ประวัติ ของ ราชวงศ์หมิง

การสถาปนาราชวงศ์หมิง

จูหยวนจางและกบฎโพกผ้าแดง

ดูบทความหลักที่: กบฎโพกผ้าแดง
จูหยวนจาง หรือต่อมาคือ จักรพรรดิหงหวู่ ปฐมจักรพรรดิแห่งราชวงศ์หมิงธงประจำกองทัพราชวงศ์หมิง

ชาวมองโกลที่ปกครองราชวงศ์หยวนเป็นเวลาเกือบร้อยปี จนถึงช่วงปลายราชวงศ์หยวน เป็นช่วงเวลาราชสำนักมองโกลใช้นโยบายแบ่งแยกชนชั้นกดขี่ข่มเหงรังแกชาวฮั่น ประกอบกับมีการขึ้นการเก็บภาษีอย่างหนักหน่วงทั่วแผ่นดิน เกิดภาวะอัดคัดฝืดเคืองและได้เกิดอุทกภัยที่แม่น้ำฮวงโหเป็นผลมาจากการคัดค้านนโยบายสร้างเขื่อนชลประทานของชาวมองโกล ดังนั้นการเกษตรและเศรษฐกิจจึงอยู่ในภาวะตกต่ำ[6] และได้เกิดการก่อกบฎชาวนาขึ้นนับหมื่นโดยได้เรียกร้องให้ราชสำนักหยวนหาวิธีซ่อมเขื่อนกำแพงกั้นน้ำและแก้ไขปัญหาอุทกภัย[6] ราชสำนักหยวนกลับปฏิเสธอย่างไม่ใยดี ความไม่พอใจลุกลามไปทั่วแผ่นดินจนทำให้ชาวชาวฮั่นหลายกลุ่มได้ก่อกบฏต่อต้านราชวงศ์หยวนและฟื้นฟูราชวงศ์ของชาวฮั่น กลุ่มที่มีอิทธิพลที่สุดคือกบฏโพกผ้าแดงในปี ค.ศ.1351 กลุ่มโจรโพกผ้าแดงได้ร่วมมือกันเป็นเครือข่ายสมาคมลัทธิบัวขาวซึ่งเป็นสมาคมลับทางพุทธศาสนา

จู หยวนจาง ชาวนาที่สิ้นเนื้อประดาตัวและต่อมาได้บวชเป็นพระสงฆ์ในศาสนาพุทธได้ร่วมการก่อกบฎต้านราชวงศ์หยวนกับกลุ่มกบฎโพกผ้าแดงในปี ค.ศ. 1352 เขาได้เข้าสู้กับทหารมองโกลอย่างกล้าหาญจนทำให้เขาสร้างชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง ในปี ค.ศ. 1356 กองทัพกบฎโพกผ้าแดงได้เข้ายึดเมืองหนานจิงได้สำเร็จ[7]

เมื่อราชวงศ์หยวนกำลังใกล้จะล่มสลายกลุ่มกบฎได้ถือโอกาสเข้าต่อสู้แย่งชิงอำนาจกันเองเพื่อที่จะได้ปกครองแผ่นดินจีนทั้งหมด ในปี ค.ศ. 1363 กลุ่มผู้มีอำนาจตามท้องถิ่นได้ถือโอกาสตั้งตนเป็นอิสระแผ่นดินได้แตกออกเป็นเหล่าต่าง ๆ จู หยวนจาง ได้ปราบผู้ทรยศที่สำคัญคือ เฉิน โหย่วเลี่ยง สมาชิกกบฎโพกผ้าแดงที่ทรยศที่ตั้งตนเป็นอิสระสถาปนาพระตนขึ้นเป็นกษัตริย์แห่งฮั่น จู หยวนจางได้รวบรวมกำลังเข้าปราบเฉิน โหย่วเลี่ยงในยุทธการทะเลสาบโปหยาง ซึ่งมีการอภิปรายโดยนักวิชาการถือเป็นยุทธนาวีที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์จีน เป็นที่รู้จักในความพยายามใช้เรือปืนไฟของจู หยวนจาง ที่มีทหาร 200,000 คน สามารถเอาขาะทหารของเฉิน โหย่วเลี่ยงที่มีมากกว่าถึง 3 เท่า (มีการคาดการณ์ว่ามีประมาณ 650,000 คน)

ชัยชนะของจู หยวนจางได้ทำให้เขารวบรวมดินแดนแม่น้ำแยงซีมาครอบครองได้สำเร็จ หลังจากที่หัวหน้าของกบฎโพกผ้าแดงเสียชีวิตลงในปี ค.ศ. 1367 ทำให้กลุ้มกบฎเกิดภาวะขาดผู้นำโดยเหล่าสมาชิกปรึกษากันพบว่าไม่มีใครที่จะมีความสามารถพอที่จะขึ้นมาเป็นผู้นำได้อีก กลุ่มกบฎจึงคัดเลือกให้ จู หยวนจาง ขึ้นมาเป็นหัวหน้ากบฎในปีต่อมาเขาได้นำทัพกบฎบุกเข้าสู่กรุงต้าตู (ปักกิ่งในปัจจุบัน)[8] เมืองหลวงของราชวงศ์หยวน จักรพรรดิหยวนฮุ่ยจง จักรพรรดิเชื้อสายมองโกลองค์สุดท้ายถูกบีบให้ต้องลี้ภัยทิ้งเมืองหลวงหนีออกจากพระราชวัง โดย จู หยวนจางได้นำทัพขับไล่กองทัพมองโกลจนราชสำนักหยวนต้องหนีขึ้นไปทางเหนือและตั้งราชวงศ์หยวนเหนือ ส่วนจู หยวนจางได้ประกาศก่อตั้ง ราชวงศ์หมิง () ที่แปลว่า แสงสว่าง ประดุจอิสระของชาวฮั่นจากมองโกล ทำให้ชาวฮั่นกลับมามีอิสรภาพอีกครั้ง

หลังจากนั้นจู หยวนจางได้รื้อถอนพระราชวังของราชวงศ์หยวนเดิมลงที่ต้าตู[8] เมืองได้ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น "เป่ยผิง" ในปีเดียวกันจู หยวนจางได้ตั้งตนเป็นจักรพรรดิและได้สถาปนาตนเองเป็นจักรพรรดิหงหวู่ หรือหมิงไท่จู่ ปฐมจักรพรรดิราชวงศ์หมิง

แหล่งที่มา

WikiPedia: ราชวงศ์หมิง http://english.people.com.cn/english/200012/28/eng... http://jwsr.ucr.edu/archive/vol12/number2/pdf/jwsr... //www.worldcat.org/issn/1076-156X http://www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsI... https://books.google.com/books?id=8ePxMW066j8C&pg=... https://books.google.com/books?id=cwq4CwAAQBAJ&pg=... https://books.google.com/books?id=hUEswLE4SWUC&pg=... https://web.archive.org/web/20070222011511/http://... https://www.jstor.org/stable/4527509