ประวัติภิกษุณีสงฆ์ในประเทศจีนปลายปีรัชกาลย่งเจีย(หย่งเกีย)แห่ง
ราชวงศ์จิ้น(พ.ศ.850-855) หญิงจีนมีนามว่า
จิ้งเจี่ยน ตัดสินใจปลงผม และขอรับศีล10 จากพระอุปัชฌาย์
พระชญาณเมรุ มีผู้หญิงจีนศรัทธาและเข้ารับการบรรพชาพร้อมเธอ24คน แล้วก่อตั้ง
อารามจู๋หลินซื่อ(เต๊กลิ้มยี่)แปลว่า วัดป่าไผ่ ขึ้นที่ประตูทางทิศตะวันตกของเมืองหลวง เนื่องจากบรรดา
สามเณรีเหล่านี้ไม่มี
ปวัตตินี เธอจึงศึกษาธรรมอยู่กับ
พระอาจารย์จิ้งเจี่ยน ซึ่งเป็นผู้มีความสามารถในการสั่งสอนอบรมพระอุปัชฌาย์นั้นคือ พระชญาณเมรุ สมณะจาก
แคว้นกาศมีระ(
แคชเมียร์)ในดินแดนทาง
ทิศตะวันตก ท่านเป็นอาจารย์ที่ปราดเปรื่องและมีเมตตาธรรม นอกจากนั้น ยังเป็นอาจารย์ฝ่าย
วิปัสสนาและมีความรู้ดีใน
พระสูตรต่างๆในปลายปีรัชกาลย่งเจีย แห่ง
ราชวงศ์จิ้น ท่านได้เดินทางมา
ประเทศจีน และยังชีพโดยการภิกขาจาร ท่านสั่งสอนธรรมและเผยแผ่คำสอนในพระพุทธศาสนา แต่ประชาชนในยุคนั้นยังไม่ค่อยศรัทธาในพระพุทธศาสนามากนัก จึงไม่ค่อยมีใครสนใจจะศึกษากับท่านอย่างจริงจัง ในปีแรกของปีรัชกาลเจี้ยนอู่(พ.ศ.860) ท่านจึงได้เดินทางกลับไปยังแคว้นกาศมีระ ต่อมาพระอาจารย์อีกรูปหนึ่งชื่อ
พุทธจิงค์ เดินทางจากประเทศอินเดียมายังประเทศจีนอีกและได้สรรเสริญถึงคุณธรรมและความสามารถของ
พระชญาณเมรุ ทำให้ประชาชนชาวจีนพากันเสียใจ และเสียดายโอกาสในความโง่เขลาของตนที่ไม่ได้เล่าเรียนพระพุทธศาสนาจากพระอาจารย์ผู้มีความสามารถในขณะที่ท่านอยู่ใน
ประเทศจีนขณะเดียวกัน
จิ้งเจี่ยน ก็อบรมสั่งสอนศิษย์อยู่ที่อารามแห่งเดิมนั้น เธอเป็นผู้มีท่วงทีงามสง่า คือการปฏิบัติในแนวทางสายกลางและเป็นผู้มีจริยาวัตรที่มั่นคงใน
ธรรม เธอมีความสามารถในการเทศน์สอนจนสามารถเอาชนะใจผู้ฟังได้ดีระหว่างปลายปีรัชกาล
เสียนคัง ในราชวงศ์จิ้น(พ.ศ.878-885)พระ
สมณะเซิงเจี้ยน ได้รับคัมภีร์ต้นฉบับมหาสังฆิกภิกษุณีกรรม และ ภิกษุณีปราติโมกข์ มาจากอาณาจักรง้วยสี และได้แปล(จากภาษาสันสกฤต)เป็นภาษาจีน ในวันที่8 เดือน2 ปีที่1 ในปีรัชกาลเซิงผิง(พ.ศ.900-904)ในเมืองลั่วหยาง พระอาจารย์ชาวต่างประเทศคือ พระ
สมณะธรรมคุปต์ได้กำหนดเขตสีมา
ศีลมณฑล เพื่อการบรรพชาอุปสมบท
ภิกษุณีขึ้น แต่พระอาจารย์จีนชื่อ
สมณะซือเต้าฉาง โต้แย้ง โดยอ้างว่าการกระทำดังกล่าวไม่ถูกต้องตามพระวินัยบัญญัติดังปรากฏใน
วินัยสูตร ดังนั้น จึงได้ตระเตรียมเรือลอยกลางแม่น้ำซื่อ จิ้งเจี่ยน พร้อมผู้หญิงอีก3คนจึงขึ้นไปบนเรือนั้น และได้รับศีลภิกษุณีจากพระภิกษุ นับเป็นหญิงจีนคนแรกที่ได้รับการบรรพชาอุปสมบทเป็นภิกษุณีในประเทศจีน