การแปร ของ ภาษาสเปน

สัทวิทยา

ภาษาสเปนที่ใช้ในภาคเหนือและภาคกลางของประเทศสเปนประกอบด้วยหน่วยเสียงพยัญชนะ 19 ตัว (ตามที่กล่าวไปแล้ว) แต่ภาษาสเปนที่ใช้ในประเทศอื่น ๆ จะมีหน่วยเสียงพยัญชนะเพียง 17 หน่วยเสียง และบางแห่งมี 18 หน่วยเสียง นอกจากนี้ยังประกอบด้วยเสียงแปรอีกเป็นจำนวนมาก ความแตกต่างที่สำคัญในด้านสัทวิทยาระหว่างภาษาสเปนในภูมิภาคต่าง ๆ ซึ่งส่วนใหญ่มาจากความแตกต่างเรื่องเสียงพยัญชนะนั้นมีดังต่อไปนี้

  • การแทนที่เสียง [θ] ด้วยเสียง [s] ในประเทศสเปน (ยกเว้นหมู่เกาะคะแนรีและแคว้นอันดาลูซิอา) จะแยกความแตกต่างระหว่างเสียง [θ] (เขียนแทนด้วย ‹z› หรือ ‹c› เมื่ออยู่หน้า ‹e› และ ‹i›) กับเสียง [s] เช่น casa (‘บ้าน’) ออกเสียง [ˈkäsä], caza (‘การล่าสัตว์’) ออกเสียง [ˈkäθä] ขณะที่ในหมู่เกาะคะแนรี แคว้นอันดาลูซิอา และทวีปอเมริกาจะไม่มีความแตกต่างดังกล่าว เช่น casa และ caza จะออกเสียงว่า [ˈkäsä] ทั้งคู่
  • การแทนเสียง [ʎ] ด้วยเสียง [ʝ] หรือ [ɟʝ] เดิม ‹ll› ออกเสียงเป็น [ʎ] แต่ปัจจุบันเสียงนี้ถูกกลืนเข้ากับเสียงของ ‹y› กล่าวคือ พยัญชนะทั้งสองตัวจะออกเสียงเดียวกันเป็น [ʝ ~ ɟʝ] ทำให้เกิดความสับสนระหว่างการใช้พยัญชนะทั้งสองตัวนี้ เช่น คำว่า yendo บางครั้งมีผู้สะกดผิดเป็น *llendo เป็นต้น ปรากฏการณ์นี้เรียกว่า "เยอิสโม" (yeísmo) เกิดในพื้นที่ส่วนใหญ่ของโลกที่ใช้ภาษาสเปน ยกเว้นในพื้นที่บางแห่งของทวีปอเมริกาซึ่งใช้ภาษานี้ร่วมกับภาษาอื่นที่มีการแยกความแตกต่างทางเสียงระหว่างพยัญชนะสองตัวนี้ เช่น พื้นที่สองภาษาอย่างเขตภาษาสเปน-เกชัวหรือเขตภาษาสเปน-กวารานีในประเทศโบลิเวียและปารากวัย เป็นต้น รวมทั้งในพื้นที่หลายแห่งของสเปนซึ่งยังคงมีการแยกความแตกต่างของเสียงพยัญชนะทั้งสองตัวอยู่ แต่ก็เริ่มลดลงแล้ว
  • หน่วยเสียงสระที่เกิดจากการสูญเสียง /s/ ท้ายพยางค์ ทางภาคใต้ของประเทศสเปน โดยเฉพาะในแคว้นมูร์เซียและภาคตะวันออกของแคว้นอันดาลูซิอา เสียงพยัญชนะ /s/ ที่อยู่ท้ายคำจะออกเสียงเบาลงเป็น [h] หรืออาจไม่ออกเสียงเลย ดังนั้น ในการออกเสียงสระที่ปรากฏหน้าหน่วยเสียงพยัญชนะนี้ ระดับของลิ้นจึงลดต่ำลงจากตำแหน่งปกติ[153] เกิดเป็นเสียงสระเพิ่มขึ้นจากที่มีอยู่เดิม 5 ตัวในภาษาสเปนถิ่นเหนือ ดังต่อไปนี้
/as/ > [æ̞] เช่น más [mæ̞] (‘อีก’)/es/ > [ɛ] เช่น mes [mɛ] (‘เดือน’)/is/ > [i̞] เช่น mis [mi̞] (‘ของฉัน พหูพจน์’)/os/ > [ɔ] เช่น tos [tɔ] (‘ไอ’)/us/ > [u̞] เช่น tus [tu̞] (‘ของเธอ พหูพจน์’)

