ฟรันซิสโก เปาลีโน เอร์เมเนคิลโด เตโอดูโล ฟรังโก อี บาอามอนเด ซัลกาโด ปาร์โด (
สเปน: Francisco Paulino Hermenegildo Teódulo Franco y Bahamonde Salgado Pardo) และ
เอลเกาดิโย หรือ "ท่านผู้นำ" (El Caudillo) (เกิด
4 ธันวาคม พ.ศ. 2435 - ถึงแก่อสัญกรรม
20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2518) เป็นจอมพลและผู้เผด็จการ
ชาวสเปนในช่วงปี
พ.ศ. 2479-
2518 เกิดที่
เมืองเอลเฟร์โรล แคว้นกาลิเซีย ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของ
ประเทศสเปน จบการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยโตเลโดในปี
พ.ศ. 2453 ได้รับประสบการณ์ในการรบเป็นอย่างมากใน
สงครามโมร็อกโก และได้เป็นนายพลที่หนุ่มที่สุดของประเทศสเปนเมื่อปี
พ.ศ. 2469 ระหว่างสมัย
สาธารณรัฐสเปนที่ 2 (
พ.ศ. 2474-
2479) ฟรังโกได้เป็นผู้นำทำการปราบปรามกบฏชาวเหมืองอัสตูรีอัส และในปี พ.ศ. ได้รับการแต่งตั้งเป็นหัวหน้าคณะเสนาธิการทหารในปี
พ.ศ. 2479 ฟรังโกได้เข้าร่วมสมรู้ร่วมคิดกับฝ่ายกบฏเพื่อต่อต้านรัฐบาล (เลือกตั้งเมื่อ
พ.ศ. 2479) และลงมือก่อการกบฏเมื่อวันที่ 17-18 กรกฎาคมซึ่งได้กลายเป็นชนวน
สงครามกลางเมืองสเปน (
พ.ศ. 2479-
2482) ความเป็นผู้นำของฟรังโกในกองทัพ
แอฟริกาที่สำคัญยิ่งและความใกล้ชิดสนิทสนมกับ
อิตาลีและ
เยอรมนีซึ่งเข้าข้างฝ่ายกบฏ ทำให้ฟรังโกกลายเป็นนายพลผู้บัญชาการกองกำลังฝ่ายกบฏและเป็นประมุขประเทศของคณะรักชาติ ระหว่างเดือนตุลาคม 2479 - เมษายน 2482 ฟรังโกได้เป็นผู้นำคณะชาติสู่ชัยชนะ และนับแต่นั้นมาก็ได้วางรากฐานระบอบเผด็จการที่ยั่งยืนมาจนถึงวันสิ้นชีวิต ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 ระยะแรกฟรังโกยืนอยู่ข้างเยอรมนีและอิตาลีในลักษณะผู้ไม่เข้าร่วมประกาศสงครามมากว่าการเป็นประเทศไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด แต่อย่างไรก็ดี ในปี พ.ศ. 2486 ฟรังโกได้ปรับเปลี่ยนนโยบาย นำเอาสเปนออกจากการเกี่ยวข้องกับ
ฝ่ายอักษะได้อย่างชาญฉลาด ระหว่าง พ.ศ. 2492-2502 การต่อต้าน
คอมมิวนิสต์ของฟรังโกทำให้สเปนสามารถเชื่อมสัมพันธไมตรีได้เป็นอย่างดีกับฝ่ายอำนาจตะวันตกด้วยวิสัยทัศน์ที่มองไกล ในปี
พ.ศ. 2512 จอมพลฟรังโกได้ประกาศให้เป็นที่ทราบโดยทั่วกันว่า หากตนสิ้นชีวิตไปแล้ว ขอให้มีการสถาปนาระบอบกษัตริย์ขึ้นมาใหม่โดยให้มีการปราบดาภิเษก "
เจ้าชายควน การ์โลส" พระราชนัดดาของกษัตริย์องค์สุดท้ายขึ้นครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์สเปนสืบต่อไป ภายในระยะเวลาเพียง 2 ปี หลังท่านได้ถึงแก่อสัญกรรมนั้น ความเป็นเผด็จการของสเปนได้หายไปอย่างที่อาจเรียกได้เกือบไม่มีร่องรอยให้เห็น