เมนูนำทาง
ศาสนาพุทธกับจิตวิทยา ศาสนาพุทธและจิตวิเคราะห์ครูสอนการปฏิบัติ ผู้รักษา และนักเขียนรวมทั้ง ดี. ที. ซูซูกิ, คาร์ล ยุง, เอริก ฟรอมม์, แอลัน วัตส์, Tara Brach, Jack Kornfield, Joseph Goldstein, และ Sharon Salzberg ได้พยายามเชื่อมและรวมจิตวิเคราะห์กับคำสอนจากพุทธศาสนาทนายอังกฤษนักเขียนหนังสือพุทธคนหนึ่งเรียกการร่วมมือกันในกลางคริสต์ทศวรรษที่ 20 ของนักจิตวิเคราะห์และนักวิชาการทางพุทธศาสนาว่าเป็นการประชุมกันของ
|
แต่ว่าหลังจากนั้น ผู้ปฏิบัติตามศาสนาพุทธได้แสดงความเป็นห่วงว่า การมองพุทธศาสนาผ่านเล็นของจิตวิทยาชาวตะวันตกทำคำสอนการพ้นทุกข์ของพระพุทธเจ้าให้เสื่อมลง[ต้องการอ้างอิง]
คนที่มีอิทธิพลมากที่สุดคนหนึ่งในการเผยแพร่ศาสนาพุทธในโลกตะวันตกก็คือ นักวิชาการพุทธเซนชาวญี่ปุ่น ดี. ที. ซูซูกิ โดยร่วมมือกับจิตแพทย์ นพ. คาร์ล ยุง และนักจิตวิทยา ศ. ดร. เอริก ฟรอมม์ และมีอิทธิพลต่อนักปรัชญา ดร. มาร์ติน ไฮเดกเกอร์[ต้องการอ้างอิง]
นพ. คาร์ล ยุง เขียนคำนำในหนังสือของซูซูกิ คือ ศาสนาพุทธเซนเบื้องต้น (Introduction to Zen Buddhism)[18][lower-alpha 6]ซึ่งเขาเน้นประสบการณ์การรู้แจ้งที่เซนเรียกว่า ซาโตริ (悟り) ว่าเป็น "การแปรสภาพไปสู่เอกภาพที่ไม่มีอะไรเสมอ" สำหรับนักปฏิบัติแบบเซนและแม้ว่าจะยอมรับถึงความความพยายามที่ไม่สมบูรณ์ของชาวตะวันตกที่จะเข้าใจซาโตริผ่านแนวคิดทางปัญญาของชาวตะวันตก[lower-alpha 7]
โดยอ้างการร่วมมือกันระหว่าง นพ. ยุง กับซูซูกิ รวมทั้งความพยายามของคนอื่น นักปรัชญามนุษยนิยมและนักจิตวิเคราะห์ ศ. ดร. เอริก ฟรอมม์ ให้ข้อสังเกตว่า
|
ในปี 2500 ซูซูกิ ดร. ฟรอมม์ และนักจิตวิเคราะห์อื่น ๆ ได้ร่วมมือกันทำเวิ้ร์กฉ้อปเรื่อง "ศาสนาพุทธเซนกับจิตวิเคราะห์" ในเมือง Cuernavaca ประเทศเม็กซิโก[lower-alpha 9]ในการเสนอของเขาที่เวิ้ร์กฉ้อป ดร. ฟรอมม์ประกาศว่า
|
เข้าอ้างว่า ตอนต้นคริสต์ทศวรรษที่ 20 คนไข้จิตวิเคราะห์เสาะหาการรักษาเพราะอาการเหมือนป่วยที่ขัดขวางกิจกรรมทางสังคมแต่โดยกลางทศวรรษ คนไข้โดยมากไม่แสดงอาการอะไรให้ปรากฏ และดำเนินกิจกรรมไปด้วยดี แต่กลับมีปัญหากับ "ความไม่มีชีวิตชีวาของใจ" และว่า
|
ดร. ฟรอมม์กล่าวต่อไปโดยถอดคำของซูซูกิอย่างกว้าง ๆ ว่า
|
