ภาวะไม่รู้ใบหน้า หรือ
ภาวะเสียการระลึกรู้ใบหน้า (
อังกฤษ: prosopagnosia,
ภาษากรีก prosopon = หน้า, agnosia = ไม่รู้) หรือ
ภาวะบอดใบหน้า (
อังกฤษ: face blindness) เป็นความผิดปกติของ
การรับรู้ใบหน้า โดยที่สมรรถภาพในการรู้จำ
ใบหน้าเกิดความเสียหาย ในขณะที่การประมวลข้อมูลอื่นๆ ทางสายตาเช่นการแยกแยะวัตถุ และประสิทธิภาพในด้านความคิดอื่นๆเช่นการตัดสินใจ ไม่มีปัญหาอะไร ศัพท์นี้ดั้งเดิมหมายถึงอาการที่เกิดขึ้นที่เกิดจากความเสียหายในสมองอย่างรุนแรง (คือภาวะบอดใบหน้าเกิดภายหลัง) แต่ว่า แบบที่มี
ความผิดปกติแต่กำเนิด (คือมีความผิดปกติในช่วงพัฒนา) ก็เกิดขึ้นได้เหมือนกัน และอาจจะเกิดขึ้นกับจำนวนประชากรถึง 2.5 %
[1]เขตในสมองที่เกี่ยวข้องกับภาวะบอดใบหน้าก็คือ
รอยนูนรูปกระสวย (fusiform gyrus)
[2] ซึ่งมีกิจเฉพาะคือการตอบสนองต่อใบหน้า เพราะความเชี่ยวชาญเฉพาะอย่างเช่นนี้ คนโดยมากจึงสามารถรู้จำใบหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ มากกว่าสามารถรู้จำวัตถุที่มีความซับซ้อนในระดับใกล้เคียงกัน แต่สำหรับผู้มีภาวะบอดใบหน้า สมรรถภาพในการรู้จำใบหน้าต้องอาศัยระบบประสาทที่รู้จำวัตถุ ที่มีความว่องไวต่อการรู้จำใบหน้าที่น้อยกว่าแม้ว่าจะได้มีการพยายามเพื่อหาวิธีรักษา แต่ก็ไม่มีการรักษาใดๆ ที่ช่วยผู้มีภาวะบอดใบหน้าให้มีอาการดีขึ้นในการใช้ชีวิตประจำวันทุกๆ คน ผู้มีภาวะนี้มักจะต้องใช้วิธีการรู้จำใบหน้าโดยการสังเกตเป็นส่วนๆ คือสังเกตลักษณะของส่วนประกอบใบหน้าไปทีละอย่าง และอาจจะต้องใช้ตัวช่วยอย่างอื่นเช่น เสื้อผ้า ท่าเดิน สีผม รูปร่าง และเสียง และเพราะว่าใบหน้าดูเหมือนจะมีความสำคัญใน
ระบบความจำ ผู้มีภาวะนี้อาจจะมีปัญหาในการจำข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับบุคคล และในการเข้าสังคมภาวะบอดใบหน้าบางครั้งเกิดขึ้นพร้อมกับความผิดปกติอย่างอื่น ที่เกี่ยวข้องกับเขตสมองที่อยู่ใกล้ๆ กับ
เขตรับรู้ใบหน้า ตัวอย่างเช่น
[3]ภาวะบอดใบหน้ามี 2 ประเภท ได้แก่ แบบที่เกิดภายหลัง และแบบที่มี
ความผิดปกติแต่กำเนิด (คือมีความผิดปกติในช่วงพัฒนา) แบบที่เกิดภายหลัง เป็นผลของความเสียหายที่รอยต่อของ
สมองกลีบขมับและ
สมองกลีบท้ายทอย (occipito-temporal junction) (ดู
สมุฏฐานและเขตสมองที่เกี่ยวข้อง) ที่มักจะพบในผู้ใหญ่ แบบนี้ยังแบ่งออกเป็น
แบบวิสัญชาน (apperceptive) และ
แบบสัมพันธ์ (associative) ส่วนผู้มีภาวะ
แบบที่มีความผิดปกติแต่กำเนิด จะมีการพัฒนาที่ไม่สมบูรณ์ของการรู้จำใบหน้า
[4]