงการต่างประเทศMinistry of Foreign Affairs외교부MOFA
5กระทรวงรวมชาติMinistry of Unification통일부MOU
6กระทรวงยุติธรรมMinistry of Justice법무부MOJ
7กระทรวงกลาโหมMinistry of National Defense국방부MND
8กระทรวงความปลอดภัย และการบริการสาธารณะMinistry of Security and Public Administration안전행정부MOSPA
9กระทรวงวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยวMinistry of Culture, Sports and Tourism문화체육관광부MCST
10กระทรวงการเกษตร อาหาร และกิจการชนบทMinistry of Agriculture, Food and Rural Affairs농림축산식품부MAFRA
11กระทรวงพาณิชย์ อุตสาหกรรม และพลังงานMinistry of Trade, Industry and Energy산업통상자원부MOTIE
12กระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการMinistry of Health and Welfare보건복지부MOHW
13กระทรวงสิ่งแวดล้อมMinistry of Environment환경부ME
14กระทรวงการจ้างงาน และแรงงานMinistry of Employment and Labor고용노동부MOEL
15กระทรวงความเสมอภาพทางเพศ และครอบครัวMinistry of Gender Equality and Family여성가족부MOGEF
16กระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐาน และคมนาคมMinistry of Land, Infrastructure and Transport국토교통부MOLIT
17กระทรวงมหาสมุทรและประมงMinistry of Oceans and Fisheries해양수산부MOF

แหล่งที่มา

WikiPedia: ประเทศเกาหลีใต้ http://www.boston.com/news/nation/washington/artic... http://www.britannica.com/nations/South http://www.buddhismtoday.com/english/world/country... http://www.christianitytoday.com/ct/2006/003/16.28... http://archives.cnn.com/2001/WORLD/asiapcf/east/03... http://findarticles.com/p/articles/mi_m2096/is_200... http://findarticles.com/p/articles/mi_qa3693/is_20... http://news.naver.com/news/read.php?mode=LSD&offic... http://www.straitstimes.com/Breaking+News/World/St... http://2001-2009.state.gov/g/drl/rls/irf/2008/1084...