การโต้เถียงและคำวิจารณ์ ของ สหประชาชาติ

องค์การสหประชาชาติได้รับการโต้เถียงและคำวิจารณ์มาตั้งแต่กิจกรรมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1950 ในช่วงต้นของการก่อตั้งสหประชาชาติ ได้มีการต่อต้านสหประชาชาติในสหรัฐอเมริกาโดยสมาคมจอห์น เบิรช์ ซึ่งเริ่มต้นการรณรงค์ "ดึงสหรัฐออกจากสหประชาชาติ" ซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1959 ซึ่งกล่าวหาว่านโยบายของสหประชาชาติ คือ การก่อตั้งรัฐบาลโลกเพียงหนึ่งเดียว หลังจากสงครามโลกครั้งที่สองสิ้นสุดลง คณะกรรมการว่าด้วยการปลดปล่อยแห่งชาติฝรั่งเศส ซึ่งได้รับการรับรองจากรัฐบาลสหรัฐอเมริกาให้เป็นรัฐบาลฝรั่งเศสในภายหลัง ดังนั้น ในช่วงแรกฝรั่งเศสจึงถูกกีดกันออกจากการประชุมเพื่อที่จะก่อตั้งองค์การใหม่ขึ้น ชาร์ลส์ เดอ โกลล์ได้วิจารณ์สหประชาชาติว่า le machin ("ไอ้สวะ") และไม่เชื่อมั่นว่าพันธมิตรที่ร่วมกันรักษาความมั่นคงระหว่างประเทศจะช่วยธำรงรักษาสันติภาพไว้ได้ โดยเสนอว่าการทำสนธิสัญญาป้องกันระหว่างประเทศโดยตรงจะดีกว่า[56] ในปี ค.ศ. 1967 ริชาร์ด นิกสัน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ได้วิจารณ์สหประชาชาติว่า "พ้นสมัยและไม่เพียงพอ" ต่อการจัดการปัญหาความขัดแย้งในสมัยนั้น อย่างเช่น สงครามเย็น[57] จีน เคิร์กแพทริก ผู้เลือกให้โรนัลด์ เรแกนเป็นเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำสหประชาชาติ ได้เขียนความเห็นไว้ใน เดอะนิวยอร์กไทมส์ เมื่อปี ค.ศ. 1983 ว่ากระบวนการอภิปรายของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ "มีส่วนเหมือนคนโง่" ของสหรัฐอเมริกา "มากกว่าการโต้วาทีทางการเมืองหรือเพื่อการแก้ปัญหาใด ๆ"[58]

ในการปราศรัยเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2003 ก่อนหน้าการรุกรานอิรักของสหรัฐอเมริกาไม่นานนัก นายจอร์จ ดับเบิลยู. บุช กล่าวว่า "เหล่าประเทศเสรีจะไม่ปล่อยให้สหประชาชาติเลือนหายไปในประวัติศาสตร์ในฐานะของสมาคมโต้วาทีที่ไม่มีประสิทธิภาพและไม่ตรงประเด็น"[59] ในปี ค.ศ. 2005 เขาได้แต่งตั้งให้นายจอห์น อาร์. โบลตันเป็นเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำสหประชาชาติ ซึ่งเขาได้กล่าวในปี ค.ศ. 1994 ว่า "ไม่มีอะไรในโลกนี้จะเป็นสหประชาชาติได้ เพราะมันเป็นเพียงแค่ประชาคมโลก ซึ่งสามารถนำได้โดยประเทศอภิมหาอำนาจที่เหลืออยู่ คือ สหรัฐอเมริกาเพียงประเทศเดียวเท่านั้น"[60]

ในปี ค.ศ. 2004 อดีตเอกอัครทูตอิสราเอลประจำสหประชาชาติ ดอร์ โกลด์ ได้ตีพิมพ์หนังสือที่มีชื่อว่า Tower of Babble: How the United Nations Has Fueled Global Chaos ซึ่งได้วิจารณ์สหประชาชาติในสิ่งที่เรียกว่าความสัมพันธ์ของศีลธรรมในการเผชิญหน้ากับการล้างชาติพันธุ์และการก่อการร้าย ซึ่งเกิดขึ้นระหว่างช่วงเวลาก่อตั้งกับเวลาปัจจุบัน ขณะที่สหประชาชาติในช่วงที่กำลังก่อตั้งมีความจำกัดต่อชาติที่ประกาศสงครามต่อประเทศฝ่ายอักษะอย่างน้อยหนึ่งประเทศ ระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง และยังได้สามารถยืดหยัดต่อต้านความชั่วร้ายได้ ส่วนสหประชาชาติสมัยใหม่ตามความเห็นของโกลด์แล้ว มีความเจือจางลงจนถึงจุดที่มีเพียงรัฐสมาชิก 75 จาก 184 รัฐ (ในขณะนั้น) เท่านั้นที่ "เป็นประชาธิปไตยเสรี เมื่อดูจากการสำรวจของฟรีดอมเฮาส์ เขาได้กล่าวต่อไปว่านี่เป็นการเปลี่ยนแปลงสหประชาชาติ ดังนั้น ตัวองค์กรโดยรวมจึงมีแนวโน้มที่จะมีความต้องการตามอย่างของเผด็จการ

