อนุกรมวิธานและการวิวัฒนาการ ของ สิงโต

สิงโตเป็นสปีชีส์ในสกุล Panthera และเป็นญาติใกล้ชิดกับสปีชีส์อื่นในสกุลเดียวกันคือ: เสือโคร่ง เสือจากัวร์ และเสือดาว Panthera leo มีวิวัฒนาการในทวีปแอฟริการะหว่าง 1ล้านถึง 800,000 ปีมาแล้ว ก่อนจะแพร่กระจายไปทั่วภูมิภาคซีกโลกตอนเหนือ[6] สิงโตปรากฏตัวในทวีปยุโรปครั้งแรกเมื่อ 700,000 ปีก่อน ซึ่งมีการค้นพบสิงโตชนิดย่อย Panthera leo fossilis ที่อีแซร์เนีย (Isernia) ในประเทศอิตาลี จากสิงโตชนิดนี้ก็กลายเป็นสิงโตถ้ำ (Panthera leo spelaea) ในภายหลัง ปรากฏตัวขึ้นเมื่อ 300,000 ปีมาแล้ว ระหว่างปลายสมัยไพลสโตซีน สิงโตได้แพร่กระจายสู่อเมริกาเหนือและอเมริกาใต้และวิวัฒนาการเป็นสิงโตอเมริกา (Panthera leo atrox)[7] สิงโตได้สูญหายไปจากตอนเหนือของทวีปยูเรเชียและทวีปอเมริกาในช่วงจุดจบของการเปลี่ยนสภาพโดยธารน้ำแข็งครั้งสุดท้ายเมื่อ 10,000 ปีมาแล้ว[8] ซึ่งอาจเป็นเหตุการณ์การสูญพันธุ์ครั้งที่สองของมหพรรณสัตว์ (megafauna) ในสมัยไพลสโตซีน[9]

ชนิดย่อย

สิงโตในปัจจุบัน เดิมมี 12 ชนิดย่อยที่ได้รับการยอมรับ จำแนกความแตกต่างจาก แผงคอ ขนาด และการกระจายพันธุ์ เพราะลักษณะเหล่านี้ไม่ได้มีนัยสำคัญและมีความแปรผันในแต่ละตัวสูง ทำให้รูปแบบส่วนมากอาจไม่ใช่ชนิดย่อยที่แท้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การตั้งอยู่บนพื้นฐานของสิงโตในสวนสัตว์ซึ่งไม่ทราบแหล่งที่มานั้นอาจมี "ความโดดเด่น แต่ผิดปกติ" ในลักษณะทางสัณฐานวิทยา[10] ปัจจุบันเหลือเพียง 8 ชนิดย่อยที่ได้รับการยอมรับ[8][11] แม้ว่าหนึ่งในนั้น (สิงโตแหลมกูดโฮพ ปกติจำแนกเป็น Panthera leo melanochaita) อาจเป็นโมฆะ[11]แม้ว่า 7 ชนิดย่อยที่เหลืออาจดูมาก แต่ความแปรผันของไมโทคอนเดรียในสิงโตแอฟริกาปัจจุบันกลับไม่มากนักซึ่งแสดงว่าสิงโตในตอนใต้ของทะเลทรายซาฮาราทั้งหมดสามารถพิจารณาเป็นชนิดย่อยเดียวกันได้ อาจเป็นเพราะการแยกตัวในสองเครือบรรพบุรุษหลัก หนึ่งในทางตะวันตกของเกรตริฟต์แวลลีย์ และอีกหนึ่งในทางตะวันออก สิงโตจากซาโว (Tsavo) ในทางตะวันออกของประเทศเคนยามีพันธุกรรมใกล้เคียงกับสิงโตในทรานซ์วาล (Transvaal) แอฟริกาใต้มากกว่าสิงโตในเทือกเขาอเบอร์แดร์ (Aberdare) ในทางตะวันตกของประเทศเคนยา[12][13] ในทางกลับกัน เปอร์ คริสเตียนเซน (Per Christiansen) ทำการวิเคราะห์กะโหลกสิงโต 58 กะโหลกในสามพิพิธภัณฑ์ในยุโรป และพบว่าถ้าใช้สัณฐานวิทยาของกะโหลกสามารถแยกชนิดย่อยได้เป็น krugeri nubica persica และ senegalensis ขณะที่มีการเลื่อมล้ำกันระหว่าง bleyenberghi กับ senegalensis และ krugeri สิงโตเอเชีย persica มีความโดดเด่นอย่างเด่นชัด และสิงโตแหลมกูดโฮพมีลักษณะใกล้ชิดกับสิงโตเอเชียมากกว่าสิงโตแอฟริกา[14]

สิงโตในปัจจุบัน

มี 8 ชนิดย่อยในปัจจุบัน (สมัยโฮโลซีน) ที่ได้รับการยอมรับ:

สิงโตสมัยไพลสโตซีน

มีชนิดย่อยของสิงโต 2-3 ชนิดที่มีชีวิตอยู่ในช่วงสมัยก่อนประวัติศาสตร์:

