สภานิติบัญญัติแห่งชาติ พ.ศ. 2557 (31 กรกฎาคม 2557 – 21 พฤษภาคม 2562[
ต้องการอ้างอิง]) จัดตั้งขึ้นโดย
คณะรักษาความสงบแห่งชาติหลังรัฐประหาร และได้ประกาศใช้
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 แทน
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550มาตรา 6 ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวกำหนดให้มีสภานิติบัญญัติแห่งชาติทำหน้าที่แทน
สภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา และ
รัฐสภา มีจำนวนสมาชิกไม่เกิน 250 คน
[3]โดยมีหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติเป็นผู้เสนอชื่อ ซึ่งในวันที่ 31 กรกฎาคม 2557
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งสมาชิกจำนวน 200 คน ลาออกรวม 12 ราย และได้มีพระบรมราชโองการแต่งตั้งสมาชิกเพิ่มเติม 31 คน หลังจากนั้นมี สมาชิกเสียชีวิต 2 ราย คงเหลือ 217 ราย วันที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2559 มีการแต่งตั้งเพิ่ม 33 ราย จนครบ 250 ราย วันที่ 27 กรกฎาคม 2560
ชูเกียรติ รัตนชัยชาญ เสียชีวิต คงเหลือสมาชิก 249 รายวันที่ 8 สิงหาคม 2557 สมาชิกนิติบัญญัติแห่งชาติได้มีการลงมติเลือกประธานและรองประธาน ผลปรากฏว่าศาสตราจารย์พิเศษ
พรเพชร วิชิตชลชัย เป็นประธาน
สุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย เป็นรองประธานคนที่ 1 และ
พีระศักดิ์ พอจิต เป็นรองประธานคนที่ 2
[4]สื่อต่างประเทศวิจารณ์สภานี้ว่าเป็นสภาตรายาง เพราะมีสมาชิกที่เป็น
ทหารจำนวนมาก
[5] ด้านภายในประเทศสภานิติบัญญัติถูกวิจารณ์เรื่องการเพิ่มอำนาจให้กับพระมหากษัตริย์ในการแต่งตั้ง สถาปนา และถอดถอนสมณศักดิ์ของพระภิกษุในคณะสงฆ์ และแต่งตั้งกรรมการมหาเถรสมาคม
[6] รวมทั้งอำนาจให้พระมหากษัตริย์ให้ทรงแต่งตั้งประธานกรรมการ กรรมการ ผู้อำนวยการทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ และเลขานุการในคณะกรรมการทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ตามพระราชอัธยาศัย
[7]สภานิติบัญญัติแห่งชาติ พ.ศ. 2557 ยังนับเป็นสภาแรกที่ออกพระราชบัญญัติมากถึง 450 ฉบับ
[8] พระราชกำหนด 16 ฉบับ (ณ วันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2562) เฉพาะที่ประกาศใน
ราชกิจจานุเบกษา โดยไม่นับรวมการแก้ไข
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 อีก 4 ฉบับ รวมทั้งสิ้น 470 ฉบับ (ณ วันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2562)สนช.ชุดนี้ยังมีมติในการแต่งตั้งตุลาการศาลปกครองและตุลาการศาลรัฐธรรมนูญอีกด้วย สภานิติบัญญัติแห่งชาติประชุมครั้งสุดท้ายเมื่อวันอังคารที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 ก่อนจะสิ้นสุดการปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการเมื่อวันอังคารที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 เนื่องจากมีการเผยแพร่
พระราชกฤษฎีกาเรียกประชุมรัฐสภา พ.ศ. 2562