อคติในความขัดแย้งอาหรับ-อิสราเอล

ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับอิสราเอลและปาเลสไตน์ในความขัดแย้งอาหรับ-อิสราเอลได้ทำให้สหประชาชาติสิ้นเปลืองเวลาโต้วาที ออกมติและทรัพยากรจำนวนมาก

คณะกรรมการพิเศษปาเลสไตน์แห่งสหประชาชาติได้ตัดสินใจสนับสนุนให้มีการผนวกปาเลสไตน์เข้ากับสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติเมื่อปี ค.ศ. 1947[61] เป็นการตัดสินใจในช่วงแรกของการก่อตั้งสหประชาชาติ นับตั้งแต่นั้นมา สหประชาชาติมีบทบาทสำคัญในพื้นที่พิพาทดังกล่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การให้ความช่วยเหลือผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ผ่านทางองค์การทำงานและบรรเทาทุกข์เพื่อชาวปาเลสไตน์ในดินแดนตะวันออกใกล้ประจำสหประชาชาติ และมอบเวทีแสดงความคิดเห็นทางการเมืองผ่านทางคณะกรรมการสิทธิ์การโยกย้ายชาวปาเลสไตน์ แผนกสิทธิชาวปาเลสไตน์ประจำสหประชาชาติ คณะกรรมการพิเศษสืบสวนการละเมิดสิมธิมุนษยชนชาวปาเลสไตน์โดยอิสราเอล ระบบข้อมูลในกระทู้เกี่ยวกับปาเลสไตน์แห่งสหประชาชาติและวันแห่งความร่วมมือกับชาวปาเลสไตน์สากล สหประชาชาติได้สนับสนุนให้เกิดสนธิสัญญาสันติภาพระหว่างพรรคการเมือง โดยครั้งล่าสุด คือ แผนที่ถนนเพื่อสันติภาพ เมื่อปี ค.ศ. 2002

จนถึงปัจจุบัน ปัญหาในตะวันออกกลางได้ทำให้สหประชาชาติต้องออกมติสมัชชาใหญ่คิดเป็น 76% มติคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติคิดเป็น 100% มติผู้ตรวจการสิทธิสตรีแห่งสหประชาชาติคิดเป็น 100% รายงานของโครงการอาหารโลกคิดเป็น 50% มติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติคิดเป็น 6% และเป็นหัวข้อในสมัยการประชุมพิเศษฉุกเฉินของสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ 6 ครั้งจากทั้งหมด 10 ครั้ง จากมติสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติที่ 3379 (ค.ศ. 1975) ได้เริ่มต้นว่า "ลัทธิไซออนคือลัทธิการแบ่งแยกเชื้อชาติ" และล้มเลิกเมื่อปี ค.ศ. 1991 โดยการตัดสินใจเหล่านี้ได้ผ่านจากการสนับสนุนจากองค์การการประชุมอิสลาม ซึ่งได้ประณามต่อการปฏิบัติต่อชาวปาเลสไตน์ของอิสราเอล ซึ่งได้มีหลายคนที่กล่าวว่าเป็นการกระทำที่เลยเถิดเกินไป คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์เป็นวงกว้างในปี ค.ศ. 2007 เนื่องจากความล้มเหลวในการป้องกันการละเมิดสิทธิมนุษยชนของอิสราเอล

สหรัฐอเมริกาเองก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากในการใช้อำนาจยับยั้งในการตัดสินใจของสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับอิสราเอล เป็นที่รู้จักกันว่า "ลัทธิเนโกรปอนเต"

ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1961 อิสราเอลถูกกีดกันออกจากเขตพื้นที่ทวีปเอเชีย ในปี ค.ศ. 2000 อิสราเอลตกลงที่จะเข้าร่วมกับกลุ่มประเทศยุโรปตะวันตกและอื่น ๆ องค์การทำงานและบรรเทาทุกข์เพื่อชาวปาเลสไตน์ในตะวันออกใกล้ประจำสหประชาชาติตกเป็นเป้าการวิพากษ์วิจารณ์ในชะตากรรมของผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ แม้ว่าสหประชาชาติจะกล่าวโทษลัทธิต่อต้านชาวยิว แต่ว่าก็มีผู้กล่าวว่ามีคนจำนวนมากที่ต่อต้านชาวยิวทำงานในสหประชาชาติ และมีส่วนร่วมในความขัดแย้งระหว่างทั้งสองฝ่ายหลายกรณีด้วยกัน

