แหล่งกำเนิดคำและคำจำกัดความ ของ ลัทธิกีดกันทางเพศ

“Sexism” เป็นคำที่เริ่มใช้กันราวกลางคริสต์ศตวรรษที่ 20[6] คือคติความเชื่อหรือทัศนคติต่อเพศใดเพศหนึ่งว่ามีความด้อยกว่าอีกเพศหนึ่ง และอาจจะหมายถึงความเกลียดชัง หรือ ความเดียดฉันท์ที่มีต่อเพศใดเพศหนึ่งทั้งหมด นอกจากนั้นก็ยังหมายถึงการใช้สามัญทัศน์ของความเป็นชาย (masculinity) ต่อชาย หรือ ความเป็นหญิง (femininity) ต่อหญิง[7] ที่เรียกว่ามีคุณลักษณะที่มี “อัตวิสัยเชิงเพศนิยม” (chauvinism) -- “อัตวิสัยเชิงบุรุษนิยม” (Male chauvinism) หรือ “อัตวิสัยเชิงสตรีนิยม” (Female chauvinism)

Fred R. Shapiro เชื่อว่าคำว่า "sexism" ถูกใช้ครั้งแรกเมื่อ 18 พฤศจิกายน ค.ศ. 1965 โดย Pauline M. Leet ในช่วงฟอรั่มนักเรียนและอาจารย์ "ที่ วิทยาลัย Franklin and Marshall[8][9]และครั้งแรกที่คำว่า "sexism" ปรากฏในการพิมพ์ อยู่ในสุนทรพจน์ของ Caroline Bird ในเรื่อง "On Being Born Female" ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน ค.ศ.1968 ใน Vital Speeches of the Day (หน้า 6)[10] ในสุนทรพจน์นี้  เธอกล่าวว่า "มีการยอมรับในต่างประเทศว่า เราอยู่ในประเทศที่เป็นเพศนิยม เพศนิยมเป็นตัดสินคนตามเพศของพวกเขาในเมื่อมีเพศไม่ไม่สำคัญ เพศนิยม(sexism)ตั้งใจให้คล้องกับการเหยียดผิว(racism)"[11]

การกีดกันทางเพศ คือ การแบ่งแยก มีอคติหรือค่านิยมบนพื้นฐานของเพศ มักส่งผลกับผู้หญิงและเด็กหญิง[1] ได้รับการระบุว่าเป็น "ความเกลียดชังของผู้หญิง" และ "ความอยุติธรรมต่อผู้หญิง"[12]

แหล่งที่มา

WikiPedia: ลัทธิกีดกันทางเพศ http://www.passports.gov.au/Web/passport_history.a... http://history-switzerland.geschichte-schweiz.ch/c... http://www.boston.com/news/globe/editorial_opinion... http://www.businessweek.com/careers/workingparents... http://edition.cnn.com/2011/12/13/world/meast/saud... http://www.cnn.com/2012/10/19/world/asia/australia... http://finduslaw.com/taxonomy_menu/12/23/13 http://fortune.com/2015/01/12/saks-transgender-fir... http://www.huffpostmaghreb.com/2013/08/13/raisons-... http://www.infoplease.com/ipa/A0931343.html