การกระจายทางภูมิศาสตร์ ของ ภาษาอังกฤษ

มีผู้พูดภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่หนึ่งราว 360 ล้านคน ปัจจุบัน ภาษาอังกฤษอาจเป็นภาษาที่มีผู้พูดเป็นภาษาแม่มากที่สุดเป็นอันดับสาม รองจากภาษาจีนกลางและภาษาสเปน[4] อย่างไรก็ดี เมื่อรวมผู้ที่พูดภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่และมิใช่ภาษาแม่แล้ว ภาษาอังกฤษก็อาจเป็นภาษาที่มีผู้พูดมากที่สุดในโลก แม้อาจน้อยกว่าผู้พูดภาษาจีนรวมกัน (ขึ้นอยู่กับว่านับรวมเป็น "ภาษา" หรือนับแยกเป็น "ภาษาถิ่น")[25][26]

การประมาณซึ่งรวมผู้พูดเป็นภาษาที่สองนั้นแปรผันอย่างมากตั้งแต่ 470 ล้านคน ถึงกว่าหนึ่งพันล้านคน ขึ้นอยู่กับว่านิยามและวัดการรู้หนังสือหรือความชำนาญอย่างไร[27][28] เดวิด คริสทอล (David Crystal) ศาสตราจารย์ด้านภาษาศาสตร์ คำนวณว่าผู้ที่พูดมิใช่ภาษาแม่นั้นมีมากกว่าผู้พูดเป็นภาษาแม่เป็นสัดส่วน 3 ต่อ 1[29]

ประเทศที่มีประชากรผู้พูดภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่มากที่สุด ได้แก่ สหรัฐอเมริกา (226 ล้านคน)[30] สหราชอาณาจักร (61 ล้านคน)[31] แคนาดา (18.2 ล้านคน)[32] ออสเตรเลีย (15.5 ล้านคน)[33] ไนจีเรีย (3-5 ล้านคน)[34] ไอร์แลนด์ (3.8 ล้านคน)[31] แอฟริกาใต้ (3.7 ล้านคน)[35] และนิวซีแลนด์ (3.6 ล้านคน) ตามลำดับ ข้อมูลมาจากสำมะโนปี 2549[36]

หลายประเทศ อย่างฟิลิปปินส์ จาเมกาและไนจีเรียยังมีผู้พูดภาษาถิ่นต่อเนื่อง (dialect continuum) เป็นภาษาแม่อีกหลายล้านคน ซึ่งมีตั้งแต่ภาษาครีโอล (creole language) อิงภาษาอังกฤษไปจนถึงภาษาอังกฤษรุ่นที่เป็นมาตรฐานมากกว่า ประเทศอินเดียเป็นประเทศที่มีผู้พูดภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สองมากที่สุด คริสทอลอ้างว่า เมื่อรวมผู้พูดภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่และไม่เป็นภาษาแม่รวมกัน ปัจจุบัน ประเทศอินเดียมีประชากรที่พูดหรือเข้าใจภาษาอังกฤษมากกว่าประเทศใดในโลก[37][38]

ประเทศที่ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก

ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักในแองกวิลลา แอนติกาและบาร์บูดา ออสเตรเลีย บาฮามาส บาร์บาโดส เบลีซ เบอร์มิวดา บริติชอินเดียนโอเชียนเทร์ริทอรี หมู่เกาะบริติชเวอร์จิน แคนาดา หมู่เกาะเคย์แมน ดอมินีกา หมู่เกาะฟอล์คแลนด์ ยิบรอลตาร์ เกรนาดา กวม เกิร์นซีย์ กายอานา ไอร์แลนด์ เกาะแมน จาไมกา เจอร์ซีย์ มอนต์เซอร์รัต นาอูรู นิวซีแลนด์ หมู่เกาะพิตแคร์น เซนต์เฮเลนา อัสเซนชัน และตริสตันดากูนยา เซนต์คิตส์และเนวิส เซนต์วินเซนต์และเกรนาดีนส์ สิงคโปร์ เกาะเซาท์จอร์เจียและหมู่เกาะเซาท์แซนด์วิช ตรินิแดดและโตเบโก หมู่เกาะเติกส์และหมู่เกาะเคคอส สหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกา

ในบางประเทศซึ่งภาษาอังกฤษมิใช่ภาษาที่มีผู้พูดมากที่สุด แต่เป็นภาษาราชการ ได้แก่ บอตสวานา แคเมอรูน สหพันธรัฐไมโครนีเซีย ฟิจิ แกมเบีย กานา อินเดีย เคนยา คิริบาส เลโซโท ไลบีเรีย มอลตา หมู่เกาะมาร์แชลล์ มอริเชียส นามิเบีย ไนจีเรีย ปากีสถาน ปาเลา ปาปัวนิวกินี ฟิลิปปินส์ รวันดา เซนต์ลูเชีย ซามัว เซเชลส์ เซียร์ราลีโอน หมู่เกาะโซโลมอน ศรีลังกา ซูดาน เซาท์ซูดาน สวาซิแลนด์ แทนซาเนีย ยูกันดา แซมเบียและซิมบับเว นอกจากนี้ยังมีบางประเทศที่ภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการร่วมในบางดินแดน เช่น กลุ่มเกาะซันอันเดรส โปรบีเดนเซีย และซันตากาตาลีนาของโคลอมเบีย และมัสคีโทโคสท์ของนิการากัว ซึ่งเป็นผลจากการยึดเป็นอาณานิคมของอังกฤษในพื้นที่