ไวยากรณ์

การใช้สรรพนาม vos

การใช้ vos กับกริยา pedir (‘สั่ง’) บนป้ายโฆษณา
ในเอลซัลวาดอร์การใช้ vos กับกริยา querer (‘ต้องการ’) และ venir (‘มา’) บนป้ายโฆษณาในอาร์เจนตินา

ภาษาสเปนมีสรรพนามบุรุษที่ 2 เอกพจน์ 3 ตัว ได้แก่ usted, tú และอีกตัวหนึ่งซึ่งใช้กันแพร่หลายในทวีปอเมริกา คือ vos โดยทั่วไปนั้น tú และ vos เป็นสรรพนามที่ไม่เป็นทางการ (‘เธอ’) คือผู้พูดจะใช้กับเพื่อนหรือคนในครอบครัว ส่วน usted (‘คุณ, ท่าน’) เป็นสรรพนามที่ถือว่าเป็นทางการในทุกแห่ง โดยใช้ในทำนองแสดงความนับถือเมื่อพูดกับคนที่มีอายุมากกว่าหรือคนที่ไม่สนิท

โบเซโอ (voseo) หมายถึงการใช้ vos เป็นสรรพนามบุรุษที่ 2 เอกพจน์แทน tú นอกจากนี้ยังมีความหมายครอบคลุมถึงการใช้รูปผันกริยาของ vos กับสรรพนาม tú ในการกประธานอีกด้วย[154] เช่น ภาษาสเปนในประเทศชิลี[155] เป็นต้น

รูปกรรมตามหลังบุพบทของสรรพนาม tú คือ ti จะถูกแทนที่ด้วย vos เช่นกัน กล่าวคือ vos จะเป็นได้ทั้งรูปประธานและรูปกรรมตามหลังบุพบท ดังนั้น para ti (‘เพื่อเธอ’) จึงกลายเป็น para vos ส่วนรูปประสมบุพบท-สรรพนามอย่าง contigo (‘กับเธอ’) จะกลายเป็น con vos แต่รูปกรรมตรงและกรรมรอง te ยังคงรูปเดิม ไม่เหมือนกรณี vosotros (‘พวกเธอ’) ที่ใช้รูปกรรมตรงและกรรมรอง os นอกจากนี้ รูปสรรพนามแสดงความเป็นเจ้าของของ vos ก็ใช้รูปเดียวกับ tú คือ ‹tu(s), tuyo(s) และ tuya(s)› แทนที่จะใช้ร่วมกับ vosotros เป็น ‹vuestro(s) และ vuestra(s)›

ตารางข้างล่างนี้แสดงการเปรียบเทียบรูปคำกริยาหลายตัวที่ผันกับประธาน tú และประธาน vos ส่วนแถวสุดท้ายคือรูปคำกริยาที่ผันกับประธาน vosotros ซึ่งเป็นรูปสรรพนามบุรุษที่ 2 พหูพจน์ที่ปัจจุบันใช้ในประเทศสเปนเท่านั้น รูปผันที่มีเครื่องหมายลงน้ำหนักเด่นชัดกำกับอยู่ (คือรูปผันของ vos และ vosotros) และรูปกริยากลาง เมื่อออกเสียงจะลงน้ำหนักที่พยางค์สุดท้าย ส่วนรูปผันของกริยากับประธาน tú จะลงน้ำหนักที่พยางค์รองสุดท้าย

รูปกริยากลางความหมายVos
(ทั่วไป)
Vos
(เวเนซุเอลา)
Vos/Tú
(ชิลี)
Vosotros
  hablar‘พูด’hablashabláshabláishabláihabláis
  comer‘กิน’comescoméscoméiscomíscoméis
  poder‘สามารถ’puedespodéspodéispodíspodéis
  vivir‘อยู่อาศัย’vivesvivísvivísvivísvivís
  ser‘เป็น, อยู่’eressossoissoi/eríssois
  haber‘มี’hashas/habéshabéishabís/haihabéis
  venir‘มา’vienesvenísvenísvenísvenís

รูปผันกริยาทั่วไปของประธาน vos หมายถึงรูปผันที่ได้รับการยอมรับโดยทั่วไปและใช้กันในหลายประเทศ ได้แก่ อาร์เจนตินา อุรุกวัย ปารากวัย พื้นที่หลายแห่งในโบลิเวีย เอกวาดอร์ โคลอมเบีย อเมริกากลาง ไปจนถึงรัฐทางภาคใต้ของเม็กซิโก

