มวยไทยเลิศฤทธิ์[2] หรือ
มวยไทยแบบทหาร (
อักษรย่อ: MMT) หรือ
ไฮไฟติงคิกบ็อกซิง เป็น
ศิลปะการต่อสู้ของ
ไทยที่ถูกคิดค้นโดย
อาจารย์วิสิทธิ์ เลิศฤทธิ์ มีการเรียนการสอนและใช้ใน
กองทัพบกไทย โดยเป็นรูปแบบการต่อสู้ซึ่งได้มาจากศิลปะ
มวยไทยโบราณ[1] ที่เลือกเทคนิครูปแบบต่าง ๆ จำนวนมากมาปรับใช้กับการต่อสู้ในระยะประชิด หลายเทคนิคได้มาจาก
แม่ไม้ (เทคนิคขั้นพื้นฐาน) และ
ลูกไม้มวยไทย (เทคนิคขั้นสูง) เช่นเดียวกับเทคนิคการทหาร ที่มุ่งเน้นอานุภาพความรุนแรง
[4]และเช่นเดียวกับศิลปะการต่อสู้ทั้งหมด ที่มีการใช้ร่างกายเป็นอาวุธอยู่หลายเทคนิค โดยเป็นศิลปะการต่อสู้ที่ใช้กระบวนหัตถ์เข้าปะทะ เช่น การใช้หมัดกับร่างกาย, การใช้ฝ่ามือโจมตีเข้าที่ศีรษะ, การใช้มือถือมีด และการตบเข้าบ้องหู ส่วนการเตะยังเป็นการใช้โจมตีเข้าที่หน้าขา, ซี่โครง และขาทั้งสองของศัตรู นอกจากนี้ ยังมีเทคนิคการกอดรัดที่ไม่ได้มาจากมวยไทยแบบดั้งเดิม หากแต่ดัดแปลงมาจากสมรภูมิการต่อสู้แบบผสม เช่น การเข้าจับขาทั้งสองของอีกฝ่ายให้นอนหงาย (Double Leg Scoop) และการทุ่มด้วยการขัดขาด้านหลังของอีกฝ่าย (Outside Leg Trip) สำหรับการป้องกันตัวจากอาวุธด้วยมือเปล่าจะมีความคล้ายคลึงกับรูปแบบของ
คราฟมากา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการป้องกันแบบ 360 องศาจากมีด, กระบอง และอื่น ๆ ซึ่งมวยไทยเลิศฤทธิ์ยังมีวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่องในการฝึกสอนให้แก่กองกำลังทหารของประเทศอื่น ๆ
[1]ปัจจุบันมวยไทยเลิศฤทธิ์จะมีการสอนกันอย่างเต็มรูปแบบภายในโรงเรียนเตรียมทหาร และที่
สมาคมพันธมิตรมวยไทยโลก (World Muay Thai Alliance Association) มีพลเอกธันวาคม ทิพยจันทร์ หนึ่งในลูกศิษย์รุ่นสุดท้ายเพียงไม่กี่คนที่ได้รับการถ่ายทอดวิชาโดยตรงจากอาจารย์วิสิทธิ์ เลิศฤทธิ์ เป็นผู้ดำเนินการสอน
[3]นอกจากประเทศไทย มวยไทยเลิศฤทธิ์ยังเป็นที่นิยมอย่างมากในทวีปยุโรป จากการตระเวนนำเสนอโดยภาคบุคคล เช่น
อาจารย์มาร์โก เด เชซาริส จากประเทศอิตาลี
[1]มีการกล่าวกันว่า ตัวละครเกมต่อสู้
สตรีทไฟท์เตอร์ อย่าง
เวก้า (เอ็ม.ไบสัน ในเวอร์ชันภาษาอังกฤษ) เป็นผู้นำวิชามวยไทยเลิศฤทธิ์มาใช้ในการต่อสู้เช่นกัน
[5]