ภาษาอังกฤษยังเป็นหนึ่งใน 11 ภาษาราชการที่ได้รับสถานภาพเท่ากันในแอฟริกาใต้ ภาษาอังกฤษยังเป็นภาษาราชการในดินแดนในภาวะพึ่งพิงปัจจุบันของออสเตรเลีย (เกาะนอร์ฟอล์ก เกาะคริสต์มาสและเกาะโคคอส) และสหรัฐอเมริกา (อเมริกันซามัว กวม หมู่เกาะนอร์เทิร์นมาเรียนา เปอร์โตริโก และหมู่เกาะเวอร์จินของสหรัฐอเมริกา และอดีตอาณานิคมอังกฤษ ฮ่องกง

แม้รัฐบาลกลางสหรัฐอเมริกาจะไม่มีภาษาราชการ แต่ภาษาอังกฤษได้รับสถานะราชการโดยรัฐบาลของ 30 จาก 50 รัฐ แม้จะมิได้ระบุสถานะราชการ ภาษาอังกฤษยังเป็นภาษาสำคัญในอดีตอาณานิคมและรัฐในอารักขาของสหราชอาณาจักรหลายแห่ง เช่น บาห์เรน บังกลาเทศ บรูไน ไซปรัส มาเลเซียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

ภาษาอังกฤษในฐานะภาษาสากล

ภาษาอังกฤษมักถูกเรียกว่าเป็น "ภาษาสากล" เพราะมีการพูดอย่างกว้างขวาง และแม้จะมิใช่ภาษาราชการในประเทศส่วนใหญ่ แต่ปัจจุบัน มีการสอนภาษาอังกฤษเป็นภาษาต่างประเทศมากที่สุด ตามสนธิสัญญาระหว่างประเทศ ภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการของการสื่อสารการบิน[39]และในทะเล[40] ภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการของสหประชาชาติและองค์การระหว่างประเทศอีกหลายแห่ง ซึ่งรวมถึงคณะกรรมการโอลิมปิกสากล

ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่มีการศึกษาเป็นภาษาต่างประเทศมากที่สุดในสหภาพยุโรป ถึง 89% ในเด็กวัยเรียน นำหน้าภาษาฝรั่งเศสที่ 32% ขณะที่การรับรู้ประโยชน์ของภาษาต่างประเทศในบรรดาชาวยุโรป คือ 68% สนับสนุนภาษาอังกฤษ มากกว่าภาษาฝรั่งเศสที่ 25%[41] ในบรรดาบางประเทศสหภาพยุโรปที่ไม่พูดภาษาอังกฤษ ประชากรผู้ใหญ่จำนวนมากอ้างว่าสามารถสนทนาภาษาอังกฤษได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สวีเดน 85%, เดนมาร์ก 83%, เนเธอร์แลนด์ 79%, ลักเซมเบิร์ก 66% และในฟินแลนด์ สโลวีเนีย ออสเตรเลีย เบลเยียมและเยอรมนี กว่า 50%[42] ในปี 2555 หากไม่นับผู้พูดภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ ชาวยุโรป 38% มองว่าตนสามารถพูดภาษาอังกฤษ[43] แต่ชาวญี่ปุ่นเพียง 3% ที่มองเช่นนั้น[44]

หนังสือ นิตยสารและหนังสือพิมพ์ที่เขียนเป็นภาษาอังกฤษพบได้ในหลายประเทศทั่วโลก และภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ใช้มากที่สุดในแวดวงวิทยาศาสตร์ โดยดัชนีการอ้างอิงวิทยาศาสตร์รายงานเมื่อปี 2540 ว่า บทความของดัชนีฯ 95% เขียนในภาษาอังกฤษ แม้เพียงครึ่งหนึ่งจะมาจากผู้ประพันธ์ในประเทศที่พูดภาษาอังกฤษ

วรรณกรรมภาษาอังกฤษคิดเป็น 28% ของวรรณกรรมทั้งหมดที่ตีพิมพ์ทั่วโลก และคิดเป็น 30% ของเนื้อหาเว็บในปี 2554 (จาก 50% ในปี 2543)[44]

การใช้ภาษาอังกฤษที่เพิ่มขึ้นทั่วโลกนี้ได้มีผลกระทบใหญ่หลวงต่อภาษาอื่นจำนวนมาก จนนำไปสู่ภาษาเปลี่ยนหรือกระทั่งภาษาตาย[45] และการอ้างจักรวรรดินิยมทางภาษา[46] ภาษาอังกฤษเองก็เปิดรับการเปลี่ยนแปลงทางภาษามากขึ้น เพราะความหลากหลายในภูมิภาคป้อนกลับไปยังภาษาโดยรวมเช่นกัน[46]

ใกล้เคียง

ภาษาอังกฤษ ภาษาอังกฤษเก่า ภาษาอังกฤษแบบออสเตรเลีย ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน ภาษาอังกฤษแบบบริติช ภาษาอังกฤษสมัยกลาง ภาษาอังกฤษแบบโบนิน ภาษาอังกฤษเพื่อการศึกษาแบบบูรณาการ ภาษาอังกฤษพื้นฐาน

แหล่งที่มา

WikiPedia: ภาษาอังกฤษ http://www.shlrc.mq.edu.au/~felicity/Papers/Prospe... http://www.censusdata.abs.gov.au/ABSNavigation/pre... http://www12.statcan.ca/english/census06/data/high... http://www.idsia.ch/~juergen/nobelshare.html http://www.idsia.ch/~juergen/scilang.html http://www.economist.com/world/europe/displayStory... http://www.eilj.com/index.php?option=com_phocadown... http://books.google.com/?id=0J2VOzNYtKQC http://books.google.com/?id=6lQTPxdYx8kC http://books.google.com/?id=LMZm0w0k1c4C