วงกตของยุคกลางและวงกตปริศนา ของ ลายวงกต

วงกตที่แอบบีแทร็พพิสต์, วอลโลเนีย, เบลเยียม

การออกแบบวงกตของยุคกลางมารุ่งเรืองที่สุดระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 12 ถึง 13 เมื่อมีการสร้างวงกตขนาดใหญ่บนพื้นมหาวิหารแบบกอธิคโดยเฉพาะที่มหาวิหารโนเทรอดามแห่งชาร์ทร์, มหาวิหารโนเทรอดามแห่งแรงส์ และ มหาวิหารโนเทรอดามแห่งอาเมียงส์ ทางตอนเหนือของฝรั่งเศส และที่มหาวิหารเซียนาในทัสกานีในอิตาลี วงกตเหล่านี้อเดิมอาจจะสร้างขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์นัยยะของกรุงเยรูซาเลม ผู้ทำการสักการะก็มักจะเดินสวดมนต์เวียนตามทางบนพื้นวงกต[16] แต่ก็ไม่มีหลักฐานสนับสนุนสมมุติฐานนี้[17]

วงกตบนพื้นมหาวิหารเชื่อกันว่าเป็นที่มาของการออกแบบวงกตหญ้า (Turf maze) ในอังกฤษเช่น “The Old Maze” ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 40 ฟุตที่วิง, รัทแลนด์ที่เชื่อกันว่าสร้างมาตั้งแต่ยุคกลาง หรือวงกตหญ้าจูเลียนส์เบาเวอร์ ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 43 ฟุตที่อาร์เธอร์ มีกล่าวถึงในหนังสือเกี่ยวกับลิงคอล์นเชอร์ว่าสร้างโดยนักบวชในคริสต์ศตวรรษที่ 12 แต่ใน “Lincolnshire Directory of 1872” ของไวท์กล่าวว่าสร้างมาตั้งแต่สมัยโรมันสำหรับเป็นส่วนหนึ่งของการเล่นเกม

ในช่วงเวลาเดียวกันนั้นก็ได้มีการสร้างวงกตราว 500 วงหรือกว่านั้นที่ไม่เกี่ยวข้องกับศาสนาในสแกนดิเนเวีย วงกตเหล่านี้มักจะสร้างกันตามริมฝั่งทะเลโดยการวางหินเป็นลวดลายแบบวงกตคลาสสิกง่ายๆ และมักจะมีชื่อต่างๆ ที่แปลแล้วออกมาเป็น “วงกตเมืองทรอย” (Troy Town) ที่เชื่อกันว่าเป็นวงกตที่สร้างโดยหมู่บ้านชาวประมง เพื่อดักโทรลล์หรือลมในขดวงกตเพื่อให้การเดินทางไปหาปลาปลอดภัย นอกจากนั้นก็ยังมีวงกตที่พบที่หมู่เกาะซิลลีย์แต่ก็ไม่วงใดที่เก่าเท่ากับที่พบที่สแกนดิเนเวีย

การใช้หรือการสร้างวงกตก็อาจจะมีลักษณะหรือใช้วัสดุหลายอย่างที่รวมทั้งลายสลักหิน, วงกตคลาสสิก, วงกตยุคกลาง, ทางเท้า, หญ้า และ ตะกร้า และปรากฏในบริเวณต่างๆ ทั่วโลกตั้งแต่ในทวีปอเมริกาไปจนถึงเอเชีย

ใกล้เคียง