เดวิด เบรเซียร์เป็นนักจิตบำบัดที่ผสมเทคนิคจิตบำบัดกับศาสนาพุทธเบรเซียร์ได้ชี้ว่ามีคำแปลได้หลายอย่างสำหรับคำบาลีว่าอริยสัจ 4 ซึ่งทำให้เข้าใจสัจจะเหล่านั้นได้ในรูปแบบใหม่ ๆคำแปลทั่วไปของคำว่า สมุทัย และนิโรธ ก็คือ "เหตุ" และ "ความดับ"เมื่อบวกกับคำแปลของคำว่าทุกข์ จึงเกิดคำอธิบายเหตุของความทุกข์ และความประทับใจว่าทุกข์สามารถกำจัดได้อย่างสิ้นเชิงเบรเซียร์ได้เสนอคำแปลใหม่[23] ซึ่งตีความอริยสัจ 4 อีกแบบหนึ่ง คือ
ในการแปลเช่นนี้ สมุทัยหมายถึงว่า ความยากลำบากที่เป็นปกติของชีวิต (คือทุกข์) จะเกิดพร้อมกับตัณหาหรือความปรารถนา (คือสมุทัย) ว่า ชีวิตควรจะต่างไปจากนี้ นิโรธ หมายถึงการจำกัดตัณหาที่เป็นปฏิกิริยาตามธรรมชาติ ซึ่งไม่สามารถที่จะหนีได้หรือหมดไปได้ แต่สามารถจำกัดได้ ซึ่งให้อิสรภาพแก่เรา[23]
นักจิตบำบัด นพ. มาร์ก เอ็ปสไตน์ สัมพันธ์อริยสัจ 4 กับ "โรคหลงตัวเองหลัก" (primary narcissism) ดังที่อธิบายโดย นพ. โดนัลด์ วินนิค็อตต์ ในทฤษฎีตนจริงตนปลอม (True self and false self)[24][25]สัจจะแรกเน้นความหลีกเลี่ยงไม่ได้ในชีวิตที่จะเกิดความลบหลู่ต่อความภาคภูมิใจแบบหลงตัวเองสัจจะที่สองกล่าวถึงความกระหายดั้งเดิมที่ทำให้ความลบหลู่เป็นเรื่องเลี่ยงไม่ได้ส่วนสัจจะที่สามให้ความหวังของอิสรภาพโดยพัฒนาความคิดความรู้สึกเกี่ยวกับตนที่สมจริง และสัจจะที่สี่บอกวิธีการทำให้สำเร็จเช่นนั้น[26][27]
เมนูนำทาง
ศาสนาพุทธกับจิตวิทยา ศาสนาพุทธและจิตวิเคราะห์ใกล้เคียง
ศาสนา ศาสนาพุทธ ศาสนาฮินดู ศาสนาอิสลาม ศาสนาพุทธในประเทศไทย ศาสนาเชน ศาสนาคริสต์ ศาสนาในประเทศเกาหลีใต้ ศาสนาในประเทศไทย ศาสนาฮินดูในประเทศไทยแหล่งที่มา
WikiPedia: ศาสนาพุทธกับจิตวิทยา http://www.newcollege.utoronto.ca/academics/new-co... http://www.ahalmaas.com/PDF/culture_narcissism.pdf http://www.bhantekovida.com/inquiring/bhante-kovid... http://danbhai.com/rnpsa/winnicott_ego_distortion.... http://www.emotionalcompetency.com/papers/empathyd... http://gradworks.umi.com/31/87/3187903.html http://www.academia.edu/663726/Oliver_Kress_-_A_ne... http://www.naropa.edu/academics/gsp/grad/contempla... http://www.buddhanet.net/compassion.htm http://www.buddhanet.net/depth.htm