ความเป็นเจ้าของและฐานะทางการเงิน ของ สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล

รายงานทางการเงินแสดงให้เห็นว่ามีรายได้จำนวน 137 ล้านปอนด์ที่เข้ามาสู่สโมสรจากการขายนักเตะ ซึ่งรายได้ทั้งหมดนี้ รวมกับงบลงทุนเพิ่มเติม ได้ย้อนกลับไปสู่การลงทุนในทีม ทำให้มียอดรวมในการใช้จ่ายเพื่อซื้อผู้เล่นใหม่สูงขึ้นถึง 190 ล้านปอนด์[58]

ระหว่างงวดปี สิ้นสุดวันที่ 31 พ.ค. 2018 โมฮาเหม็ด ซาลาห์, เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค, แอนดี โรเบิร์ตสัน, อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน และโดมินิก โซลันกี ได้ย้ายเข้ามา ขณะที่ฟิลิปเป้ คูตินโญ่, มามาดู ซาโก้, ลูคัส เลวา และเควิน สจ็วร์ต อำลาสโมสรไป

และตั้งแต่งวดปีล่าสุด ยังคงมีการลงทุนอย่างต่อเนื่องกับนาบี เกอิต้า, ฟาบินโญ่, อลิสสัน เบ็คเกอร์, เซอร์ดาน ชากิรี การซื้อทั้งหมดได้เพิ่มความแข็งแกร่งในทีม ที่เป็นสิ่งที่ Fenway Sports Group กลุ่มเจ้าของสโมสรได้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา

มูลค่าการซื้อขายเพิ่มขึ้นระหว่างช่วงเวลาดังกล่าว 90 ล้านปอนด์ รวมเป็นจำนวน 455 ล้านปอนด์ซึ่งแสดงถึงการเติบโตอย่างยั่งยืนทั่วทั้งสโมสร และทำให้สามารถเพิ่มการลงทุนเข้าสู่ทีมในอนาคตได้ รายได้จากทั้งสามทางต่างเพิ่มสูงขึ้น โดยเป็นการเพิ่มขึ้นของรายได้จากสื่อ 66 ล้านปอนด์ รวมเป็นจำนวน 220 ล้านปอนด์ รายได้เชิงพาณิชย์เพิ่มขึ้น 17 ล้านปอนด์ รวมเป็นจำนวน 154 ล้านปอนด์ และรายได้จากเกมการแข่งขันเพิ่มขึ้น 7 ล้านปอนด์ รวมเป็นจำนวน 81 ล้านปอนด์

รายได้ส่วนใหญ่ที่เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากการผ่านเข้าไปเล่นในแชมเปียนส์ลีก และจำนวนเกมที่เพิ่มขึ้นจนไปถึงนัดชิงชนะเลิศ สโมสรไม่ได้เข้าร่วมการแข่งขันในฤดูกาลก่อนหน้านั้นอย่างฤดูกาล 2016-17 กำไรก่อนหักภาษีสำหรับงวดเพิ่มขึ้นเป็น 125 ล้านปอนด์ เมื่อเทียบกับ 40 ล้านปอนด์ในปีก่อน

แอนดี ฮิวจ์ส ประธานเจ้าหน้าฝ่ายปฏิบัติการกล่าวว่า “สิ่งที่เราได้เห็น คือ การพัฒนาที่มั่นคงและยั่งยืนในสถานะทางการเงินของสโมสรในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การเติบโตนี้และรายได้ที่เพิ่มขึ้นทำให้เราสามารถลงทุนกลับคืนไปยังทีมและโครงสร้างพื้นฐานในการปฏิบัติการด้านฟุตบอลได้อย่างมีนัยสำคัญ”

“ผลประกอบการทางการเงินนั้นขึ้นอยู่กับต้นทุนการซื้อขายผู้เล่น และระยะเวลาของการจ่ายชำระเงิน แต่สิ่งที่ชัดเจนในผลลัพธ์ล่าสุด คือ การเสริมความแข็งแกร่งเพิ่มเติมในรากฐานทางการเงินและผลกำไรที่ถูกใช้ลงทุนในทีมและโครงสร้างพื้นฐาน”

“นับตั้งแต่สิ้นสุดรอบระยะเวลาตามรายงาน ซึ่งตอนนี้ผ่านมาเกือบ 12 เดือน เราได้กลับไปลงทุนต่อเนื่องภายในทีมจากส่วนต่างๆ ที่เติบโตขึ้น นอกจากนี้ ยังมีการลงทุนในศูนย์ฝึกใหม่ของเราที่เคิร์กบี ที่ตอนนี้อยู่ในระหว่างการดำเนินการ ที่จะก่อให้เกิดสิ่งอำนวยความสะดวกชั้นเลิศสำหรับผู้เล่น และพนักงานของเรา และจะเป็นการปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการกีฬาสำหรับชุมชนเคิร์กบีอย่างมากมาย”

