มนต์รักลูกทุ่ง เป็น
ภาพยนตร์ไทยที่สร้างมาจากบทประพันธ์เรื่อง "มนต์รักลูกทุ่ง" ของ
รังสี ทัศนพยัคฆ์ โดยใช้นามแฝงว่า "มหศักดิ์ สารากร" โดยมิตร ชัยบัญชา มีส่วนร่วมในเนื้อเรื่องด้วย คู่พระ-นาง คือไอ้คล้าว กับ ทองกวาว รับบทโดย
มิตร ชัยบัญชา กับ
เพชรา เชาวราษฎร์ ส่วนคู่รอง คือแว่น กับบุปผา รับบทโดย
ศรีไพร ใจพระ กับ
บุปผา สายชลภาพยนตร์เรื่องนี้ออกฉายเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2513 ทำรายได้ถล่มทลายจากทั่วประเทศถึง 13 ล้านบาทและฉายติดต่อกันนาน 6 เดือน
[1][2] ที่โรงภาพยนตร์โคลีเซียม จนถึงวันที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2513 ทำรายได้กว่า 7 ล้านบาทในครั้งนั้น เนื่องจากเนื้อหาสนุกสนานและมีกลิ่นอายของภาคอีสาน เปิดทางเพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงวงการภาพยนตร์ไทยจากระบบฟิล์ม 16 ม.ม. พากย์สด มาเป็นระบบฟิล์ม 35 ม.ม.ภาพยนตร์มนต์รักลูกทุ่งมีเพลงประกอบจากภาพยนตร์จำนวน 14 เพลง เป็น
เพลงลูกทุ่ง ซึ่งเพลงในภาพยนตร์ทั้ง 14 เพลงและภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างชื่อเสียงให้ทั้งดารานำ และนักร้องลูกทุ่งที่ร่วมแสดงในครั้งนั้นด้วย ได้แก่
ไพรวัลย์ ลูกเพชร,
บุปผา สายชล,
ศรีไพร ใจพระ และ
บรรจบ เจริญพร[3][
ต้องการแหล่งอ้างอิงดีกว่านี้]มนต์รักลูกทุ่งได้กลับมาฉายใหม่อีกครั้งในปี พ.ศ. 2515 และในปี พ.ศ. 2534 ฉายที่โรงภาพยนตร์แอมบาสเดอร์
[4] นอกจากนี้ หลังจากปี พ.ศ. 2535 เป็นต้นมา เมื่อถึงวันงานรำลึกมิตร ชัยบัญชา ก็มักจะมีเสียงร้องให้นำมนต์รักลูกทุ่ง (2513) กลับมาฉายอีก บางปีก็ฉายได้บางปีก็ฉายไม่ได้เพราะสภาพฟิล์มที่ใช้มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2535 เริ่มบอบช้ำอีกแล้ว แต่โครงการคิดถึงหนังไทยของพันธมิตรฟิล์มสามารถเจรจาขออนุญาตจากครูรังสีในการนำกลับมาทำเป็น VCD ได้สำเร็จในปี พ.ศ. 2544 จึงได้นำฟิล์มเนกาตีฟที่จัดพิมพ์ขึ้นใหม่ในปี พ.ศ. 2535 ไปเข้าเครื่องเทเลซีนที่บริษัท SOHO ASIA จำกัด เพื่อเปลี่ยนสภาพเป็นเทปมาสเตอร์ซึ่งในการเทเลซีนครั้งนั้น พันธมิตรฟิล์มจึงเรียนเชิญครูรังสีซึ่งตอนนั้นไปพักอยู่จังหวัดจันทบุรีมาดูการเทเลซีนหนังและสั่งการด้วยตนเอง
[5] จัดเป็นภาพยนตร์ไทย 1 ในจำนวน 25 เรื่องที่ได้ประกาศขึ้นทะเบียนมรดกภาพยนตร์ของชาติ โดย
หอภาพยนตร์แห่งชาติ[6]