คำศัพท์ ของ ภาษาสเปน

ตัวอย่างคำสเปนที่มาจากภาษาอาหรับ
คำสเปนคำอาหรับความหมาย
aceiteazzayt[86]น้ำมัน
aceitunazaytūnah[87]มะกอก
alcaldeqāḍī ("ผู้พิพากษา")[88]นายกเทศมนตรี
alcoholkuḥl[89]แอลกอฮอล์
aldeaḍay‘ah[90]หมู่บ้าน
almohadamiẖaddah[91]หมอน
alquilerkirā'[92]การเช่า
asesinoḥaššāšīn
("คนติดกัญชา")[93]
ผู้ลอบสังหาร
azafránza‘farān[94]หญ้าฝรั่น
espinacaisbānaẖ[95]ผักโขม
hastaḥattá[96]จนกระทั่ง
jazmínyāsamīn[97]มะลิ
marfil‘aẓm alfíl[98]งาช้าง
rehénrihān[99]ตัวประกัน, เชลย
zanahoriasafunnárya[100]แครอต

คำศัพท์ภาษาสเปนที่ใช้ในชีวิตประจำวันประมาณร้อยละ 94 มีที่มาจากภาษาละติน ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องปกติและไม่น่าแปลกใจเนื่องจากภาษานี้เป็นภาษาหนึ่งในกลุ่มภาษาโรมานซ์ อย่างไรก็ตาม เช่นเดียวกับภาษาอื่น ภาษาสเปนยังมีคำยืมจากภาษาของชนชาติต่าง ๆ ที่ผู้ใช้ภาษาสเปนและบรรพบุรุษของผู้ใช้ภาษาสเปนได้เข้าไปมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องด้วยอย่างใกล้ชิดตลอดระยะเวลากว่าพันปี

ในภาษาสเปน ปรากฏคำศัพท์จำนวนหนึ่งที่ได้รับอิทธิพลมาจากภาษาของกลุ่มคนสมัยก่อนโรมันบนคาบสมุทรไอบีเรีย (ภาษาไอบีเรีย, บาสก์, เคลต์ หรือตาร์เตสโซส) เช่น gordo ("อ้วน"), izquierdo ("ซ้าย"),[101] nava ("ที่ราบลุ่มระหว่างภูเขา"),[102] conejo ("กระต่าย")[103]

ภาษาของชาววิซิกอท (ชนเผ่าเยอรมันที่ปกครองคาบสมุทรไอบีเรียต่อจากจักรวรรดิโรมัน) ก็มีอิทธิพลต่อคลังคำศัพท์ภาษาสเปนอยู่ไม่น้อย ตัวอย่างได้แก่ ชื่อแรกเกิดทางศาสนาคริสต์ เช่น Enrique, Gonzalo, Rodrigo เป็นต้น นามสกุลที่มาจากชื่อเหล่านั้น คือ Enríquez, González
และ Rodríguez คำศัพท์บางคำที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น brotar ("งอก/ออกดอก"),[104] ganar ("ชนะ"),[105] ganso ("ห่าน"),[106] ropa ("เสื้อผ้า")[107] คำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับการทหาร เช่น yelmo ("หมวกเหล็กที่ใส่กับชุดเกราะ"),[108] espía ("สายลับ"),[109] guerra ("สงคราม")[110] เป็นต้น รวมทั้งหน่วยคำเติมหลัง -engo เช่นในคำว่า realengo ("ของรัฐ") เป็นต้น

นอกจากนี้ การครอบครองคาบสมุทรไอบีเรียเป็นเวลาเกือบ 800 ปีของชาวมุสลิมยังเปิดโอกาสให้ภาษาสเปนรับคำศัพท์จำนวนมากจากภาษาอาหรับเข้ามาใช้ โดยเฉพาะคำที่ขึ้นต้นด้วย al- แม้กระทั่งหน่วยคำเติมหลัง -í ที่ใช้แสดงสัญชาติของประเทศหรือดินแดนบางแห่งก็มีที่มาจากภาษานี้เช่นกัน ตัวอย่างได้แก่ ceutí ("ชาวเซวตา"), iraquí ("ชาวอิรัก"), israelí ("ชาวอิสราเอล") เป็นต้น

ในคริสต์ศตวรรษที่ 16 เริ่มมีการยืมคำศัพท์ในแวดวงศิลปะจากภาษาอิตาลีมาใช้ในภาษาสเปน รวมทั้งมีการยืมคำศัพท์จากภาษาชนพื้นเมืองในทวีปอเมริกาอีกด้วย เช่น ภาษานาวัตล์ ภาษาอาราวัก และภาษาเกชัว เป็นต้น ซึ่งส่วนมากเป็นคำที่เกี่ยวข้องกับพืช ประเพณี หรือปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดขึ้นกับดินแดนนั้น ได้แก่ batata ("มันเทศ"),[111] papa ("มันฝรั่ง"),[112] yuca ("มันสำปะหลัง"),[113] cacique ("ผู้มีอำนาจในท้องถิ่น"),[114] huracán ("เฮอร์ริเคน"),[115] cacao ("โกโก้"),[116] chocolate ("ช็อกโกแลต") เป็นต้น