ในทางกลับกัน ภาษาสเปนที่ใช้กันในรัฐซูเลีย ซึ่งเป็นพื้นที่รอบทะเลสาบมาราไกโบทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศเวเนซุเอลา มีลักษณะเด่นคือ ในการผันกริยากับประธาน vos จะยังคงรักษารูปผันที่มีมาแต่เดิมเอาไว้ ซึ่งรูปผันดังกล่าวในปัจจุบันยังคงใช้ผันกับประธาน vosotros ในประเทศสเปน

รูปผันกริยาของประธาน vos ในภาษาสเปนของประเทศชิลียังมีความแตกต่างออกไปอีก กล่าวคือ แทนที่จะตัด -i- ออกจากรูปสระประสม -áis (และ -ois) ที่อยู่ท้ายคำเหมือนกับการผันทั่วไป แต่กลับตัดตัว -s ท้ายคำออกไปแทน (เช่น vos/tú soi/erís, vos/tú estái) และในกรณีที่รูปผัน
นั้นลงท้ายด้วย -ís จะยังคงตัว -s ไว้เหมือนเดิม (เช่น comís, podís, vivís, erís, venís) โดยที่พยัญชนะ ‹s› จะไม่ถูกละไปเสียทีเดียวในการออกเสียง แต่จะได้ยินเป็นเสียง [h][156]

เป็นที่น่าสังเกตว่า ลักษณะของโบเซโอสำหรับภาษาสเปนในประเทศชิลีจะเป็นการใช้ประธาน tú ตามด้วยรูปผันกริยาของ vos (voseo verbal)[156] เช่น  sabís มากกว่าจะใช้ประธาน vos ตามด้วยรูปผันกริยาของ vos (voseo pronominal) เช่น vos sabís ทั้งนี้เนื่องจากโบเซโอในลักษณะหลังจะปรากฏในสถานการณ์ที่ไม่เป็นทางการอย่างมากและอาจถือว่าหยาบคายได้ในบางกรณี[156]

ความนิยมในการใช้สรรพนาม vos ในประเทศต่าง ๆ
สีน้ำเงินเข้ม: ประเทศที่ใช้ vos ทั้งในการพูดและเขียน
สีน้ำเงิน: ประเทศที่ใช้ vos เป็นหลักเช่นกัน แต่ไม่เข้มข้นเท่าในพื้นที่สีน้ำเงินเข้ม
สีเขียว: ประเทศที่มีการใช้ vos มากน้อยแล้วแต่ท้องถิ่น
สีฟ้า: ประเทศที่มีการใช้ vos น้อยมาก
สีแดง: ประเทศที่ไม่ปรากฏการใช้ vos
ความแพร่หลายในลาตินอเมริกา

สรรพนาม vos ใช้เป็นสรรพนามบุรุษที่ 2 เอกพจน์ อย่างกว้างขวางในภาษาสเปนสำเนียงริโอเดลาปลาตา (ประเทศอาร์เจนตินาและอุรุกวัย) ในปารากวัย กัวเตมาลา นิการากัว และคอสตาริกา ผู้คนในโบลิเวีย ฮอนดูรัส และเอลซัลวาดอร์ก็ใช้สรรพนามตัวนี้ในชีวิตประจำวันเช่นกัน แต่ในสามประเทศนี้ สื่อยังคงนิยมใช้สรรพนาม tú

โดยทั่วไป vos จะไม่ใช้ในงานเขียนที่เป็นทางการ (ยกเว้นในอาร์เจนตินาและอุรุกวัย) ในเอลซัลวาดอร์ การ์ตูนในหนังสือพิมพ์มักจะใช้สรรพนาม vos โดยแทบจะไม่พบการใช้สรรพนามตัวนี้ในบทความอื่นเลย นอกจากในข้อความที่ผู้เขียนยกมากล่าวอ้าง (quotation) แต่สื่อต่าง ๆ (โดยเฉพาะป้ายประกาศและสื่อโฆษณา) เริ่มหันมาใช้สรรพนามตัวนี้แทนที่ tú มากขึ้นในอเมริกากลาง เช่น นิการากัวและฮอนดูรัส ส่วนอาร์เจนตินาและอุรุกวัยยังใช้ vos เป็นรูปสรรพนามมาตรฐานในสื่อโทรทัศน์อีกด้วย