  • P. l. atrox หรือที่รู้จักกันในชื่อสิงโตอเมริกาหรือสิงโตถ้ำอเมริกา กระจายพันธุ์ในทวีปอเมริกาจากประเทศแคนาดาถึงประเทศเปรูในสมัยไพลสโตซีนจนกระทั่งราว 10,000 ปีมาแล้ว ชนิดย่อยนี้บางครั้งได้รับการพิจารณาเป็นตัวแทนที่แยกจากกันของชนิด เป็นสัตว์สปีชีส์อื่นที่ไม่ใช่สิงโต แต่การศึกษาถึงวิวัฒนาการแสดงว่าแท้จริงแล้วมันคือชนิดย่อยของสิงโต (Panthera leo)[8][21] เป็นสิงโตขนาดใหญ่ ลำตัวยาวประมาณ 1.6–2.5 ม. (5–8 ฟุต)[22]
  • P. l. fossilis หรือที่รู้จักกันในชื่อสิงโตถ้ำไพลสโตซีนต้นตอนกลาง มีชีวิตอยู่เมื่อประมาณ 500,000 ปีมาแล้ว ค้นพบซากดึกดำบรรพ์ที่ประเทศเยอรมนีและประเทศอิตาลี มีขนาดใหญ่กว่าสิงโตแอฟริกาในปัจจุบัน ขนาดใกล้เคียงกับสิงโตถ้ำอเมริกา[8][23]
ภาพสิงโตถ้ำในโถงแมว ถ้ำลาสโก
  • P. l. spelaea หรือที่รู้จักกันในชื่อสิงโตถ้ำยุโรป สิงโตถ้ำยูเรเชีย หรือสิงโตถ้ำยุโรปไพลสโตซีนตอนปลาย ปรากฏขึ้นเมื่อในยูเรเชีย 300,000 ถึง 10,000 ปีมาแล้ว[8] สิงโตชนิดนี้เป็นที่รู้จักจากภาพวาดยุคหินเก่า, งาหรือเขาสัตว์แกะสลัก และรูปปั้นจากดิน[24] มีลักษณะหูยื่น หางเป็นพู่ อาจมีลายทางจางๆคล้ายเสือโคร่ง และเพศผู้บางตัวมีขนแผงคอ[25]

ชนิดย่อยที่ยังไม่แน่นอน

  • P. l. sinhaleyus หรือที่รู้จักกันในชื่อสิงโตศรีลังกา ดูเหมือนจะสูญพันธุ์เมื่อประมาณ 39,000 ปีมาแล้ว มีการขุดค้นพบเพียงฟัน 2 ซี่เท่านั้นที่กุรุวิตา (Kuruwita) ด้วยพื้นฐานของฟัน 2 ซี่นี้ พี. ดีแรนนิรากะยา (P. Deraniyagala) ได้ตั้งชนิดย่อยขึ้นในปี ค.ศ. 1939[26]
  • P. l. europaea หรือที่รู้จักกันในชื่อสิงโตยุโรป สถานะชนิดย่อยของสิงโตชนิดนี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัด ซึ่งมันอาจจะเป็นชนิดย่อย Panthera leo persica หรือ Panthera leo spelea ก็ได้ สิงโตชนิดนี้สูญพันธุ์เมื่อราวคริสต์ศักราชที่ 100 เพราะการล่าและหาประโยชน์มากเกินไป สิงโตมีถิ่นอาศัยในบอลข่าน, คาบสมุทรอิตาลี, ตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศส, และคาบสมุทรไอบีเรีย เป็นสัตว์ที่นิยมล่าในโรมันและกรีก
  • P. l. youngi หรือ Panthera youngi มีชีวิตอยู่เมื่อ 350,000 ปีมาแล้ว[27] ความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับสิงโตชนิดย่อยในปัจจุบันยังคลุมเครือ มันอาจเป็นสปีชีส์ที่แยกออกไปต่างหาก
  • P. l. maculatus หรือที่รู้จักกันในชื่อมาโรไซหรือสิงโตลายจุด บางคนเชื่อว่าเป็นสิงโตชนิดย่อยแต่ก็อาจเป็นสิงโตเต็มวัยที่ยังคงเหลือลายจุดจากวัยเด็กไว้ ถ้ามันเป็นชนิดย่อยจริง สิงโตชนิดนี้จะสูญพันธุ์ไปตั้งแต่ปี ค.ศ. 1931 ยังมีความเป็นไปได้อีกกรณีหนึ่งคือมันเป็นลูกผสมตามธรรมชาติของสิงโตกับเสือดาวหรือที่รู้จักกันในชื่อเลโอปอน (leopon) แต่มีความเป็นไปได้น้อยมาก[28]

แหล่งที่มา

WikiPedia: สิงโต http://books.google.com.au/books?id=ecgil9AfV1QC&p... http://www.adelaide.edu.au/acad/publications/paper... http://www.beringia.com/research/lion.html http://www.etymonline.com/index.php?term=panther http://books.google.com/?id=O8SgPwAACAAJ http://www.junglephotos.com/africa/afanimals/mamma... http://news.nationalgeographic.com/news/2002/04/04... http://news.nationalgeographic.com/news/2002/06/06... http://news.nationalgeographic.com/news/2002/08/08... http://www.pawnation.com/2009/04/29/lion-tamer/