ในคริสต์ศตวรรษที่ 17 เริ่มมีความนิยมในการใช้ศัพท์สูงและสำนวนโวหารที่มีความหมายและโครงสร้างไวยากรณ์ซับซ้อน เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากงานเขียนในรูปแบบดังกล่าวของลุยส์ เด กองโกรา กวียุคบารอกของสเปน จนกระทั่งคริสต์ศตวรรษที่ 18 จึงมีการยืมคำศัพท์จากภาษาฝรั่งเศสมาใช้ โดยเฉพาะคำที่เกี่ยวข้องกับแฟชั่น การทำอาหาร และการปกครองของชนชั้นขุนนาง เช่น pantalón ("กางเกงขายาว"),[117] puré ("ซุปเคี่ยวเปื่อยแล้วกรอง"),[118] tisú ("ผ้าเส้นทองหรือเงิน"),[119] menú ("รายการอาหาร"),[120] maniquí ("หุ่น"),[121] restorán/restaurante ("ภัตตาคาร"),[122] buró ("โต๊ะทำงาน/คณะกรรมการบริหาร"),[123] carné ("บัตรประจำตัว"),[124] gala ("ชุดหรูหรา"),[125] bricolaje ("งานช่างในบ้านที่ทำได้ด้วยตัวเอง")[126] เป็นต้น

ในคริสต์ศตวรรษที่ 19 ยังคงมีการนำคำศัพท์ใหม่ ๆ เข้ามาใช้ในภาษาสเปนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะคำศัพท์จากภาษาอังกฤษและภาษาเยอรมัน แต่ก็มีคำศัพท์จากภาษาอิตาลีเข้ามาอีกครั้งเช่นกันในสาขาการทำอาหารและการดนตรี (โดยเฉพาะการแสดงอุปรากร) เช่น batuta ("ไม้บาตอง"),[127] soprano ("โซปราโน"),[128] piano[129][130] เป็นต้น และตั้งแต่เริ่มคริสต์ศตวรรษที่ 20 เป็นต้นมา คลังคำศัพท์ของภาษาสเปนได้รับอิทธิพลจากภาษาอังกฤษอย่างมากในทุกสาขา โดยเฉพาะด้านธุรกิจ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ดนตรี และการกีฬา เช่น marketing,[131] quasar,[132] Internet,[133] software,[134] rock,[135] reggae,[136] set,[137] penalti,[138] fútbol,[139] windsurf[140] เป็นต้น

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ ราชบัณฑิตยสถานสเปนได้พยายามหลีกเลี่ยงการใช้คำยืมและคำทับศัพท์โดยใช้ตัวสะกดตามภาษาต้นฉบับ แต่กำหนดให้ใช้คำแปลตรงตัวของคำที่ยืมมานั้น หรือใช้ตัวสะกดที่สอดคล้องกับอักขรวิธีดั้งเดิมของภาษาสเปนและยังออกเสียงได้ใกล้เคียงกับเสียงในภาษาต้นฉบับแทน เช่น zum แทน zoom,[141] correo electrónico แทน e-mail,[142] fútbol แทน football,[139] escáner แทน scanner,[143] mercadotecnia แทน marketing[144] เป็นต้น แม้ว่าข้อเสนอดังกล่าวนั้นส่วนใหญ่จะได้รับการตอบรับอย่างดีจากสังคม แต่บางคำที่เคยเสนอให้ใช้ เช่น "cadi" แทน caddie, "best-séller" แทน best seller, "yaz" แทน jazz เป็นต้น กลับไม่ได้รับการยอมรับและหายไปจากพจนานุกรมในที่สุด[145][146]

โดยทั่วไปในปัจจุบัน ภาษาสเปนในทวีปอเมริกา (โดยเฉพาะประเทศเม็กซิโก) มักมีการยืมคำศัพท์หรือรูปแบบโครงสร้างของคำศัพท์และสำนวนต่าง ๆ มาจากภาษาอังกฤษเข้ามาใช้ เนื่องจากมีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับสหรัฐอเมริกา ในขณะที่ภาษาสเปนในประเทศสเปน จะนิยมโครงสร้างคำศัพท์จากภาษาของประเทศเพื่อนบ้านอย่างฝรั่งเศสมากกว่า ตัวอย่างเช่น ผู้ใช้ภาษาสเปนบนคาบสมุทรไอบีเรียจะเรียกคอมพิวเตอร์ว่า ordenador โดยยืมรูปคำ ordinateur จากภาษาฝรั่งเศสมาปรับใช้ ตรงข้ามกับผู้ใช้ภาษาสเปนในทวีปอเมริกา กล่าวคือ จะใช้คำว่า computadora หรือ computador ซึ่งเป็นการดัดแปลงรูปคำของคำว่า computer นั่นเอง

แหล่งที่มา

WikiPedia: ภาษาสเปน http://www.argentina.gov.ar/argentina/portal/pagin... http://www.indec.mecon.ar/nuevaweb/cuadros/2/proye... http://www.turismobolivia.bo/loader_es.php?n1=1&n2... http://www.mre.gov.br/portugues/imprensa/nota_deta... http://www.governmentofbelize.gov.bz/ab_people.htm... http://www12.statcan.ca/francais/census06/data/top... http://www.mainframe.cl/diccionario/diccionario.ph... http://www.sernatur.cl/internacional/?lang=1 http://www.cna.gov.co/cont/documentos/legislacion/... http://www.dane.gov.co/reloj/reloj_animado.php