เมนูนำทาง
ศาสตราจารย์ ศาสตราจารย์ในแต่ละประเทศในประเทศไทย ตำแหน่งศาสตราจารย์ ถือเป็นตำแหน่งที่มีเกียรติที่แสดงถึงความเป็นผู้มีความรู้สูง และมีผลงานด้านการศึกษาของบุคคลนั้น ซึ่งต้องผ่านการกลั่นกรองและประเมินผลงานอย่างเคร่งครัดและเข้มงวดในความถูกต้องของวิชา ศาสตราจารย์ประเภทอื่นอาจมีวิธีพิจารณาที่แตกต่างกันออกไป ตามประเภทของศาสตราจารย์ ศาสตราจารย์ระดับสูงสุด เรียกว่า ศาสตราจารย์ญาณวิทย์ (หรือศาสตราจารย์ในระดับ C-11 เดิม) [8] ผู้ที่เป็นศาสตราจารย์ สามารถใช้คำว่า ศาสตราจารย์ นำหน้าชื่อเพื่อลงชื่อในหนังสือ เอกสาร งานสารบรรณ เสมือนยศหรือคำนำหน้าชื่ออย่างอื่น [9][1]
การแต่งตั้งศาสตราจารย์ในประเทศไทย จะต้องผ่านกระบวนการตาม พระราชบัญญัติระเบียบบริหารข้าราชการพลเรือนในมหาวิทยาลัย ทางคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนในมหาวิทยาลัย (ก.ม.) และทบวงมหาวิทยาลัย จะเป็นผู้ให้ความเห็นชอบ แล้วการแต่งตั้งก็นำเข้าคณะรัฐมนตรี เพื่อผ่านไปโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นศาสตราจารย์ ศาสตราจารย์พิเศษที่แต่งตั้งจากบุคคลภายนอกซึ่งไม่ใช่เป็นอาจารย์ประจำของมหาวิทยาลัย จะต้องได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ เพื่อแต่งตั้งเช่นกัน
สำหรับตำแหน่งศาสตราภิชานอาจเป็นตำแหน่งที่มีกำหนดเวลา มักขึ้นกับปีงบประมาณหรือกองทุนศาสตราภิชานของมหาวิทยาลัยที่เชิญ ส่วนศาสตราจารย์กิตติเมธีในประเทศไทยเป็นตำแหน่งที่มหาวิทยาลัยแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิภายนอกมาปฏิบัติ งานวิจัยและบริการวิชาการที่นอกเหนือและสูงกว่างานของศาสตราจารย์ประจำ เช่น กิตติเมธีของมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช อย่างไรก็ดี ทั้งตำแหน่งศาสตราภิชานและศาสตราจารย์กิตติเมธี อาจมีเงื่อนไขในการดำรงตำแหน่งไม่เหมือนกัน เช่น ศาสตราภิชานของไทยมีวาระเพียงปีเดียว
อนึ่ง การใช้ชื่อ ศาสตราจารย์กิตติคุณ หรือ ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ขึ้นอยู่กับมหาวิทยาลัยกำหนด เช่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ใช้ "กิตติคุณ" ส่วนมหาวิทยาลัยมหิดล ใช้ "เกียรติคุณ" เป็นต้น ซึ่งความเป็นอาจารย์ประจำในกรณีนี้ หมายถึง การผูกพันเป็นการประจำกับคณะที่ขอแต่งตั้ง ต่างกับศาสตราจารย์เกษียณอายุที่ได้รับการต่ออายุราชการถึง 65 ปี ซึ่งถือเป็นการทำงานประจำเต็มเวลาปกติเหมือนอาจารย์ประจำทั่วไป ในประเทศไทยยังมีผู้เข้าใจว่า ศาสตราจารย์กิตติคุณ หรือ ศาสตราจารย์เกียรติคุณ เป็นผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิจากบุคคลภายนอกทั่วไปเพื่อเป็นเกียรติเท่านั้น โดยไม่ต้องเป็นศาสตราจารย์มาก่อนซึ่งเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน
ศาสตรเมธาจารย์ในประเทศไทย ได้รับการพิจารณาจากสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ให้ได้ทุน ศาสตรเมธาจารย์ สวทช (NSTDA Chair Professor) โดยพิจารณาจากความสามารถทางการวิจัย สามารถเป็นแกนนำกลุ่มวิจัยขั้นสูง[10] โดยปัจจุบันมีผู้ได้รับการประกาศเป็นศาสตรเมธาจารย์ทั้งสิ้น 4 คน ได้แก่ ศาสตราจารย์ ดร.จำรัส ลิ้มตระกูล คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์[11] ศาสตราจารย์ ดร.พีระศักดิ์ ศรีนิเวศน์ คณะเกษตร กำแพงแสน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์[12] ศาสตราจารย์ ดร. สัตวแพทย์หญิงวันเพ็ญ ชัยคำภา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล[13] และ ศาสตราจารย์ ดร.วัชรินทร์ รุกขไชยศิริกุล คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์[14]