โครงการน้ำมันแลกอาหาร

โครงการน้ำมันแลกอาหารถูกก่อตั้งโดยสหประชาชาติในปี ค.ศ. 1996 เพื่อให้อิรักขายน้ำมันเพื่อแลกกับอาหาร ยา และปัจจัยพื้นฐานให้แก่ชาวอิรักซึ่งได้รับผลกระทบจากการแซงชั่นทางเศรษฐกิจ เพื่อป้องกันไม่ให้รัฐบาลอิรักสร้างกำลังทหารขึ้นมาใหม่หลังจากสงครามอ่าว อิรักได้ส่งน้ำมันสู่ตลาดโลกกว่า 65,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยในจำนวนนี้เป็นค่าใช้จ่ายทางด้านปัจจัยพื้นฐานเป็นจำนวน 46 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภาษีเพิ่มเติมที่จ่ายเพื่อชำระค่าปฏิกรรมสงครามสงครามอ่าวผ่านทางกองทุนชดเชย โครงการปกครองของสหประชาชาติและค่าปฏิบัติการสำหรับโครงการ (2.2%) และโครงการตรวจตราอาวุธ (0.8%)

โครงการดังกล่าวถูกล้มเลิกในตอนปลายปี 2003 ท่ามกลางข้อครหาจากโทษและการฉ้อราษฎร์บังหลวง ผู้กำกับโครงการคนก่อน บีนอน ซีแวน ถูกระงับและลาออกจากสหประชาชาติ การทำรายงานสืบสวนโดยได้รับการสนับสนุนจากสหประชาชาติได้สรุปว่าเซแวนรับเงินสินบนจากรัฐบาลอิรัก[62] โตโจ อันนัน ถูกกล่าวหาเช่นกันว่าผิดกฎหมายในการอนุมัติข้อตกลงน้ำมันแลกอาหารบนผลประโยชน์ของบริษัทสวิส โคเทคนา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของอินเดีย เค. นัทวาร์ ซิงฮ์ ถูกให้ออกจากตำแหน่งเพราะมีเรื่องอื้อฉาว และออสเตรเลียนวีทบอร์ดก็ฝ่าฝืนกฎหมายเนื่องจากทำข้อตกลงไว้กับอิรัก[63]

ด้านอื่น

อัลบิน คูร์ติ นักเคลื่อนไหวจากคอซอวอ ได้กล่าวหาองค์การสหประชาชาติ ผู้ปกครองคอซอวอมาตั้งแต่ ค.ศ. 1999 เนื่องจากว่าตามกลั่นแกล้งและจับกุมเขาด้วยเหตุผลทางการเมือง การกล่าวหาของเขาได้รับการสนับสนุนจากองค์การสิทธิมนุษยชนสากล อย่างเช่น องค์กรนิรโทษกรรมสากลและสหพันธ์เฮลซิงกิสากล ตามรายงานของอัมเนสตี ผู้พิพากษาที่ได้รับเลือกจากสหประชาชาติ "จวนเจียนจะถึงโจทก์หลังจากการฟัง - ในการขาดทั้งคูร์ติหรือนักกฎหมายที่ศาลมอบหมาย - เพื่อที่จะคลายความสงสัยที่ฝ่ายโจทก์จะแนะนำความสัมพันธ์ถึงการกักขังตัวเขาไว้"[64]

ใกล้เคียง

สหประชาชาติ สหประชาชาติจำลอง วันสหประชาชาติ สุประวัติ ปัทมสูต สีประจำวันในประเทศไทย สีประจำโรงเรียน สนประดิพัทธ์ สมประสงค์ สิงหวนวัฒน์ สีประจำชาติ สุประวีณ์ มีประทัง

แหล่งที่มา

WikiPedia: สหประชาชาติ http://elearning.security-research.at/flash/un http://www.ag.gov.au/agd/WWW/unoilforfoodinquiry.n... http://www.eqrolc.ca/ http://foreignpolicy.com/story/cms.php?story_id=34 http://books.google.com/books?id=1e13PNeB4DIC&pg=P... http://hanskoechler.com/koechler-quo-vadis-UN.htm http://www.iht.com/articles/2006/05/08/news/abuse.... http://www.iht.com/articles/ap/2007/11/02/news/UN-... http://www.innercitypress.com/ http://www.nytimes.com/2006/02/26/opinion/26sun2.h...