ภาษาอีโด (Ido,
/ˈiːdoʊ/) เป็น
ภาษาประดิษฐ์ สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นภาษาสากลในการช่วยสื่อสารระหว่างผู้คนเชื้อชาติต่าง ๆ โดยได้สร้างให้มีรูปแบบไวยากรณ์ที่ง่ายและเป็นไปตามกฎโดยไม่มีข้อยกเว้น ซึ่งแตกต่างจากภาษาอื่น ๆ และไม่ให้คล้ายกับ
ภาษาธรรมชาติภาษาใดมากเกินไปเพื่อไม่ให้เกิดความได้เปรียบในการเรียนรู้ภาษาอีโด ชื่อของภาษาสืบต้นตอจากศัพท์ภาษาเอสเปรันโตว่า ido หมายถึง "ลูกหลาน"
[1]ภาษาอีโดได้เริ่มมีการพัฒนาในช่วงต้นคริสต์ทศวรรษ 1900 ดัดแปลงมาจาก
ภาษาเอสเปรันโต โดยมีการปรับปรุงข้อบกพร่องต่าง ๆ ของภาษาเอสเปรันโตให้ดีขึ้น และได้นำออกมาใช้งานใน พ.ศ. 2450 โดย
องค์การภาษาช่วยสื่อสารนานาชาติ และได้รับการสนับสนุนจากผู้พูดภาษาเอสเปรันโตราว 20%
[2]ภาษาอีโดใช้
อักษรละติน 26 ตัวเช่นเดียวกับ
ภาษาอังกฤษ ไม่มี
เครื่องหมายเสริมสัทอักษร โดยนำคำศัพท์จากภาษาอังกฤษ, ฝรั่งเศส, เยอรมัน, อิตาลี, ละติน, รัสเซีย, สเปน และโปรตุเกส และผู้เรียนภาษาเอสเปรันโตสามารถเข้าใจภาษานี้ได้มากมีวรรณกรรมหลายเรื่องที่แปลเป็นภาษาอีโด
[3] เช่น
เจ้าชายน้อย,
[4] หนังสือเพลงสดุดี และ
พระวรสารนักบุญลูกา[5] ใน ค.ศ. 2000 มีผู้พูดภาษาอีโดเป็นภาษาแม่ประมาณ 100–200 คนทั่วโลก ถึงแม้ว่าจะมีการประมาณการแบบใหม่จะสูงถึง 1,000-5,000 คนก็ตาม
[6][7] ใน ค.ศ. 2020 มีผู้พูดภาษาอีโดเป็นภาษาแม่ใน
ประเทศฟินแลนด์ 24 คน
[8]