ในประเทศโบลิเวีย ภาคเหนือและภาคใต้ของเปรู เอกวาดอร์ พื้นที่บางแห่งแถบเทือกเขาแอนดีสในเวเนซุเอลา พื้นที่ส่วนใหญ่ของโคลอมเบีย และภาคตะวันออกของคิวบา ถือว่า tú เป็นรูปสรรพนามที่ใช้ในภาษาระดับทางการ โดย vos จะเป็นรูปสรรพนามที่ผู้คนทั่วไปใช้กันมากกว่า[156] ส่วนในประเทศชิลี รัฐซูเลียของเวเนซุเอลา ชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกของโคลอมเบีย อเมริกากลาง ไปจนถึงรัฐตาบัสโกและรัฐเชียปัสทางภาคใต้ของเม็กซิโก จะใช้สรรพนาม tú ในระดับกึ่งทางการ และใช้สรรพนาม vos ในระดับกันเอง[156]

อย่างไรก็ตาม ในลาตินอเมริกาก็ยังมีพื้นที่ที่ใช้สรรพนาม tú ในฐานะสรรพนามบุรุษที่ 2 เอกพจน์เป็นหลักอยู่เช่นกัน ได้แก่ ประเทศคิวบา สาธารณรัฐโดมินิกัน ปวยร์โตรีโก พื้นที่เกือบทั้งหมดของเม็กซิโกและปานามา พื้นที่ส่วนใหญ่ของเปรูและเวเนซุเอลา และชายฝั่งทะเลแคริบเบียนของโคลอมเบีย[156]

การใช้สรรพนาม ustedes

ในภาษาสเปนยังมีความแตกต่างในเรื่องการใช้สรรพนามบุรุษที่ 2 พหูพจน์ ในลาตินอเมริกามีสรรพนามดังกล่าวเพียงรูปเดียวที่ใช้ในชีวิตประจำวัน คือ ustedes ซึ่งใช้ทั้งในเชิงทางการและไม่ทางการ (= ‘พวกคุณหรือพวกเธอ’) ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ แต่บางครั้งอาจพบ vosotros (= ‘พวกเธอ’) ในบทร้อยกรองหรือวรรณกรรมที่ใช้สำนวนโวหารต่าง ๆ เช่นกัน

ในสเปน การใช้สรรพนามบุรุษที่ 2 พหูพจน์จะแบ่งออกเป็น ustedes (ทางการ) และ vosotros (กันเอง) โดยสรรพนาม vosotros เป็นรูปพหูพจน์ของสรรพนาม tú นั่นเอง แต่ในทวีปอเมริกา รวมทั้งบางเมืองทางภาคใต้ของสเปน (เช่น กาดิซหรือเซบิยา) และหมู่เกาะคะแนรี สรรพนาม vosotros จะถูกแทนด้วย ustedes เป็นที่น่าสังเกตว่าการใช้ ustedes ในความหมายว่า ‘พวกเธอ’ ทางภาคใต้ของสเปนนั้นไม่เป็นไปตามกฎการผันกริยา (ซึ่งแสดงความสอดคล้องระหว่างสรรพนามกับกริยา) เช่น ขณะที่ประโยค ustedes van (‘พวกคุณไป’) ใช้รูปผันกริยาสำหรับประธานสรรพนามบุรุษที่ 3 พหูพจน์ (เป็นกฎการผันกริยาตามปกติ) แต่ในเมืองกาดิซและเซบิยาเมื่อพูดว่า ‘พวกเธอไป’ จะใช้ ustedes vais ซึ่งเป็นรูปผันกริยาที่ตามกฎแล้วจะใช้กับ vosotros เท่านั้น ส่วนในหมู่เกาะคะแนรี การผันกริยาจะเป็นไปตามปกติคือ ustedes van ไม่ว่าจะหมายถึง ‘พวกเธอไป’ หรือ ‘พวกคุณไป’

คำศัพท์

มีคำภาษาสเปนเป็นจำนวนมากที่มีความหมายและรูปแบบการใช้แตกต่างกันไปตามแต่ละประเทศ ผู้พูดภาษาสเปนส่วนใหญ่จะรู้จักคำที่มีความหมายอย่างเดียวกันในรูปเขียนอื่น แม้จะเป็นคำที่ไม่ได้ใช้กันทั่วไปก็ตาม แต่ชาวสเปนส่วนใหญ่มักไม่เข้าใจการใช้คำที่มีรูปเขียนเดียวกันในความหมายอื่น ๆ ของผู้พูดภาษาสเปนในทวีปอเมริกา เช่น คำว่า mantequilla, aguacate และ albaricoque ในประเทศสเปน (แปลว่า ‘เนย’, ‘อะโวคาโด’ และ ‘แอพริคอต’ ตามลำดับ) มีความหมายตรงกับคำว่า manteca, palta และ damasco ในประเทศอาร์เจนตินา ชิลี เปรู ปารากวัย และอุรุกวัย[157][158][159] คำที่ใช้กันตามปกติในสเปนอย่าง coger (‘เก็บ, หยิบ’) และ concha (‘เปลือกหอย’) กลายเป็นคำที่มีความหมายหยาบโลนในลาตินอเมริกา เพราะที่นั่น coger จะหมายถึง ‘มีเพศสัมพันธ์’[160] ส่วน concha หมายถึง ‘อวัยวะเพศหญิง’[161]