ศาสตราจารย์ของไทย ส่วนมากไม่มีผลงานในเชิงทฤษฎี แต่เป็นผลงานงานวิจัย พิสูจน์สมมติฐาน ที่ได้รับการยอมรับว่า 'ดีมาก' ถ้าเป็นงานวิจัยที่เกี่ยวกับของไทย (เช่น ประวัติศาสตร์ไทย ภาษาไทย วัฒนธรรมไทย โบราณคดี) ควรได้รับการตีพิมพ์ ในวารสารวิชาการของราชบัณฑิตสภา หรือวารสารวิชาการของสภาวิจัยแห่งชาติ มิใช่เพียงวารสารวิชาการของมหาวิทยาลัย
ในสหรัฐอเมริกามีตำแหน่งทางวิชาการหลักใน 3 ระดับ โดยศาสตราจารย์เป็นตำแหน่งสูงสุด ถัดจากนั้นก็จะเป็นรองศาสตราจารย์ และผู้ช่วยศาสตราจารย์ โดยในสหรัฐอเมริกาตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์จะเป็นตำแหน่งที่ได้รับเริ่มแรกหลังจากเข้าบรรจุทำงาน
ตำแหน่งการทำงานเต็มเวลาในวงการวิชาการ ศาสตราจารย์และรองศาสตราจารย์ใช้ชื่อว่า เคียวจุ (ญี่ปุ่น: 教授 โรมาจิ: Kyōju) โดยถัดมาเป็นผู้ช่วยศาสตราจารย์ ที่เรียกว่า จุนเคียวจุ (ญี่ปุ่น: 准教授 โรมาจิ: Junkyōju)
รางวัลราชบัณฑิตเป็นตำแหน่งทางวิชาการสูงสุดของแต่ละประเทศ สำหรับประเทศไทย ต้องได้รับการโปรดเกล้าฯ มีเก้าอี้จำนวนจำกัด จะพ้นวาระก็ต้องเมื่อถึงแก่กรรมเท่านั้น ดังเช่น มี ๒ ตำแหน่งสำหรับ สาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์ ซึ่งต้องคัดเลือกจากศาสตราจารย์ด้านแพทยศาสตร์ นับหลายร้อยคน จากหลายสิบสาขา มีบางกรณีที่ผู้เชี่ยวชาญสูงสุดมิได้ทำงานในสถาบันการศึกษา จึงอาจไม่มีตำแหน่งศาสตราจารย์ก็เป็นได้ ผู้ที่มีตำแหน่งดังกล่าว มีสิทธิที่จะคำว่า ราชบัณฑิต ต่อท้ายชื่อได้
จำนวนศาสตราจารย์ในประเทศไทย[15]ในปัจจุบัน (กรกฎาคม 2561) ประเทศไทยมีจำนวนผู้ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์ในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา(ระบบนำเข้าข้อมูล) และให้ดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์ในสังกัด โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า โรงเรียนนายเรือ โรงเรียนนายเรืออากาศ รวมทั้งสิ้น 1,041 คน แบ่งเป็นศาสตราจารย์ประจำ 804 คน ศาสตราจารย์พิเศษ 122 คน และศาสตราจารย์ญาณวิทย์ (ศาสตราจารย์ ระดับ 11 เดิม) 115 คน โดยจำแนกตามสังกัด ดังนี้[16]
เมนูนำทาง
ศาสตราจารย์ ศาสตราจารย์ในแต่ละประเทศใกล้เคียง
ศาสตราจารย์ ศาสตรา ศรีปาน ศาสตราจารย์เอ็กซ์ ศาสตราคู่กู้แผ่นดิน ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ศาสตรนิพนธ์ ศาสตร์คอมพิวเตอร์ ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี ศาสตราจารย์ฟอเตสคิว ศาสตราจารย์บันโดแหล่งที่มา
WikiPedia: ศาสตราจารย์ http://61.19.241.70/rkj/uploadword/994.doc http://share.psu.ac.th/blog/faculty-senate/12668 http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?n... http://www.nap.mua.go.th/FacultyRecord/Report/Univ... http://www.nap.mua.go.th/FacultyRecord/index.aspx http://royin.go.th/th/knowledge/detail.php?ID=2343 http://royin.go.th/th/knowledge/detail.php?ID=2345 http://royin.go.th/th/knowledge/detail.php?ID=2346 http://royin.go.th/th/knowledge/detail.php?ID=2356 http://royin.go.th/th/knowledge/detail.php?ID=2357