ลิเวอร์พูลได้ขยับขึ้นไป 2 อันดับโดยรั้งอันดับ 7 ใน Deloitte Football Money League โดยมีรายได้หลักทั้งสามทางที่เพิ่มขึ้นในงวดปีที่ผ่านมา โดยในงวดบัญชีที่ผ่านมา สโมสรได้ลงนามในความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์รายใหม่ถึง 8 ราย รวมทั้งสปอนเซอร์แขนเสื้อใหม่กับ Western Union และพันธมิตรระดับโลกกับ Falken Tyres และ Joie.

นอกเหนือจากพาร์ทเนอร์ใหม่ 8 รายแล้ว สโมสรยังได้ต่ออายุพาร์ทเนอร์อีก 4 ราย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งด้านความสัมพันธ์ที่มีความมั่นคงในการส่งมอบคุณค่าให้แก่พาร์ทเนอร์ และการดึงดูดความสนใจในระดับโลกของสโมสร มันยังเป็นช่วงเวลาที่สโมสรฉลองครบรอบ 125 ปี และเสื้อที่ระลึกได้กลายเป็นเสื้อที่ขายดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร

สโมสรลิเวอร์พูลยังมีการเติบโตด้านสื่อดิจิทัลที่สำคัญ และกลายเป็นหนึ่งในสโมสรฟุตบอลที่เติบโตเร็วที่สุดบนโซเชียลมีเดีย รวมถึงแพลตฟอร์มอินสตาแกรม ที่ดึงดูดผู้ติดตาม 3 ล้านคน คิดเป็นอัตราการเติบโต 71% ต่อปี ขณะที่เฟซบุ๊ก และทวิตเตอร์ก็เติบโตอย่างต่อเนื่อง และได้เห็นการโต้ตอบของแฟน ๆ 27 ล้านคนทางทวิตเตอร์ในระหว่างงวดปีบัญชี

โดยรวมแล้ว ช่องทางโซเชียลมีเดียของสโมสร นั้นมีอัตราการเติบโตโดยรวม 14 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งมีผู้ติดตามมากกว่า 60 ล้านคนในทุกช่องทางดิจิทัล ในเดือนพฤษภาคมปี 2018 สโมสรมีจำนวนผู้ชมสูงสุดทางยูทูป เมื่อเทียบกับสโมสรในพรีเมียร์ลีก และเป็นที่ 3 เมื่อเทียบกับสโมสรกีฬาทั่วโลก

รายได้ในวันแข่งขันที่เพิ่มขึ้น 7 ล้านปอนด์ มาจากความสำเร็จอย่างต่อเนื่องในการสร้างอัฒจันทร์เมน สแตนด์ และผลจากยอดขายตั๋วสำหรับนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งการเพิ่มขึ้นของเกมแชมเปียนส์ลีกในฤดูกาลที่แล้ว

รายได้ด้านสื่อเพิ่มขึ้น 66 ล้านปอนด์ในปีที่ 2 ของสัญญาถ่ายทอดสดของพรีเมียร์ลีก 3 ฤดูกาล

ฮิวจ์สกล่าวเสริมว่า “เรากำลังก้าวหน้าอย่างมั่นคงทั่วทั้งสโมสร ค่าใช้จ่ายในวงการฟุตบอลเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกๆ ปี และเป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องมีการสอบทานและอย่างต่อเนื่อง และจัดการต้นทุนการดำเนินงานของเรา เพื่อให้แน่ใจว่าเราอยู่ในสภาพที่เหมาะสมสำหรับความสำเร็จในอนาคต”

ใกล้เคียง

สโมสรฟุตบอลทอตนัมฮอตสเปอร์ สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด สโมสรฟุตบอลเรอัลมาดริด สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตี สโมสรฟุตบอลเชลซี สโมสรฟุตบอลอาร์เซนอล สโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนา สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล สโมสรฟุตบอลอินแตร์นาซีโอนาเลมีลาโน สโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ซิตี

แหล่งที่มา

WikiPedia: สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล http://www.bbc.com/sport/0/football/30713430 http://www.bbc.com/sport/0/football/34423344 http://www.bbc.com/sport/0/football/34469429 http://www.bbc.com/sport/football/36254631 http://www.bloomberg.com/news/2012-05-16/liverpool... http://www.fifa.com/classicfootball/clubs/club=189... http://www.fifa.com/classicfootball/news/newsid=79... http://www.goal.com/th/news/4280/%E0%B8%9F%E0%B8%B... http://www.goal.com/th/news/4289/12th/2012/05/19/3... http://www.lfctour.com/english/news