ภาษีธุรกิจเฉพาะ

ภาษีธุรกิจเฉพาะ (อังกฤษ: specific business tax) เป็นภาษีทางอ้อมที่เก็บจากฐานบริโภคทั่วไปภายในประเทศไทย โดยจะจัดเก็บจากการประกอบกิจการเฉพาะอย่าง และเริ่มใช้บังคับใน พ.ศ. 2535 พร้อมกับภาษีมูลค่าเพิ่ม แทนภาษีการค้าที่ถูกยกเลิกไป{{ภาษีธุรกิจเฉพาะผู้มีหน้าที่เสียภาษีธุรกิจเฉพาะผู้มีหน้าที่เสียภาษีธุรกิจเฉพาะ คือ บุคคลธรรมดา คณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล หรือนิติบุคคล ซึ่งกิจการที่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ ได้แก่1. การธนาคาร2. การประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ ธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์3. การรับประกันชีวิต4. การรับจำนำ5. การประกอบกิจการโดยปกติเยี่ยงธนาคารพาณิชย์6. การขายอสังหาริมทรัพย์เป็นการค้าหรือหากำไร7. การขายหลักทรัพย์8. การประกอบกิจการอื่นการยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะ1. กิจการที่ประกอบธุรกิจที่เหมือนกับธุรกิจเฉพาะบางประเภท ซึ่งได้รับการ ยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะมีดังต่อไปนี้1) กิจการของธนาคารแห่งประเทศไทย ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร2) กิจการของบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย3) กิจการของสหกรณ์ออมทรัพย์ เฉพาะการให้กู้ยืมเงินแก่สมาชิกหรือแก่สหกรณ์ออมทรัพย์อื่น4) กิจการของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ5) กิจการของการเคหะแห่งชาติ6) กิจการรับจำนำของกระทรวง ทบวง กรม และราชการส่วนท้องถิ่น7) กิจการตามที่กำหนดโดยพระราชกฤษฎีกา (ฉบับที่ 240) พ.ศ. 2534 และ (ฉบับที่ 303) พ.ศ. 25402. รายรับที่ไม่ต้องนำไปรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ มี 2 กรณีดังต่อไปนี้1) กรณีการประกอบกิจการวิเทศธนกิจของธนาคารพาณิชย์ ได้รับการ ยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะส่วนรายรับสำหรับกิจการธนาคาร พระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 10) พ.ศ. 2500 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 259) พ.ศ. 2535 และประกาศกระทรวงการคลัง เรื่องการประกอบกิจการวิเทศธนกิจของธนาคารพาณิชย์2) กรณีประกอบกิจการโดยปกติเยี่ยงธนาคารพาณิชย์ กรมสรรพากรวางแนวทางปฏิบัติตามคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 26/2534 กำหนดให้รายรับกรณีดอกเบี้ยสำหรับกิจการเยี่ยงธนาคารพาณิชย์ไม่ต้องนำมาคำนวณเพื่อเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ รายรับกรณีดังนี้(1) กรณีบริษัทในเครือเดียวกันให้กู้ยืมกันเอง ไม่ว่าจะนำเงินของตนหรือนำเงินที่กู้ยืมจากบุคคลอื่นมาให้กู้ยืมในระหว่างกันเอง และไม่ว่าจะคิดดอกเบี้ยในอัตราเท่าใดก็ตาม ดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นจากการกู้ยืมเงินในกรณีนี้ไม่ต้องนำมารวมคำนวณเป็นรายรับเพื่อเสียภาษีธุรกิจเฉพาะคำว่า “บริษัทในเครือเดียวกัน” หมายความว่าบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลตั้งแต่สองนิติบุคคลขึ้นไปซึ่งมีหุ้นส่วนนิติบุคคลอีกแห่งหนึ่งไม่น้อยกว่าร้อยละ 25 ของหุ้นทั้งหมดที่มีสิทธิออกเสียงในบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้นเป็นเวลาไม่น้อยกว่าหกเดือนก่อนวันที่มีการกู้ยืม(2) กรณีบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนำเงินทุน เงินกู้ยืม เงินเพิ่มทุน หรือเงินที่อื่นที่เหลืออยู่ไปฝากธนาคารหรือซื้อตั๋วเงินของสถาบันการเงินอื่นโดยได้รับดอกเบี้ยตามอัตราปกติ ดอกเบี้ยนั้นเป็นรายรับที่ไม่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ แม้ว่าบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้นจะประกอบกิจการโดยปกติเยี่ยงธนาคารพาณิชย์ก็ตามตามข้อ (1) และ (2) ไม่รวมถึงการประกอบกิจการธนาคาร กิจการธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ ธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ และการรับประกันชีวิตตามกฎหมายว่าด้วยการประกันชีวิต(3) กรณีบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลมีระเบียบเกี่ยวกับเงินกองทุนสะสมพนักงานหรือทุนอื่นใดเพื่อพนักงาน และบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลได้นำเงินกองทุนนี้ออกให้พนักงานที่เป็นสมาชิกกู้ยืมเป็นสวัสดิการ โดยคิดดอกเบี้ยสำหรับเงินที่ให้กู้นั้นตามสมควร ไม่ต้องนำดอกเบี้ยนั้นรวมคำนวณเป็นรายรับเพื่อเสียภาษีธุรกิจเฉพาะฐานภาษีและอัตราภาษีธุรกิจเฉพาะกิจการ ฐานภาษี1. กิจการธนาคาร ธุรกิจเงินทุน - กำไรก่อนหักรายจ่ายใดๆ จากการ3.02. กิจการรับประกันชีวิต3. กิจการโรงรับจำนำ- เงิน ทรัพย์สิน ค่าตอบแทน หรือ2.54. การค้าอสังหาริมทรัพย์กิจการ ฐานภาษี5. การขายหลักทรัพย์ในตลาด6. การซื้อและขายคืน
7. ธุรกิจแฟ็กเตอริงการจดทะเบียนภาษีธุรกิจเฉพาะ1. การขายอสังหาริมทรัพย์ที่ต้องเสียธุรกิจเฉพาะ กรณีขายอสังหาริมทรัพย์ที่ ผู้ขายมีไว้ในการประกิจการ2. กรณีขายอสังหาริมทรัพย์ภายใน 5 ปี นับแต่วันที่ได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์3. การให้กู้ยืมเงินของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มิใช่ธนาคารพาณิชย์ ตามกฎหมายว่าด้วยการธนาคารพาณิชย์ หรือบริษัทเงินทุน บริษัทหลักทรัพย์ หรือบริษัทเครดิตฟองซิเอร์ ตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจดังกล่าว ซึ่งให้กู้ยืมเงินเป็นครั้งคราวมิใช่การประกอบกิจการเป็นปกติธุระ ในการจดทะเบียนภาษีธุรกิจเฉพาะผู้ประกอบการที่ประกอบกิจการอยู่ในกรุงเทพมหานครให้ยื่นคำขอจดทะเบียนต่อ สำนักงานภาษีสรรพากรพื้นที่ (สพท.) ในต่างจังหวัดให้ยื่น ณ ที่ว่าการอำเภอท้องที่ที่สถานประกอบการตั้งอยู่หรือสำนักงานสรรพากรจังหวัดในกรณีสถานประกอบกิจการตั้งอยู่ในเขตอำเภอเมืองแล้วแต่กรณีการยื่นแบบแสดงรายการและชำระภาษีผู้ประกอบกิจการมีหน้าที่เสียภาษีธุรกิจเฉพาะ โดยยื่นแบบแสดงรายการเพื่อเสียภาษีตามแบบ ภ.ธ. 40 ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป การยื่นแบบ ภ.ธ. 40 และชำระภาษี ให้ยื่น ณ ที่ว่าการอำเภอหรือเขตท้องที่สถานประกอบกิจการตั้งอยู่เอกสารหลักฐานและบัญชีที่ต้องจัดทำผู้ประกอบกิจการที่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะนอกจากต้องจดทะเบียนภาษีธุรกิจเฉพาะแล้วยังมีหน้าที่ต้องทำรายงานแสดงรายรับก่อนหักรายจ่าย ทั้งที่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะและที่ไม่ต้องเสียรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ โดยต้องจัดทำ รายงานแสดงเป็นรายวัน และรวมยอดเมื่อถึงสิ้นเดือนทุกเดือน รายงานแสดงรายรับก่อนหักรายจ่ายต้องจัดตามแบบที่อธิบดีกรมสรรพากรกำหนดเป็นรายสถานประกอบ กิจการ และการลงรายการต้องจัดทำให้แล้วเสร็จภายใน 3 วัน ทำการนับแต่วันที่มี รายรับรายงานที่ต้องจัดทำและหลักฐานประกอบกิจการจัดทำรายงานต้องเก็บรักษาไว้ไม่น้อยกว่า 5 ปี นับจากวันที่ได้ยื่นแบบแสดงรายการเสียภาษี โดยเก็บไว้ ณ สถาน-ประกอบการที่ได้จัดทำรายงาน หากผู้ประกอบกิจการจะเก็บรักษารายงานและ หลักฐานประกอบกิจการจัดทำรายงานไว้ ณ สถานที่อื่นจะต้องได้รับอนุมัติจากอธิบดี กรมสรรพากรก่อน
การบันทึกรายการเกี่ยวกับภาษีธุรกิจเฉพาะกิจการที่มีรายรับที่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะจะบันทึกรายการปรับปรุงภาษีธุรกิจเฉพาะค้างจ่ายของเดือนภาษีนั้นทุกเดือน หรือปรับปรุงรายการเฉพาะเดือนสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชีก็ได้ เพื่อให้การรับรู้รายการภาษีธุรกิจเฉพาะของรอบระยะเวลาบัญชีที่จะแสดงในงบกำไรขาดทุนครบถ้วน ส่วนกิจการค้าอสังหาริมทรัพย์ที่จ่ายภาษีธุรกิจเฉพาะพร้อมภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายและค่าธรรมเนียมอื่นๆ ในวันโอนกรรมสิทธิ์ ณ สำนักงานที่ดินจะต้องบันทึกรายการภาษีธุรกิจเฉพาะในวันที่โอนกรรมสิทธิ์}}

ใกล้เคียง

ภาษีธุรกิจเฉพาะ ภาษี ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ประเทศไทย) ภาษีอากรในประเทศไทย ภาษีเดี่ยว ภาษีอากรในประเทศออสเตรเลีย ภาษีทางอ้อม ภาษีสรรพสามิต ภาษีคาร์บอน