ตัวอย่างอื่น ๆ ได้แก่ คำว่า ตาโก taco ซึ่งมีความหมายหนึ่งแปลว่า ‘คำสบถ’ ในสเปน[162] แต่ทั่วโลกรู้จักคำนี้ในฐานะชื่ออาหารเม็กซิโกชนิดหนึ่ง คำว่า pinche ซึ่งในปวยร์โตรีโกแปลว่า ‘กิ๊บติดผม’ ถือเป็นคำไม่สุภาพในเม็กซิโก (ความหมายทำนองเดียวกับ ‘damn’ ในภาษาอังกฤษ) ส่วนในเอลซัลวาดอร์ นิการากัว และคอสตาริกาแปลว่า ‘ขี้เหนียว’[163] คำว่า coche ซึ่งในสเปนหมายถึง ‘รถยนต์’ นั้น ในกัวเตมาลาจะหมายถึง ‘หมู’ หรือ ‘สกปรก’[164] ขณะที่ carro ซึ่งหมายถึง ‘รถยนต์’ ในลาตินอเมริกาบางประเทศ[165] กลับหมายถึง ‘เกวียน’ ในประเทศอื่น ๆ รวมทั้งสเปน และคำว่า papaya ซึ่งโดยทั่วไปแปลว่า ‘มะละกอ’ แต่ในคิวบา คำนี้เป็นสแลงแปลว่า ‘ช่องคลอด’[166] ดังนั้นเมื่อต้องการจะพูดถึงผลไม้จริง ๆ ชาวคิวบาจะเรียกว่า frutabomba[167]

นอกจากนี้ วัยรุ่นในประเทศที่พูดภาษาสเปนก็มีคำสแลงสำหรับใช้เรียกเพื่อนสนิท (ในทำนองเดียวกับที่วัยรุ่นอเมริกันนิยมใช้คำว่า ‘dude’) แต่คำที่ใช้เรียกนั้นแตกต่างกันออกไปในแต่ละประเทศ เช่น güey, mano, หรือ carnal ในเม็กซิโก,[168] cuate ในกัวเตมาลาและฮอนดูรัส,[169] mae ในคอสตาริกา,[170] tío ในสเปน, tipo ในโคลอมเบีย, huevón ในชิลี[171] และ chabón ในอาร์เจนตินา คำเหล่านี้จะใช้ในวงจำกัดกับเพื่อนที่สนิทจริง ๆ เท่านั้น เพราะค่อนข้างหยาบคายและบางคำมีความหมายดั้งเดิมในเชิงดูหมิ่น

หน่วยงานควบคุมการใช้ภาษา

ราชบัณฑิตยสถานสเปน (Real Academia Española) ร่วมกับบัณฑิตยสถานภาษาสเปนในชาติที่ใช้ภาษานี้เป็นหลักอีก 21 แห่ง (รวมทั้งในสหรัฐอเมริกา) ใช้อำนาจที่มีในการสร้างมาตรฐานทางภาษาผ่านสิ่งพิมพ์ต่าง ๆ ทั้งพจนานุกรม ตำราไวยากรณ์ และหลักเกณฑ์การใช้ภาษา เนื่องจากอิทธิพลดังกล่าวประกอบกับเหตุผลทางสังคมวิทยาและประวัติศาสตร์ จึงทำให้ภาษาสเปนมาตรฐาน (Standard Spanish; Neutral Spanish) ได้รับการยอมรับอย่างเป็นวงกว้างทั้งในการผลิตงานวรรณกรรม บทความวิชาการ และสื่อหลายแขนง

แหล่งที่มา

WikiPedia: ภาษาสเปน http://www.argentina.gov.ar/argentina/portal/pagin... http://www.indec.mecon.ar/nuevaweb/cuadros/2/proye... http://www.turismobolivia.bo/loader_es.php?n1=1&n2... http://www.mre.gov.br/portugues/imprensa/nota_deta... http://www.governmentofbelize.gov.bz/ab_people.htm... http://www12.statcan.ca/francais/census06/data/top... http://www.mainframe.cl/diccionario/diccionario.ph... http://www.sernatur.cl/internacional/?lang=1 http://www.cna.gov.co/cont/documentos/legislacion/... http://www.dane.gov.co/reloj/reloj_animado.php